โอกาสฟ้า

โอกาสฟ้า

ในเรื่องราวของ “สามก๊ก” กล่าวถึงการศึกนับครั้งไม่ถ้วน แต่ยุทธศาสตร์ใหญ่ (Grand Strategy) มีไม่มาก ที่เด่นล้ำสุดคือ

ยุทธศาสตร์แบ่งแผ่นดินเป็น 3 ของขงเบ้ง ซึ่งเกิดขึ้นในปี ค.ศ.207 เมื่อเล่าปี่เยือนกระท่อมหญ้า 3 ครั้งครา มันสรุปความได้ว่า

“ฮุบกลืนเกงจิ๋ว เป็นมิตรกับซุนกวน เข้าตีเสฉวน ผูกมิตรเผ่าเกี๋ยงทางเหนือและตะวันตก แบ่งแผ่นดินเป็น 3 ขั้วอำนาจ สถาปนาตนเป็นฮ่องเต้ คานอำนาจโจโฉ ซุนกวน รอสถานการณ์เปลี่ยนแปลง แบ่งกองทัพเป็น 2 สายจากเกงจิ๋วและเสฉวน ประสานทัพซุนกวนเข้าโจมตีเตียงอันและฮูโต๋ ก็ปราบโจโฉได้ จากนั้น แบ่งแผ่นดินกับซุนกวน รอโอกาสที่เหมาะสม รวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว”

ยุทธศาสตร์ 3 ก๊กนี้ ไม่ใช่ขงเบ้งคนเดียวที่คิดได้ โลซกก็คิดออกเช่นกัน เขาจึงสนับสนุนขงเบ้งเข้าพบซุนกวนและจิวยี่ เพื่อร่วมมือกันต้านทัพโจโฉในศึกผาแดง แต่พลังหลักที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นี้มาจากขงเบ้ง กล่าวได้ว่า ขงเบ้งคือสุดยอดนักยุทธศาสตร์ของแผ่นดินยุคนั้น

ดุลอำนาจ 3 ก๊กเริ่มเป็นรูปเป็นร่างต้นปี ค.ศ.209 หลังจากที่โจโฉพ่ายศึกผาแดงอย่างย่อยยับปี ค.ศ.220 เดือน 1 (จีน) โจโฉเสียชีวิต โจผีขึ้นครองตำแหน่งแทน เดือน 10 โจผีปลดเหี้ยนเต้จากบัลลังก์แล้วตั้งตนเป็นเว่ยบุ๋นตี้ สถาปนาราชวงศ์เว่ย นักประวัติศาสตร์ถือว่า ยุคสามก๊กเริ่มต้นตรงนี้

ปี ค.ศ.221 เดือน 4 เล่าปี่สถาปนาตนเป็นฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ซู่ฮั่น ขงเบ้งเป็นสมุหนายก เดือน 7 เล่าปี่ยกทัพไปตีง่อก๊ก เพื่อล้างแค้นแทนกวนอู แต่กลับพ่ายแพ้แม่ทัพหนุ่มอายุ 29 ปีที่ชื่อลกซุนในศึกอิเหลง ปี ค.ศ.223 เดือน 6 เล่าปี่เสียชีวิต เล่าเสี้ยนขึ้นครองบัลลังก์ ขงเบ้งเป็นอัครมหาเสนาบดีกุมอำนาจเต็มที่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน

ขงเบ้งลงจากเขามังกรหลับเมื่ออายุ 26 ปีใช้เวลาแค่ 16 ปี ก็ก้าวขึ้นถึงตำแหน่งบริหารสูงสุด ความสำเร็จนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ เส้นทางชีวิตของเขาน่าศึกษายิ่งนัก

จูกัดเหลียง คือชื่อหลักของขงเบ้ง ประวัติศาสตร์บันทึกว่า เขาเกิดวันที่ 23 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งก็คือเดือนสิงหาคม ในอาทิตย์ (Sun Sign) อยู่ราศีกรกฎหรือสิงห์ ขงเบ้งเป็นกำพร้าตั้งแต่เด็กเพียงอายุ 3 ขวบแม่ตาย อายุ 8 ขวบพ่อตาย ตนเองต้องไปอยู่กับอา-จูกัดเหี้ยน อายุ 16 ปีทั้งหมดอพยพไปเกงจิ๋ว เล่าเปียวมอบที่ดินให้ที่ตำบลหลงจง เขาโงลังกั๋ง ขงเบ้งปลูกกระท่อมหญ้าเป็นที่พักอาศัย

