รวยเพราะหุ้น

รวยเพราะหุ้น

ยอดปรารถนาของคนเราทุกวันนี้คือความมั่งคั่งร่ำรวย เพราะมันนำมาซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เพียงอยากรวย แต่ยังอยากรวยมากๆ

รวยเร็วๆ รวยง่ายๆ เสียด้วย

ความอยากเช่นนี้เป็นปัญหาโดยตัวมันเอง อันที่จริง ถ้าว่าตามหลักศาสนา ความอยากก่อให้เกิดทุกข์อยู่แล้ว แต่ทุนนิยมกลับให้อภัยและชี้ว่าดี เพราะมันทำให้เศรษฐกิจเติบโต ความอยากรวยในบรรทัดฐานปัจจุบันไม่ถือว่าผิด แต่ถ้าอยากรวยมาก รวยเร็ว รวยง่ายละก็ แนวคิดเช่นนี้ทำลายทั้งตัวบุคคลและระบบเศรษฐกิจโดยรวมอย่างแน่นอน

นับแต่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2008 แทนที่จะแก้ปัญหาที่โครงสร้าง แต่ธนาคารกลางสหรัฐและพันธมิตรคือธนาคารกลางอังกฤษ ญี่ปุ่น และยุโรปกลับทำตรงข้าม กลบปัญหาไว้ข้างใต้และพิมพ์เงิน (จากอากาศ) แล้วอัดฉีดเข้าระบบกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์

เม็ดเงินใหม่ที่ไม่มีต้นทุน กดอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกให้ต่ำลง ที่สำคัญ มันไหลเข้าไปในตลาดสินทรัพย์และก่อให้เกิดการเก็งกำไรมหาศาล ราคาสินทรัพย์สำคัญเช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ พุ่งทะยานอย่างมาก (ทั้งๆ ที่ภาคเศรษฐกิจจริงยังไม่ฟื้น) เศรษฐีใหม่เกิดขึ้นมากมาย

เพราะดอกเบี้ยต่ำมาก ผู้ออมเงินจึงเผชิญปัญหาใหญ่ ยิ่งได้เห็นเศรษฐีหน้าใหม่ๆ ร่ำรวยอย่างง่ายดาย จึงพากันถอนเงินออมและทุ่มเข้าไปในตลาด ผลักดันการเก็งกำไรเพิ่มสูงขึ้นไปอีก

ราคาสินทรัพย์มีวัฏจักรของมัน ช่วงแรกที่เม็ดเงิน QE เข้ามา ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กำไรกันเป็นสิบเท่าร้อยเท่าจากจุดต่ำสุด คนที่เข้าก่อนทันเวลาก็โชคดีไป ปัญหาคือคนที่เข้าทีหลัง ซึ่งตลาดปราศจากเม็ดเงินใหม่ นอกจากเงินออมของตัวเองและพวกเดียวกัน ตลาดยามนี้จึงเหมือนเครื่องบินที่น้ำมันใกล้หมด บินสูงขึ้นไปอีกไม่ไหว บางตลาดเช่น น้ำมัน ยาง สินค้าเกษตร เครื่องปักหัวโหม่งโลกแล้วด้วยซ้ำ

ตลาดหุ้นคือเวทีสำคัญของโลกทุนนิยม เป็นที่ซึ่งบุคคลมากมายแสวงหาความมั่งคั่งร่ำรวย เป็นที่ชุมนุมของคนทุกประเภทและชนชั้น ต่างก็เชื่อว่าตนมีหลักการและเคล็ดลับที่เหนือผู้อื่น ตนเองสามารถร่ำรวยได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

ปัญหาสำคัญประการหนึ่งของมนุษย์คือ เราไม่รู้จักตัวเองอย่างถูกต้องถ่องแท้ เราชอบมองไปที่คนอื่น แต่ไม่มองที่ตัวเอง เราไม่ยอมทำความเข้าใจตัวเองแต่กลับพยายามเป็นเหมือนคนอื่น นี่ไม่เพียงทำให้ชีวิตปราศจากความสุข แต่หลายครั้งนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมของชีวิต

