อนาคตวงการฟุตบอลไทย

อนาคตวงการฟุตบอลไทย

วันเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล 11 ก.พ.

ถือเป็นวันกำหนดอนาคตวงการฟุตบอลไทย หลังจากผู้สมัครนายกสมาคมฟุตบอล ต่างนำกลยุทธ์มาใช้ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด เกิดเรื่องที่แฟนบอลชาวไทยคาดไม่ถึง ทั้งหักเหลี่ยม ชิงไหวชิงพริบ จนยากจะคาดเดาว่า ผลการเลือกตั้งจะออกมาในรูปใด

>>> 12 ต.ค.2558 วงการลูกหนังไทยถึงจุดพลิกผัน เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการด้านจริยธรรม ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA ห้าม บังยี วรวีร์ มะกูดี ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมฟุตบอลทั้งในและต่างประเทศ เป็นเวลา 90 วัน ตอนนั้น “บังยี” ถึงระส่ำ เพราะอีกไม่กี่วันจะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล เขาได้ยื่นอุทธรณ์ คำสั่งฟีฟ่า โดยหวังว่าจะมีสิทธิ์ลงชิงเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอล สมัยที่ 5 หลังจากเจ้าตัวครองตำแหน่งนายกมา 4 สมัยติดต่อกัน

>>> ความพยายามของ “บังยี” ไม่เป็นผล เมื่อฟีฟ่าสั่งเลื่อนการเลือกตั้งออกไป และถอดคณะกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยกชุด พร้อมตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาแทน พร้อมกำหนดเส้นตายให้จัดการเลือกตั้งภายใน 15 ก.พ.2559 คาบเกี่ยวกับวันพ้นโทษ แบน “บังยี”

>>> จุดเปลี่ยน ที่สอง ฟีฟ่าสั่งพักงาน “บังยี” เป็นครั้งที่ 2 เพิ่มอีก 45 วัน

>>> การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล ภายใต้อำนาจคณะกรรมการกลางที่ฟีฟ่าตั้งขึ้น มีคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับ พ.ร.บ.กีฬา ฉบับปี 2558 กับธรรมนูญฟีฟ่า ปี 2556 มีผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจาก กกต. 6 ทีม ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนจะได้รับบัตรเลือกตั้งทั้งหมด 3 ใบ ใบแรกเลือกนายกสมาคมฟุตบอล 1 คน ใบที่สองเลือกอุปนายก 5 คน และใบสุดท้ายเลือกสภากรรมการ 13 คน ขณะที่ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 72 เสียง มาจากไทยพรีเมียร์ลีก 18 เสียง ดิวิชั่นหนึ่ง 18 เสียง ดิวิชั่นสองหรือลีกภูมิภาค 30 เสียง และจากทีมชนะเลิศและรองชนะเลิศถ้วย ข ค ง อีก 6 เสียง ผลแพ้ชนะ จะวัดกันที่คะเเนน “37 เสียง จาก 72 เสียง

>>> ปฏิเสธไม่ได้ว่า 30 เสียงลีกภูมิภาค เป็นฐานเสียงสำคัญที่จะกุมชะตาว่าใคร จะได้เป็นนายกสมาคมฟุตบอลคนต่อไป ด้วยประธานคณะกรรมการกลางประกาศว่า ใครได้ 37 เสียงจาก 72 เสียงคือผู้ชนะ ที่ผ่านมาจึงเห็นว่า การคัดเลือกตัวแทน ดิวิชั่นสองเกิดกระเเสคลื่นใต้น้ำจากขั้วอำนาจเดิมอยู่ตลอดเวลาทำให้การเลือกตั้งตัวแทนต้องเลื่อนออกไป และกลายเป็นคดีที่ยังฟ้องร้องอยู่ในศาลปกครอง

>>> 22 ม.ค.คณะกรรมการกลางได้จัดการเลือกตั้ง เพื่อคัดเลือกตัวแทน ดิวิชั่นสอง 30 เสียง จากทีมฟุตบอลลีกภูมิภาครวม 83 สโมสร เพื่อไปเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล ในวันที่ 11 ก.พ.2559 ที่ผ่านมาดิวิชั่นสอง ถือเป็นฐานเสียงสำคัญ ที่สามารถชี้ชะตาเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลคนต่อไปได้

>>> ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย สกล วรรณพงษ์ บอกว่า การช่วงชิงตำแหน่งเก้าอี้นายกสมาคม ไม่ใช่เฉพาะวงการฟุตบอล แต่เป็นทุกสมาคมกีฬา ที่มีกระเเสความนิยม มันหมายถึงผลประโยชน์ที่มากขึ้นตามมา

>>> ความท้าทายต่อการชิงเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอล คือการจัดวางโครงสร้างใหม่ของกีฬาฟุตบอล โดยมีเป้าหมายเพื่อก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของเอเชีย แต่สิ่งที่ท้าทายกว่านั้นคือ การบริหารจัดการผลประโยชน์ในวงการฟุตบอลกว่า 1 หมื่นล้านบาท ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะห้วงเวลาที่ฟุตบอลกำลังอยู่ในสภาะวะขาขึ้น จากการกล้าเข้ามาลงทุน และเทเงินให้ของสปอร์นเซอร์ รวมทั้งภาวะขาขึ้นที่เกิดกับทัพช้างศึก จนปฏิเสธไม่ได้ว่า ขณะนี้ฟุตบอลกลายเป็นลมหายใจของคนไทย

 ......................................

สุทธิรักษ์ อุฒมนตรี [email protected]