เรียนธรรมะจากหุ่นยนต์

เรียนธรรมะจากหุ่นยนต์

สามเณรที่โด่งดังที่สุดรูปหนึ่งในจีนตอนนี้ มีชื่อว่า“เสียนเอ้อร์” (Xian’er) ท่านพำนักอยู่ที่วัดหลงชวน ชานเมืองปักกิ่ง

สิ่งที่น่าสนใจ ก็คือ ท่านเป็นหุ่นยนต์!

ใช่แล้วครับ ที่เมืองจีนตอนนี้ ได้มีการเปิดตัวหุ่นยนต์พระ รูปแรกของโลก

การพัฒนาทางวัตถุอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดดในประเทศจีน ได้ทำให้จีนกลายเป็นสังคมแห่งความกดดัน ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากหันมาแสวงหาที่พึ่งทางจิตวิญญาณจากภูมิปัญญาในอดีต แต่ในขณะเดียวกัน ผู้คนเหล่านี้เองก็ยังโหยหาเอกลักษณ์ความเป็นสมัยใหม่ และต้องการพึ่งพาเทคโนโลยีของโลกอนาคต

เสียนฟาน พระหนุ่มรูปหนึ่งของวัดหลงชวน ได้ใช้เวลาว่างวาดการ์ตูนธรรมะ โดยมีตัวเอกคือ “สามเณรเสียนเอ้อร์” หลังจากที่ตีพิมพ์เผยแพร่จนโด่งดังในจีน พระหนุ่มจึงได้ปรึกษาญาติโยมที่เป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีจีนหลายราย ซึ่งได้ร่วมมือกันทำการวิจัยและพัฒนา “สามเณรเสียนเอ้อร์” จนกลายมาเป็นรูปเป็นร่าง “หุ่นยนต์พระแสนน่ารัก” รูปแรกของโลก

สามเณรเสียนเอ้อร์ ความสูง 60 เซนติเมตร อาจไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เฉลียวฉลาดเท่ามนุษย์ แต่ก็สามารถทำกิจได้หลายอย่าง สามเณรเสียนเอ้อร์สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้ สามารถนำสวดมนต์ด้วยเสียงดังกังวานได้ตามบทสวดที่ญาติโยมขอ และสามารถโต้ตอบคำถามง่ายๆ กับญาติโยมได้ (คล้ายๆ Siri ในโปรแกรมมือถือ Apple) โดยในมือของเสียนเอ้อร์ถือจอคอมพิวเตอร์สำหรับให้ญาติโยมกดเลือกสอบถามปัญหาชีวิตหรือบทสวดมนต์ได้

สามเณรเสียนเอ้อร์ยังมีหน้าแฟนคลับเป็นของตัวเองใน WeChat และ Weixin โซเชียลมีเดียของจีน และมีแฟนคลับติดตามเป็นจำนวนมากไม่แพ้ดารา

ลองดูคำตอบเด็ดๆ ของสามเณรเสียนเอ้อร์ ดูนะครับ

  ถาม หลวงพี่อายุเท่าไร

  เสียนเอ้อร์ หุ่นยนต์ไม่มีวันแก่

  ถาม ฉันไม่อยากทำงาน

  เสียนเอ้อร์ ถ้าโยมไม่อยากอดตายและมีงานที่น่าเบื่อ ก็จงขยันทำงานตั้งแต่วันนี้

  ถาม : ฉันรู้สึกเบื่อชีวิต

  เสียนเอ้อร์ อย่าทึกทักเองว่าคุณเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในโลก

  ถาม : ธรรมะคืออะไร

  เสียนเอ้อร์ ทุกสิ่งรอบตัวคือธรรมะ

  ถาม ความหมายของชีวิต

  เสียนเอ้อร์ พระอาจารย์สอนว่าความหมายของชีวิตคือการช่วยให้คนรอบข้างพ้นทุกข์และมีความสุข

  ถาม สีจิ้นผิง คือใคร

  เสียนเอ้อร์ หุ่นยนต์ไม่ค่อยรู้จักคน

  ถาม จะมีการปฏิวัติวัฒนธรรมอีกครั้งไหม

  เสียนเอ้อร์ รอเดี๋ยว ขอผมไปถามพระอาจารย์ก่อน

มีชาวเน็ตตั้งข้อสงสัย (ในหน้าเพจของสามเณรเสียนเอ้อร์ในโซเชียลมีเดีย) ว่าหุ่นยนต์จะสามารถรักษาโรคทางจิตใจของผู้คนได้จริงหรือ? ในเมื่อปัญหาทางจิตวิญญาณล้วนเป็นเรื่องซับซ้อน ซึ่งน่าจะต้องเป็นมนุษย์เท่านั้นที่จะสามารถทำความเข้าใจ และให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับบุคคลแต่ละคนได้