ในโหราศาสตร์ ตลาดหุ้น (และการลงทุน) คือภพที่ 5 ภพนี้หมายถึงการเสี่ยงโชคและการพนันด้วย ตลาดหุ้นจึงเป็นสถานที่รวมผู้คนที่เข้ามา วัดดวง กัน ไม่มีใครเก่งกว่าใคร มีแต่ว่าใครโชคดีกว่าใครต่างหาก

คนที่ร่ำรวยจากตลาดหุ้น ต้องมีดวงชะตาเด่นด้านนี้ นี่คือกฎ!

ความรู้-ประสบการณ์-เครื่องมือ-ที่ปรึกษา ล้วนไม่สำคัญ เก่งแค่ไหนในตลาดขาลง ก็ขาดทุนเหมือนกัน (จำจอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ได้ไหม) โง่แค่ไหนในตลาดขาขึ้น ก็ร่ำรวยได้เช่นกัน ต่างกันที่มากหรือน้อยเท่านั้น

เรามาดูดวงชะตาของบุรุษที่รวยที่สุดในโลก 2 คน ความมั่งคั่งร่ำรวยของทั้งคู่มาจากตลาดหุ้น แต่มาจากคนละมุม คนแรกรวยในมุมเจ้าของบริษัท คนที่สองรวยในมุมนักลงทุน

บิล เกตส์คือบุรุษคนแรก เกิดวันที่ 28 ตุลาคม 1955 ที่ซีแอตเติ้ล ลัคนาอยู่ราศีกรกฎ มีมฤตยูกุมลัคน์ มฤตยูเป็นดาวแห่ง New Technology ของแต่ละยุคสมัย ซึ่งปัจจุบันคือคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต มฤตยูคือดาวเด่นที่สุดในดวง เกตส์เป็นอัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์เพราะมฤตยูนี้เอง

มฤตยูยังเป็นดาวแห่งการขบถ นอกกรอบ เป็นตัวของตัวเอง เมื่อเห็นแนวโน้มการเติบโตของพีซี บิล เกตส์ กล้าหยุดเรียนที่ฮาร์วาร์ดและออกมาตั้งบริษัทซอฟท์แวร์ของตัวเอง นี่คือจุดกำเนิดไมโครซอฟท์ และจุดเริ่มต้นแห่งความร่ำรวยที่สุดในโลก

เกตส์มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ถ้าหมอดูทั่วไปเห็นดวง (โดยไม่บอกก่อนว่าใคร) เชื่อว่า 99 % ทายผิด เพราะอาทิตย์อยู่ตุลย์-เป็นนิจจ์ อ่อนแอ-ต้อยต่ำ อาทิตย์คือเกียรติยศชื่อเสียง เจ้าชะตาปราศจากเกียรติ เป็นคนไร้ชื่อเสียงเรียงนาม

แต่บิล เกตส์ กลับโดดเด่นกว่าใคร เพราะอาทิตย์นั้นเป็น นิจจะภังคะราชาโยค ตามหลักโหราศาสตร์ฮินดู กลับร้ายเป็นดี พลิกอ่อนแอเป็นเข้มแข็ง ไม่ใช่ต่ำต้อยแต่เป็นโด่งดัง

อะไรทำให้เกตส์รวยจากตลาดหุ้น? ภพที่ 5 คือราศีตุลย์ ในตุลย์มีดาว 4 ดวงคือ อาทิตย์-ศุกร์-เสาร์-เนปจูน เกิดเป็น Stellium ทำให้ภพนี้เข้มแข็งมาก ตลาดหุ้นจึงเป็นแหล่งนำโชคของเขา ศุกร์เป็นเกษตร์ (Ruler) เสาร์เป็นอุจจ์ ดาวคู่นี้เข้มแข็งมาก ทั้งยังกุมกันสนิท เกิดเป็น ธนโยค ที่บันดาลความมั่งคั่งร่ำรวยมหาศาล

