ว่าด้วยความรับผิดชอบ

ไม่ต้องห่วง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลได้บอกแล้วว่าพวกเราทุกคนไม่มีอะไรนอกจากใจที่เข้าทำงานให้สำเร็จลุล่วง ถึงเวลาก็ต้องไปไม่ช้าก็เร็ว แต่ไม่ได้ต้องการที่จะผูกในตำแหน่งหน้าที่ที่ยาวนาน จะอยู่เท่าที่จำเป็น” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม อดีต ผบ.ทบ. และประธานมูลนิธิราชภักดิ์ ตอบข้อซักถามถึงกระแสเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีและประธานมูลนิธิราชภักดิ์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อข้อสงสัยความไม่โปร่งใส “โครงการอุทยานราชภักดิ์” ซึ่งมีเรื่องค่า “หัวคิว” เข้ามาเกี่ยวข้อง

+++ แปลความได้ว่า ยังไม่คิดลาออก ว่าอย่างนั้นเถอะ

+++ ในการชี้แจงกับสื่อมวลชน พล.อ.อุดมเดช ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ และไม่คิดที่จะหวังเอาประโยชน์อะไรจากสิ่งเหล่านี้ “ยืนยันว่าไม่หนักใจเพราะเราทำดี แต่อาจมีบางคนที่นั่งยิ้มอยู่เพราะสิ่งที่เรากำลังทำสามารถยิงนกได้หลายตัว ลองคิดดูแล้วกันว่าคนที่พยายามทำให้สีขาวเป็นสีขาวกับคนที่พยายามให้สีขาวเป็นสีดำ หากเขาทำสำเร็จประเทศชาติก็อันตราย แต่ไม่อยากจะพูดว่าคนๆ นั้นเป็นใคร อะไรที่กำลังกระโดดลงมาก็ไปดูกันเองแล้วกัน แต่ผมจะไม่ไปให้ร้ายใคร"

+++ มุกนี้ พล.อ.อุดมเดช ศอกกลับใส่ใคร สังคมน่าจะพอ “เดาออก”

+++ หันไปฟังความเห็นคนที่คิดตรงข้ามกับ พล.อ.อุดมเดช ต่อกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับโครงการอุทยานราชภักดิ์ ในยามนี้ดูบ้าง

+++ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกฯ บอกว่า ความเคลือบแคลงสงสัยในความโปร่งใส โครงการก่อสร้างอุทธยานราชภักดิ์ โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง คือ บรรดาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องทำให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานทางการเมือง ด้วยการลาออก เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้เป็นที่ยอมรับ แต่ต้องสอบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป

+++ “หากปล่อยให้ยืดเยื้อ จะลุกลาม บั่นทอนความเชื่อมั่นใจตัวรัฐบาล ผมเห็นว่า ความรับผิดชอบทางการเมือง ต้องสูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย การตัดสินใจลาออก ไม่ได้เป็นการแสดงว่าผิดหรือถูก เพราะผิดหรือถูกจะต้องถูกชี้โดหน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องนี้”

+++ ส่วนขอบเขตความรับผิดชอบควรจะครอบคลุมถึงใครนั้น อภิสิทธิ์ บอกว่า เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะพิจารณาเอง เรื่องนี้ไม่มีสูตรสำเร็จ แต่เมื่อ คสช.ได้พูดถึงการปฏิรูป และต้องการสร้างบรรทัดฐานที่ดีทางการเมือง ควรทำให้ประชาชนมั่นใจ ไม่เช่นนั้นจะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ต่อไปไม่จบ และเกรงว่าจะกลายเป็นเงื่อนไขของบางฝ่าย ที่สร้างให้เป็นประเด็นการเมืองลุกลามต่อไป ดังนั้นควรต้องรีบตัดสินใจ และทำให้เกิดความกระจ่าง คสช.และรัฐบาลจะได้ไปทำงาน ไม่ต้องมาติดหล่มอยู่กับการต้องมาอธิบาย หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

+++ ข้อแนะนำดีดีจาก “อดีตนายกฯ” ซึ่งไม่รู้ว่าจะส่งผลใด ๆ ต่อการตัดสินใจของ “อดีตผบ.ทบ.” บ้างหรือไม่

+++ สำหรับ“โครงการอุทยานราชภักดิ์” ไม่มีใครสงสัยในวัตถุประสงค์ในการก่อสร้าง เชื่อว่าคนไทยทุกคนเห็นด้วยและมีความจงรักภักดีต่อบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ แต่การดำเนินโครงการที่ปล่อยให้มีเรื่อง “หัวคิว” เกิดขึ้น ถือเป็นจุดที่ทำให้ “สังคม” คิดบานปลายไปถึงมีเรื่อง “ผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อ” เกิดขึ้น และยอมรับไม่ได้

+++ เรื่องนี้ยิ่งปล่อยให้ยืดเยื้อยาวนาน ยิ่งส่งผลเสียต่อ "คสช.-รัฐบาล"มากเท่านั้น...

 ........................

แหลมเชิงดอย : [email protected]