แม้ชะตาอาภัพ แต่ขงเบ้งไม่เคยดูถูกตัวเอง เขากลับซุ่มซ่อนเก็บตัว ศึกษาวิชาความรู้และแสวงหาข่าวสารทั่วแผ่นดิน เพราะราชวงศ์ฮั่นอ่อนแอ ไฟสงครามลามไปทั่วภาคเหนือและกลาง จึงมีปราชญ์บัณฑิตจำนวนมากอพยพมาที่เกงจิ๋ว นี่คือโอกาสอันดีที่ขงเบ้งสามารถพัฒนาตัวจนมีความรู้ความสามารถสูงส่ง

รากฐานความสำเร็จของขงเบ้ง อยู่ที่การพัฒนาความสามารถตน หรือ ถูกคน นั่นเอง เขาศึกษาการเมือง การปกครอง การทหาร พิชัยสงคราม การคำนวณโหราศาสตร์ เมื่อลึกซึ้งเจนจบแล้ว จึงได้รับสมญานามในหมู่ปราชญ์เกงจิ๋วว่า “มังกรหลับ (ฮกหลง)”

แต่การแสดงความสามารถให้โลกประจักษ์นั้น ขงเบ้งเลือกก๊กเล่าปี่ ซึ่งนับว่า ถูกที่ อย่างยิ่ง ในยุคที่แผ่นดินวุ่นวาย ขุนศึกทั้งหลายต่างแสวงหาปราชญ์ผู้มีความสามารถ คนเก่งมากอย่างขงเบ้ง ทำไมถึงเลือกอยู่กับเล่าปี่ ซึ่งไร้อำนาจอิทธิพลใด?

เหตุผลคือ 1. ก๊กโจโฉสถาปนาอำนาจมั่นคงแล้ว ทั้งมีคนเก่งมากมาย อยู่ด้วยก็ไม่โดดเด่น 2. ก๊กซุนกวนตั้งรับอยู่ในกังตั๋ง โอกาสสร้างชื่อไม่มาก พี่ชาย (จูกัดกิ๋น) ก็เป็นแม่ทัพใหญ่ที่นั่นแล้ว 3. เล่าปี่แซ่เล่า ได้รับแต่งตั้งเป็นอาของเหี้ยนเต้ มีความชอบธรรมทางการเมืองสูง นี่คือต้นทุนที่ทุกคนมองข้าม 4. แม้ปราศจากกองทัพยิ่งใหญ่ แต่เล่าปี่ก็มียอดขุนพลที่รู้ใจและซื่อสัตย์ภักดี 5. ขงเบ้งเป็นบัณฑิตที่อนุรักษ์นิยม เขายึดถือเล่าปี่เป็นตัวแทนของราชวงศ์ฮั่น

แม้ถูกคนถูกที่ แต่อัจฉริยะอย่างขงเบ้งก็ยังต้อง ถูกเวลา ด้วย เขาขึ้นดำรงตำแหน่งสูงสุดเมื่อเล่าปี่-กวนอู-เตียวหุย เสียชีวิตหมด จูล่งก็ชราแล้ว ถ้าพิเคราะห์ยุทธศาสตร์หลงจงอย่างลึกซึ้ง มี 2 ประโยคที่ซ้ำกัน นั่นคือ “รอสถานการณ์เปลี่ยนแปลง” และ “รอโอกาสที่เหมาะสม” ขงเบ้งรู้ซึ้งดีว่า ความสำเร็จขั้นสูงสุด (การรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง) ต้องรอเวลา รอโอกาสที่ฟ้าประทานเท่านั้น

