โลกแห่งมายา

โลกแห่งมายา

จวงจื้อหลับฝันว่าเป็น “ผีเสื้อ” หรือผีเสื้อฝันว่าเป็น “จวงจื้อ” อะไรคือความจริง ? อะไรคือภาพลวง ?

เราจะดำรงชีวิตอย่างไรในโลกแห่งมายา?

สถานการณ์โลกซับซ้อนขึ้น ด้านภูมิศาสตร์การเมือง สงครามถล่มไอซิสของรัสเซีย ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ มันทำให้ดุลอำนาจในตะวันออกกลางเปลี่ยนไป ด้านเศรษฐกิจ ด้วยความซบเซาของเศรษฐกิจและการค้าโลก ประเทศต่างๆ ระมัดระวังตัวเองอย่างสูง มีเพียงอเมริกาที่เชื่อว่าเศรษฐกิจของตนดี และเตรียมขึ้นดอกเบี้ย

จะเกิดสงครามโลกหรือไม่? เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจริงหรือ? คนธรรมดาแทบไม่มีโอกาสตอบถูก ในยุคที่ข้อมูลลวงข่าวสารเท็จท่วมโลก การรับรู้ของมนุษย์ถูกมอมเมาหลอกลวงได้ง่าย มีเพียงธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ไพศาลเท่านั้น ที่สามารถให้คำตอบอันถูกต้อง โหราศาสตร์คือหนทางสู่คำตอบนั้น

ความสับสน-คลุมเครือ-มายา เกิดจากอิทธิพลเนปจูน เนปจูนเป็นดาวที่อยู่เลยวงโคจรของเสาร์ จึงมีอิทธิพลต่อคนจำนวนมาก เป็นดาวที่แสดงถึงปรากฏการณ์ของยุคสมัย เนปจูนยังหมายถึงจินตนาการ-กิเลสระดับลึก-ความเชื่อ-ศรัทธาอีกด้วย

เนปจูนยกและจรราศีกุมภ์ 25 เม.ย.–28 มิ.ย.2551 ถอยหลัง (Retrogradation) กลับมังกร หยุดนิ่ง (Stationary) และเดินหน้าเข้ากุมภ์อีกครั้ง 14 ก.พ.–2 ต.ค.2552 จากนั้นถอยหลัง-หยุดนิ่ง-เดินหน้าเข้ากุมภ์อย่างแท้จริงตั้งแต่ 8 ธ.ค.2552 จนถึงปัจจุบัน

กุมภ์คือราศีแห่งอิสรภาพ-ภราดรภาพ เป็นราศีแห่งอุดมคติทางการเมือง เนปจูนเมื่อเข้ากุมภ์ ความเชื่อทางการเมืองเพื่อแสวงหาความเท่าเทียมจึงเติบใหญ่อย่างมาก ปลายพฤษภาคม 2551 (ยกครั้งแรก) เกิดเปลี่ยนแปลงการปกครองในเนปาล ต้นกรกฎาคม 2552 (ยกครั้งที่ 2) เกิดจลาจลในซินเจียงอุยกูร์ของจีน และเมื่อยกจริง ปลายปี 2553 ก็เกิด Arab Spring ที่กลายเป็นคลื่นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ไปทั่วตะวันออกกลาง

เมื่อเนปจูนเข้ากุมภ์ อุดมคติทางการเมืองต่างๆ ก่อตัวและงอกงาม แต่ผู้คนไม่สังเกต เพราะถูกบดบังจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ การเมืองไทยก็เช่นกัน กลางเมษายน 2552 กลุ่ม นปช.ก่อเหตุไม่สงบขึ้นกลางกรุงเทพฯ และกลางพฤษภาคม 2553 ก็ก่อจลาจลเผาเมืองกรุงเทพฯ

ในจังหวะที่เนปจูนยกครั้งที่ 2 ได้กุมสนิท (Conjunction) กับพฤหัสเมื่อ 28 พ.ค.2552 ที่ 2 องศา 29 ลิปดา เกิดเป็นวัฏจักร Synodic พฤหัส-เนปจูน ซึ่งกินเวลา 13 ปี ทั้งคู่กุมกันอีก 2 ครั้งในวันที่ 10 ก.ค.และ 21 ธ.ค.2552 โดยพฤหัสอยู่กุมภ์ ร่วมราศีกับเนปจูนถึง 2 พ.ค.2553

นี่คือปรากฏการณ์สำคัญ “...พฤหัสคือการขยายตัว เนปจูนคือการทำให้เกินจริง ...พฤหัสจึงหมายถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) และเงินเฟ้ออย่างอ่อนๆ แต่เนปจูนหมายถึงเงินเฟ้อมหาศาล การลงทุนที่ล้นเกิน และราคาสินทรัพย์ที่สูงมาก (เกินกว่าศักยภาพที่แท้จริงของระบบเศรษฐกิจ)...”

