ภารกิจลับจับ‘ธัมมชโย’
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา
ได้ให้แนวทางการดำเนินการตาม “หมายจับ” ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งได้ตกเป็นผู้ต้องสมคบและร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สอบสวนดำเนินคดีกับ ศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ในความผิดเรื่องยักยอกทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท
พนักงานอัยการ ที่ร่วมเป็นพนักงานสอบสวนมีคำแนะนำให้ดีเอสไอ ดำเนินคดีกลุ่มบุคคลที่ได้รับเงินที่ถูกยักยอกไปจากสหกรณ์ฯ
สาธารณชนรับทราบไปแล้ว
ครั้นต่อมา มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินคดีกับผู้ที่รับเช็คสหกรณ์ฯ โดยไม่มีมูลหนี้
คณะกรรมการคดีพิเศษ ได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 27/2559
กระบวนการสอบปากคำผู้เสียหาย จึงเริ่มขึ้น อดีตข้าราชการเกษียณ แม่บ้าน แม่ค้า เข้าให้ปากคำ ความเดือดร้อนหลังโดนโกง เงินจะรักษาเวลาเจ็บป่วยก็แทบไม่มี บ้านที่จะอยู่ยังไม่มี สมุดบัญชีเงินฝากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เหมือนหนามทิ่มตำตา เวลามองไปดู บางคนเจ็บปวยจนไม่อยากจะเห็น
ความทุกข์ระทมเหล่านี้ ไม่เจอกับตัวไม่มีวันนี้ คนที่เสพสุขกับกองเงินที่ฉ้อโกงไปก็ไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกนี้
หลายคนท้อแท้ หมดกำลังใจ สาปแช่งให้โรคภัยที่ตนเองและคนในครอบครัวป่วย จงไปบังเกิดกับผู้เสวยสุขบนกองทุกข์ผู้อื่น
ครั้นเมื่อให้ปากคำเจ้าหน้าที่เสร็จก็มานั่งปรับทุกข์กัน
ในทางคดี...
หลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง ได้รายงานกับรมว.ยุติธรรมว่า ศาลได้ออกหมายจับธัมมชโย แต่เจ้าตัวบ่ายเบี่ยง เลี่ยงว่าป่วยกะทันหัน
พล.อ.ไพบูลย์ จึงให้แนวทางกำหนดมาตรการตามแผน ดังนี้
1. การทำแผนปฏิบัติการตามหมายจับ
2. ได้มอบหมายจับให้กับตำรวจและฝ่ายปกครอง หากพบตัวสามารถเข้าจับกุมได้ทันที ถือเป็นการขยายอำนาจหน้าที่ให้ดำเนินการ
3. ทำหนังสือถึงฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ทุกระดับตั้งแต่มหาเถรสมาคม (มส.) เพราะสงฆ์มีขั้นตอนตามพ.ร.บ.สงฆ์ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา โดยให้ชี้แจงถึงกระบวนการทำงานและเหตุที่มีการตั้งข้อกล่าวหา
4. ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) มาตรา 189 เรื่องการให้ที่พักพิงหรือช่วยเหลือก็จะถูกดำเนินคดี
5. เร่งรัดการดำเนินคดีให้เสร็จโดยเร็วที่สุด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์
ทั้ง 5 แนวทาง อธิบดีดีเอสไอ สั่งการมอบหมายภารกิจภายใน ดังนี้
การปฏิบัติตามหมายจับ มอบภารกิจให้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 3 คุมกำลังและกำหนดยุทธศาสตร์จับกุม ‘ธัมมชโย’
ภาพจากโดน ที่บินสำรวจวัดธรรมกาย จะนำมาเป็นภาพ 3 มิติ ทำให้เจ้าหน้าที่รู้เส้นทางภายในธรรมกายทุกซอกทุกมุม
ภารกิจประสานฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ทุกระดับตั้งแต่มหาเถรสมาคม (มส.) ตามขั้นตอนตามพ.ร.บ.สงฆ์ ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา มอบ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรม สอบสวนคดีพิเศษ 4 ดูแลประสานวัด ประสานพระ
ภารกิจประสานพระ เป็นแนวทางที่ผู้หลักผู้ใหญ่เสนอมา ดีเอสไอ ต้องทำให้ครบทุกด้าน แม้จะทราบดีถึงท่าทีของพระว่าเป็นเช่นใด
ส่วนการเร่งรัดการดำเนินคดีให้เสร็จโดยเร็วภายใน 2-3 สัปดาห์ มอบให้ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการ สำนักคดีการเงินการธนาคาร เป็นคนคุมสำนวน และสัปดาห์นี้จะออกหมายจับเพิ่มเติมในข้อหาเดียวกับ ‘ธัมมชโย’ อีก1คน
การสรุปสำนวนภายในกำหนด 3 สัปดาห์ ไม่มีปัญหา ทำได้ทันตามเวลา
ดีเอสไอ คงไม่ต้องระดมสรรพกำลังถึงเพียงนี้ หากผู้ต้องหายินยอมรับกระบวนการทางกฎหมายโดยดุษณี