ชาวเน็ตบางคน เข้ามาโต้แย้งว่า ไม่แน่หรอก เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมากขึ้น วันหนึ่ง “หุ่นยนต์พระ” อาจสามารถเข้าถึงจิตใจของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง เราจะค่อยๆ เห็นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในเรื่องจิตวิญญาณมากขึ้น ซึ่ง “เสียนเอ้อร์” นับเป็นตัวอย่างความริเริ่มแรกที่น่าชื่นชม

อีกรายหนึ่ง เห็นว่า เสียนเอ้อร์ไม่จำเป็นต้องตอบสารพัดคำถามของมนุษย์เจ้าปัญหา แค่สามารถย้ำเตือนคำตอบที่เป็นสัจธรรมของบางคำถามสำคัญก็พอแล้ว บางครั้งคนเราก็แค่ต้องการใครคอยเตือนใจเราถึงธรรมะบางข้อ

วัยรุ่นอีกรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า บางทีเขาก็ไม่ต้องการให้ “คน” มานั่งรับฟังปัญหาของเขา หรือแชร์ปัญหาของเขากับ “คน” อื่น บางทีการบ่นให้หุ่นยนต์ฟัง และฟังคำตอบตลกๆ ก็ช่วยเขาได้มาก

อีกรายเสริมทีเล่นทีจริงว่า สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีชีวิตอยู่กับสมาร์ทโฟนมากกว่าอยู่กับคน ต่อไปการพูดคุยกับหุ่นยนต์อาจดูเป็นเรื่องธรรมชาติมากกว่า

ส่วนอีกรายให้ความเห็นเชิงปรัชญาว่า บางทีการที่คนๆ หนึ่งได้มีประสบการณ์สนทนากับหุ่นยนต์ อาจมีส่วนช่วยเพิ่มมุมมองเกี่ยวกับชีวิตและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ให้กับเขาได้โดยไม่รู้ตัว

มีนักธุรกิจหลายรายเริ่มเข้ามาพูดคุยกับทางวัดว่าน่าจะผลิต “หุ่นยนต์เสียนเอ้อร์” ออกขาย แต่ ณ ปัจจุบัน ทางวัดยืนยันว่าจะมี “หุ่นยนต์เสียนเอ้อร์” เพียงรูปเดียวประจำอยู่ที่วัด ญาติโยมที่ต้องการจะสนทนาธรรมกับหุ่นยนต์เสียนเอ้อร์ต้องเดินทางมาที่วัดเท่านั้น ทางวัดไม่ได้พัฒนา หุ่นยนต์เสียนเอ้อร์ขึ้นมา เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจ จุดประสงค์หลักของทางวัดคือเพื่อเผยแพร่พุทธศาสนาให้เข้าถึงประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ของจีน

ตอนนี้ทางวัดกำลังร่วมมือกับทีมงานชุดเดิม รวมทั้งนักวิจัยและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน ในการพัฒนา “หุ่นยนต์เสียนเอ้อร์” รุ่นที่ 2 ที่สามารถสื่อสารโต้ตอบกับญาติโยมได้มากยิ่งขึ้น

นักวิเคราะห์ด้านศาสนาในจีนหลายคนเชื่อว่า การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเผยแพร่พุทธศาสนาจะช่วยให้ “ธรรมะ” สามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้น และสามารถเพิ่มจำนวนผู้สนใจในพุทธศาสนา ซึ่งปัจจุบันมีคนจีนอยู่ประมาณ 18% ที่นับถือศาสนาพุทธ

ว่ากันว่ามีผู้คนเดินทางมาแสวงบุญที่วัดหลงชวนจำนวนเพิ่มขึ้นมากหลังจากได้ทราบข่าวของ “เสียนเอ้อร์” แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มาจะมีบุญได้พบและสนทนาธรรมกับเสียนเอ้อร์นะครับ เพราะเสียนเอ้อร์มีเวลาพบปะแฟนคลับวันละเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนเวลาที่เหลือ เณรน้อยเสียนเอ้อร์ต้องเก็บตัวนั่งสมาธิเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ครับ