แต่ขงเบ้งกลับประเมินโอกาสฟ้าผิดพลาด ปี ค.ศ. 226 โจผีเสียชีวิตกระทันหัน โจยอยครองราชย์ต่อ ขงเบ้งเห็นเป็นโอกาสดี ปี ค.ศ.227 จึงยกทัพใหญ่ขึ้นเหนือ เข้าโจมตีวุยก๊ก แต่กลับพ่ายแพ้และสูญเสียหนัก ในนิยายว่าแพ้แก่สุมาอี้ แต่พงศาวดาร (ซานกว๋อจื่อ) ว่า แพ้แก่เตียวคับ

มูลเหตุสำคัญของความพ่ายแพ้ คือ เกงจิ๋วเป็นของซุนกวน ไม่มีกองทัพ 2 สายโจมตีอย่างที่วางไว้ ขงเบ้งทั้งรู้ก็ยังทำ จึงพ่ายแพ้ แต่ที่แย่กว่าคือ แทนที่จะหยุดฟื้นฟูกำลัง ขงเบ้งกลับยกทัพบุกต่ออีก 4 ครั้ง (นิยายว่าบุก 6 ครั้ง พงศาวดารว่า 5 ครั้ง) ล้มเหลวทุกครั้ง จนต้องสิ้นอายุขัยเพียงแค่ 53 ปีที่อู่จ้างหยวน การฝืนโอกาสฟ้าและทำสงครามอย่างต่อเนื่อง ทำให้จ๊กก๊กอ่อนแอในระยะต่อมา และต้องสูญเสียแผ่นดินไปก่อน

โอกาสฟ้า หรือ “ถูกเวลา” คือเงื่อนไขสำคัญที่สุดของผู้ต้องการความสำเร็จขั้นสูงสุด เช่นเดียวกับบารัค โอบามา การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอำนาจสูงสุดของวลาดีมีร์ ปูติน ก็เป็นไปตามจังหวะของฟ้าเช่นกัน

ปูตินเกิดในครอบครัวคนชั้นล่าง พ่อเป็นทหารเกณฑ์ในกองทัพเรือ แม่เป็นคนงานโรงงาน วัยเด็กต้องอยู่อพาร์ตเมนท์ที่แออัดของคอมมูน ปูตินจบกฎหมายปี 1975 เป็น KGB จนถึงสิงหาคมปี 1991 จากนั้นเริ่มงานการเมืองในเซนต์ปีเตอร์เบอร์ก ปี 1997 ปูตินเข้าร่วมคณะทำงานของประธานาธิบดีเยลต์ซินในมอสโคว

เมื่อเจอเยลต์ซิน เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว (ถูกที่) สิงหาคม 1999 ปูตินขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี 31 ธันวาคม 1999 เยลต์ซินลาออก ปูตินเป็นรักษาการแทน รัสเซียเลือกตั้งใหม่ 26 มีนาคม 2000 ปูตินชนะ และขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อ 7 พฤษภาคม 2000

สาธารณรัฐรัสเซียกำเนิด 12 มิถุนายน 1990 ลัคนาอยู่ราศีกันย์ ปลายปี 1999 มฤตยูจรทำมุม 90 กับพลูโตเดิม บอกถึงการเปลี่ยนอำนาจฉับพลัน เยลต์ซินลาออกในวันเลือกตั้ง เสาร์จรเล็งพลูโตเดิมซ้ำอีก ยืนยันถึงการเปลี่ยนถ่ายอำนาจ ในวันได้ประธานาธิบดีใหม่ อาทิตย์กุมพฤหัสทำมุม 60 กับพฤหัสเดิมในภพ 10 และเล็งพลูโตเดิม ชี้ถึงบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ได้ขึ้นครองอำนาจทางการเมือง

ปูตินเกิด 7 ตุลาคม 1952 ลัคน์ตุลย์ 26 พฤษภาคม 1999 พฤหัสจรเข้าเมษ เล็งลัคน์ ชีวิตเป็นขาขึ้น เดือนสิงหาคม พฤหัสเล็งลัคน์สนิท ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อพฤหัสกุมเสาร์สนิท ทำมุม 90 กับพลูโตเดิมที่กุมทศมลัคน์ (MC) สนิท ปูตินขึ้นเป็นประธานาธิบดี

โอกาสฟ้าเมื่อบรรจบกับบุคคลที่ถูกต้องและถูกที่ ความสำเร็จขั้นสูงสุดย่อมบังเกิด