บุรุษที่ 2 คือวอร์เรน บัฟเฟต์ เกิดวันที่ 30 สิงหาคม 1930 ที่โอมาฮ่า ลัคนาสถิตราศีธนู ธนูเป็นราศีแห่งการมองภาพใหญ่และคิดแบบองค์รวมวิธีคิดและกลยุทธ์การลงทุนของบัฟเฟต์แสดงถึงคุณสมบัติของชาวธนูอย่างชัดเจน เช่น โฟกัสที่ตัวกิจการ ไม่ใช่ราคาหุ้น

บัฟเฟต์ถือเป็นปรมาจารย์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing : VI) ซึ่งหลักการสำคัญคือ ไม่ซื้อขายบ่อยๆ ซื้อเมื่อได้ส่วนลดในตลาด ขายเมื่อเต็มมูลค่าเท่านั้น หลักนี้พูดง่ายทำยาก คนทำได้ต้องใจนิ่ง อดกลั้นไม่หวั่นไหวต่อสิ่งต่างๆ ในตลาด นี่คือเหตุผลที่มีน้อยคนประสบความสำเร็จกับแนวทาง VI

เหตุที่บัฟเฟต์ประสบความสำเร็จมากกับ VI เพราะมันเป็นธรรมชาติของเขา เสาร์ที่ร่วมลัคนาทำให้ควบคุมตัวเองเก่ง มีวินัย อดทนอดใจได้มากกว่าเสาร์ยังเป็นดาวแห่งความระมัดระวัง เสาร์ชอบความมั่นคงปลอดภัย ไม่น่าแปลกที่บัฟเฟต์ลงทุนในหุ้นที่เข้าใจง่ายเสมอ

ศุกร์ที่กุมทศมลัคน์ (MC) ทำให้บัฟเฟต์ทำงานการเงิน ภพ 5 ไม่มีดาวสถิตสักดวง แต่อังคาร-ดาวเจ้าเรือนมาเล็งลัคน์สนิทในภพ 7 ตลาดหุ้นคือช่องทางทำเงินของเขา นี่คือวิสัยของนักลงทุนที่แตกต่างจากเจ้าของกิจการอย่างบิล เกตส์

ดวงบัฟเฟต์เป็นดวงปราบเซียนเช่นกัน ถ้าไม่บอกล่วงหน้า หมอดู 99% ต้องทายผิด จันทร์เป็นนิจจ์ ศุกร์เป็นนิจจ์ พฤหัสเป็นปรเกษตร์ ศุภเคราะห์เสียหมดเช่นนี้ ต้องเป็นดวงยาจกเข็ญใจแน่นอน

แต่แท้จริงแล้ว ศุกร์เข้มแข็งมาก เพราะเป็นศุกร์เพ็ญ พฤหัสก็อยู่ภพเกณฑ์ กลับเข้มแข็งเช่นกัน จันทร์กลับเป็น นิจจะภังคะราชาโยค อีก ศุภเคราะห์เมื่อเข้มแข็งให้คุณมาก บัฟเฟต์ย่อมมั่งคั่งร่ำรวยมหาศาล

ดวงคนรวยเพราะหุ้นไม่มีสูตรสำเร็จ แต่จุดใหญ่อยู่ที่ภพ 5 ดาวเจ้าเรือน และศุภเคราะห์

ในโลกปัจจุบัน มนุษย์ไม่อาจปราศจากเงินทอง แต่ความสุขที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นกับความร่ำรวย ต่อให้อยากรวย ก็ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนคนอื่น เส้นทางมีมากมาย แล้วแต่ดวงของคน บางคนรวยเพราะค้าขาย เพราะอสังหาริมทรัพย์ เพราะงานบริการ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ เรารู้จักตัวเองถูกต้องถ่องแท้หรือยัง