โปรดฟัง แจ็คหม่าโต้ : ใครบอกว่าเศรษฐกิจจีนมีปัญหา?

 เจ้าของ Alibaba.com ที่ยืนยันนั่งยันว่ายังไง ๆ มังกรยักษ์ก็ยังเข้มแข็งปราดเปรียวอยู่ดี

ไม่เพียงแต่ยืนยันว่า เศรษฐกิจจีนจะไม่มีทาง “โหม่งโลก” หรือที่ฝรั่งเรียกว่า hard landing หรือ crash landing เท่านั้น แต่อภิมหาเศรษฐีจีนคนนี้บอกว่า อัตราโตของเศรษฐกิจจีนในอีก 20 ปีจากนี้ไป “จะเป็นที่อิจฉาตาร้อนของคนทั้งโลก”

อย่างนี้แปลว่าจีนจะโตจริง ๆ เท่าไหร่?

แจ็ค หม่า บอกว่านักวิเคราะห์บางคนไม่เชื่อตัวเลขทางการของจีน ที่อ้างว่าอัตราโตจีดีพีของจีนอยู่ที่ 6.5-6.9% ซึ่งอาจจะเป็นตัวเลขตกแต่งให้ดูสวยกว่าจริง

เขาบอกว่าแม้จะโตที่ 5% เศรษฐกิจจีนก็ยังดูดีกว่าของประเทศต่าง ๆ ในโลกด้วยซ้ำไป

แจ็ค ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ของฮ่องกงที่เขาเพิ่งซื้อมาเป็นเจ้าของว่า “เป็นไปไม่ได้ที่เศรษฐกิจจีนจะโตในอัตราตัวเลขสองหน่วยไปอย่างต่อเนื่อง ความจริงถ้าโตในระดับนั้นอย่างไม่หยุดยั้งจะไม่เป็นผลดีสำหรับจีนด้วยซ้ำไป”

เขาไม่ได้ใช้คำว่า New Normal แต่เจ้าของอาลีบาบา ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ใหญ่ที่สุดของจีน และเพิ่งจะมาซื้อ Lazada เพื่อเจาะตลาดอาเซียน ก็คงจะหมายถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นหากจีนโตมากเกินไป โดยที่ไม่ทำให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนในประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ต้องไม่ลืมว่าขนาดของเศรษฐกิจจีนวันนี้ใหญ่กว่าญี่ปุ่นกว่าสองเท่าแล้ว

และแม้ว่าอินเดียจะเพิ่งแซงหน้าจีน ด้วยอัตราโตทางเศรษฐกิจที่ 7.3% ในไตรมาสที่สี่ (ของจีนอยู่ที่ 6.8%) แต่ในภาพรวมแล้วเศรษฐกิจอินเดียมีขนาดเท่ากับหนึ่งในห้าของจีนเท่านั้น

แจ็คยอมรับว่าอุตสาหกรรมดั้งเดิมของจีนกำลังเผชิญกับปัญหา ต้องดิ้นรนฟันฝ่าอุปสรรคของการชะลอตัวให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ แต่เขาบอกว่าต้องจับตาดูเศรษฐกิจสองสามด้านที่กำลังเฟื่องฟูนั่นคือ

ธุรกิจบริการและไฮเทคซึ่งกำลังร้อนแรง และคนหนุ่มคนสาวของจีน ก็แห่กันเข้าไปกลายเป็นส่วนสำคัญ ของการผลักดันให้เติบโตอย่างคึกคักยิ่ง

ธุรกิจที่มีศักยภาพสูงอีกด้านหนึ่งของจีนคือ การส่งของหรือ logistics ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการขายของผ่านระบบ e-commerce ที่อาลีบาบาเป็นผู้ครองตลาดอยู่

Cainiao ซึ่งเป็นบริษัททำธุรกิจ logistics สนับสนุนโดยอาลีบาบาเต็มที่ประกาศมาแล้วว่าภายในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะส่งสินค้าไม่ตำว่า 100,000 ล้านเที่ยวต่อปี

เป็นโอกาสมหาศาลทั้งในแง่รายได้และสร้างงานสำหรับคนจีน ที่กำลังกังวลว่าจะตกงานเพราะอุตสาหกรรมพื้นฐานเดิมกำลังเริ่มโละคนงาน

“โอกาสโตสำหรับเศรษฐกิจจีนยังมีอีกเยอะ...ไม่ต้องห่วง” แจ็คประกาศด้วยความมั่นใจล้นเหลือ เพราะไม่ต้องการให้คนทั้งโลกเชื่อในแนวทางวิเคราะห์ ของนักเศรษฐศาสตร์หลายสำนัก โดยเฉพาะทางตะวันตกที่พยายามชี้ถึงจุดเปราะบางของจีน ทางด้านหนี้เสียในระบบสถาบันการเงิน และความไม่โปร่งใสของการบริหารรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนปัญหาสั่งสมในกระบวนการบริหารหลาย ๆ ด้าน

บทสัมภาษณ์ใน South China Morning Post ของแจ็ค หม่าถือเป็นครั้งแรกที่เขาเปิดใจหลังซื้อหนังสือพิมพ์อายุ 113 ปีของฮ่องกง

เขาบอกว่าที่ตัดสินใจซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ก็เพราะ “ผมรักฮ่องกง...ผมอยากให้คนหนุ่มสาวฮ่องกงมีความหวัง คึกคัก กล้าเสี่ยง และผลักดันไปข้างหน้า”

เขายืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนให้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ กลายเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีน อย่างที่นักวิจารณ์หลายฝ่ายกลัวกัน

“ผมอยากให้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ ทำหน้าที่แทนคนอ่าน ไม่จำเป็นต้องแทนผู้ถือหุ้น...ทำหน้าที่ free and fair และใช้ศักยภาพของอาลีบาบา ในการขยายฐานและข้อมูลการรายงาน และวิเคราะห์ข่าวเกี่ยวกับจีนและเอเชีย อย่างที่สื่ออื่นไม่สามารถทำได้...” แจ็คประกาศ

เป็นจริงแท้ได้แค่ไหนอีกไม่นานก็รู้