จากเทคโนโลยีสุดล้ำกลับสู่ความเป็นมนุษย์(1)

จนหลายๆคนเริ่มมีคำถามว่า “ความเป็นคน” ของเรานั้นก้าวทันไปพร้อมกับความพัฒนาทางเทคโนโลยียุคนี้กันหรือเปล่า, เทคโนโลยีทำให้ชีวิตเราดีขึ้นจริงๆหรือ และความสุขของเราในชีวิตดิจิทัลสุดล้ำนั้นเป็นเรื่องที่จริงหรือไม่

The New Normal มาตรฐานใหม่ของชีวิตดิจิทัล

สังคมก้มหน้ากลายเป็นสิ่งปกติที่เห็นกันในชีวิตประจำวันแทบทุกวัยทุกสายอาชีพ เวลาที่อยู่กับสกรีนต่างๆ มาแย่งช่วงเวลาสำหรับความสัมพันธ์ในชีวิตจริง แม้จะเป็นประเด็นที่หลายๆคนใส่ใจ แต่ก็ไม่ได้เกิดให้การเปลี่ยนแปลงในแง่พฤติกรรมมากนัก

การโชว์และแชร์ทุกช่วงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกระแสถ่ายรูปอาหาร Food Porn กระแสถ่ายรูปตัวเอง Selfie กระแสแย่งซีน Photobomb กระแสมนุษย์แม่แชร์รูปลูกอย่างไม่หยุดยั้ง Sharenting และกระแสใหม่ๆที่มาตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ล้วนก่อให้เกิดประเด็นในแง่จิตวิทยาอย่างหนึ่ง คือวัฒนธรรมความลุ่มหลงตนเอง มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นดารา ต้องการได้รับการตอบรับเชิงบวก โดยไม่สำคัญว่าสิ่งที่ตนเองโพสต์จะเป็นเรื่องจริงหรือสร้างภาพ เป็นประเด็นว่าการที่เรากล้าแสดงออกในโลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้เรามีความภาคภูมิใจในตัวเองลดลงหรือเปล่า

ด้วยความที่ดิจิทัลเป็นวัฒนธรรมเปิดและมีความอิสระในการแสดงความคิดเห็น ประกอบกับความที่คนไทยมักไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นในชีวิตจริง แต่เก็บมาระบายในโลกโซเชียล หรือแม้แต่เวลาเห็นโพสต์อะไรก็รู้สึกว่าต้องแสดงความคิดเห็นผ่านการคอมเม้นต์ แสดงอารมภ์กับสถานการณ์ที่ตัวเองไม่พอใจในชีวิตประจำวัน เป็นประเด็นก่อความเครียดและความขัดแย้งแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

มาจนถึงปัญหาระดับโลกอย่าง Cyberbully หรือ Internet Troll พฤติกรรมเกรียนออนไลน์ สร้างความกดดัน ใส่ร้าย และบั่นทอนความมั่นใจชีวิตคนอื่น จนก่อให้เกิดปัญหาฆ่าตัวตายโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ล้วนแต่เกิดเป็นคำถามว่าการที่เราพูดอะไรก็ได้กับใครก็ได้ในโลกออนไลน์ ทำให้ความเป็นมนุษย์ของเราน้อยลงหรือไม่ ทำให้เราไม่ตรึกตรองสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารและผลที่จะตามมา และทำให้ความดีงามกลายเป็นสิ่งที่หายากขึ้นหรือเปล่า

 

ในมุมมองของการสื่อสารการตลาด ประเด็นต่างๆเหล่านี้ล้วนถูกนำมาใช้ในการรณรงค์ ผ่านการสื่อสารของแบรนด์ในหลากหลายรูปแบบที่มาจับประเด็นร้ายและประเด็นร้อนต่างๆในโลกออนไลน์ เพื่อนำมาสร้างสรรค์งานครีเอทีฟที่มีจุดมุ่งหวังเปิดมุมมองการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมออนไลน์ให้เป็นพื้นที่ที่น่าอยู่มากขึ้น

The Human-Bot ความเป็นมนุษย์ของหุ่นยนต์

ในมุมมองของเทคโนโลยีที่ถูกจับตามองอย่างมากในปีนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของ บทบาทใหม่ของหุ่นยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ Robot ที่เป็นตัวหุ่นยนต์ รูปแบบ Digital Assist ที่เป็นผู้ช่วยดิจิทัลคอยตอบคำถาม เตือนความจำ และให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะผ่านมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ภายในบ้าน ไปจนถึงรูปแบบ Chatbot ที่คอยตอบคำถามที่เรามีผ่านสื่อโซเชียลอย่าง Instant Messaging เป็นต้น ล้วนให้ความหมายใหม่กับเทคโนโลยีที่ถูกนำความเป็นมนุษย์ใส่เข้าไปอย่างเต็มอณูการดีไซน์ เพื่อตอบโจทย์ที่มนุษย์หันมาหาความเป็น Human Touch ทำให้คำว่าหุ่นยนต์ที่เราคุ้นเคยมีความหมายที่เปลี่ยนไป

ตอนหน้าเรามาดูเทรนด์ของเทคโนโลยีที่จะมายกระดับการใช้ชีวิตของมนุษย์และสร้างสรรค์สิ่งดีๆกับสังคมที่เราอยู่กันนะคะ