“E- WALLET” กระเป๋าเงินออนไลน์ ของ SME ไฮเทค

“E- WALLET” กระเป๋าเงินออนไลน์ ของ SME ไฮเทค

ผมเคยนำเสนอเรื่องSMEกับ Digital Economy ไปเมื่อปีก่อน เพื่อให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับ Digital Economyซึ่งเป็น Mega Trend ที่สำคัญของโลก

ท่านผู้ประกอบการจะต้องเรียนรู้แสวงหาโอกาสและเตรียมตัวรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ที่จะเข้ามาแทนการทำธุรกิจแบบดั้งเดิม คู่แข่งรายเล็กที่มาพร้อมกับบริบทใหม่ของยุค Digital จะเข้ามาเป็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาด โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก (Retail) จะได้รับผลกระทบและเลิกกิจการในที่สุด ถ้าไม่ปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างที่ไม่น่าเชื่อได้เกิดขึ้นมากมาย เช่น การขายหนังสือบน Internet ของ Amazon.Com ที่ทำให้ร้านขายหนังสือชื่อดังอย่าง Border Group ต้องปิดกิจการลง หรืออย่าง Radio Shake กิจการค้าปลีกอุปกรณ์ไฟฟ้าเก่าแก่ประกาศภาวะล้มละลาย รวมถึงการปิดสาขาของ JC PENNY ร้านขายปลีกเสื้อผ้าชื่อดังของโลก แต่ที่น่าตกใจคือการประกาศล้มละลายของ KODAK EASTMAN ธุรกิจถ่ายภาพที่มีสาขาทั่วโลก มีพนักงาน 150,000 คน ตั้งมากว่า 150 ปี หลังจากมีผู้ให้บริการถ่ายภาพในตลาด Digital ที่ชื่อ INSTRAGRAM มีพนักงานแค่ 6,000 คน และเปิดบริการมาเพียง 18 เดือน

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุค Mobile broadband @Internet  ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ผมจึงขอแนะนำให้ท่านผู้ประกอบการได้รู้จักกับ ธุรกรรมทางการเงินที่เรียกว่า กระเป๋าเงินออนไลน์ หรือ E- WALLET

E-WALLET บางครั้งเรียกว่า MOBILE WALLET หรือ DIGITAL WALLET คือระบบการชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านแอพ หรือโซลูชั่น ด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสด โดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อกับธนาคารโดยตรง โดยผู้พัฒนาแอพหรือระบบจะเป็นตัวกลางในการติดต่อและเชื่อมต่อระบบให้กับร้านค้าเมื่อมีการอนุมัติให้ใช้บริการ เป็นการจ่ายเงินที่ใช้มือถือ หรือเรียกว่า Mobile Payment ที่ใช้เทคโนโลยีเรียกว่า NFC (Near Field Communication) ที่ฝังในมือถือ Android รุ่นใหม่ ในการแตะเพื่อชำระเงิน ณ จุดชำระเงินต่างๆ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต รถไฟฟ้า ร้านกาแฟ เป็นต้น

ผู้ถือสมาร์ทโฟน เมื่อดาวน์โหลดแอพ E-WALLET จะทำให้การจับจ่ายซื้อของสะดวกขึ้น เมื่อจะจ่ายเงินก็แค่สแกนสมาร์ทโฟนกับเครื่องที่ติดตั้งไว้ ใส่รหัสหรือ PIN code เงินสดจะถูกหักจากโทรศัพท์ บางระบบสามารถหักผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้ ผู้ให้บริการบัตรเครดิต เช่น City Card, Master Card, American Express ก็เข้าร่วมให้บริการ ร้านค้าชื่อดังอย่าง Mercy, 7-Eleven, CVS, Toy R Us, OfficeMax ก็ให้บริการรับชำระค่าสินค้าผ่านระบบ E-WALLET เช่นกัน

E-WALLET ยังเป็นที่นิยม ในวงการสายการบินทั่วโลก ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เช่น AIS, DTAC และ TRUE ตลาด E-WALLET บ้านเราแจ้งเกิดได้ไม่นาน แต่ในยุค 4G ที่การพัฒนาระบบเทคโนโลยีรวดเร็วมาก มีการพัฒนาระบบให้ใช้งานง่ายขึ้น E-WALLET จะแพร่หลายอย่างรวดเร็ว

การเข้าสู่ระบบ E-WALLET ทำได้ 2 ทาง ผู้ประกอบการที่มีฐานลูกค้าใหญ่ระดับหนึ่ง เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า สายการบิน ค่ายโทรศัพท์มือถือ เป็นกลุ่มที่มีทีมไอทีเป็นของตัวเองมักนิยมพัฒนาระบบใช้เอง ท่านผู้ประกอบการ SME ซึ่งทุนน้อย ควรใช้วิธีจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้พัฒนาแอพ ซึ่งมีอยู่หลายรายที่พร้อมจะให้บริการ

ปัจจุบันมีผู้ใช้ Internet ทั่วโลก 3,000 ล้านคน ประเทศไทยมีคนใช้มือถือ 90 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 132 % ของจำนวนประชากรทั้งหมด ส่วนที่ใช้มือถือในการเข้าถึง Internet มีอยู่ 77 % คิดเป็น 6.6 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งในอนาคตจะมีคนถือสมาร์ทโฟนแทนการถือเงินสดและบัตรต่างๆ เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการเหมือนในญี่ปุ่นที่กำลังได้รับความนิยมมาก

ท่านผู้ประกอบการจึงต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ เพื่อให้สามารถขายสินค้าและบริการได้มากยิ่งขึ้น ในยุคที่ E-WALLET จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นำไปสู่การ ซื้อง่าย จ่ายคล่อง

อย่าลังเลที่จะมีกระเป๋าเงิน ออนไลน์นะครับ ท่านผู้ประกอบการ SME ไฮเทคทุกท่าน