อ่านบทความ “หน้าต่างแห่งโอกาส ?” (www.bangkokbiznews.com/blog/detail/635133)

ผลลัพธ์คือ “...การสร้างความหวัง การมองโลกแง่ดีสุดขั้ว การสร้างภาพลวงตา...” เช่น มาตรการ QE ของเฟดที่พิมพ์เงินจากอากาศและอัดฉีดเข้าระบบ เพื่อพยุงระบบเศรษฐกิจของตนมิให้ล้ม แทนที่จะปฏิรูปโครงสร้าง ซึ่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุและเกิดผลดีในระยะยาว

ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ พฤหัสหมายถึงศาสนา-ปรัชญาต่างๆ เมื่อพฤหัสกุมเนปจูน ศรัทธาความเชื่อในหลักศาสนาจึงกลายเป็นความลุ่มหลงบ้าคลั่ง กลุ่มไอซิส (Islamic State of Iraq and Syria) กำเนิดขึ้นในช่วงเวลานี้เอง กลุ่มไอซิสโตมาจากกลุ่ม ISI ซึ่งแตกมาจากอัลกออิดะห์อีกที ผู้นำกลุ่มคืออาบู โอมาร์ อัล-บัคคาดี เสียชีวิตจากการปะทะกับกองกำลังสหรัฐ-อิรัก กลุ่มได้ผู้นำคนใหม่คืออาบู บัค อัล-บัคคาดี ในปี 2553 และเติบโตขึ้นจนกลายเป็นกลุ่มไอซิสปัจจุบัน

ตั้งแต่ 14 ก.ค.2558 พฤหัสยกเข้าสิงห์ วัฏจักรดำเนินมาถึงกึ่งกลางรอบ จากการกำเนิด-เติบโต-รุ่งเรือง จนถึงความเสื่อมในที่สุด ชะตากรรมกลุ่มไอซิสจึงเป็นไปตามวัฏจักรดาว เมื่อถูกรัสเซียประกาศสงครามและโจมตีอย่างหนักตั้งแต่ 30 ก.ย.2558

พฤหัสสิงห์เล็งเนปจูน ขณะเดียวกัน ก็ทำมุม 90 กับเสาร์พิจิกด้วย ในปัจจุบัน ทั้งคู่อยู่ใน Waning-square Phrase หรือ ¾ ของวัฏจักร โดยวัฏจักร Synodic พฤหัส-เสาร์รอบปัจจุบัน เริ่มต้นที่การกุมกัน (Conjunction) เมื่อ 29 พ.ค.2543 ที่ 28 องศา 52 ลิปดาในราศีเมษ

พฤหัสเป็นดาวแห่งการเจริญเติบโต เสาร์เป็นดาวแห่งการควบคุมจำกัด พฤหัสคือดาวประธานฝ่ายศุภเคราะห์ เสาร์คือดาวประธานฝ่ายบาปเคราะห์ เมื่อทั้งคู่กุม-เล็ง-เป็นเกณฑ์ (มุม 90) แก่กัน จึงมักเกิดการเปลี่ยนแปลงและเหตุการณ์ใหญ่เสมอ โดยเฉพาะภัยธรรมชาติ

พฤหัส-เสาร์เป็นดาวที่มีอิทธิพลมากในระดับสังคม การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน จึงต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ และแน่นอน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วย

ในดวงเมืองไทย พฤหัสเป็นดาวเจ้าเรือนภพ 9 (ศุภะ) อันหมายถึงกฎหมาย-ระบบยุติธรรม-ธรรมนูญการปกครอง เสาร์เป็นดาวเจ้าเรือนภพ 10 (กัมมะ) ซึ่งก็คือการเมือง-การปกครอง เมื่อเข้ามุม 90 กัน จึงยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เช่น การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ความเป็นไปของ คสช.และ ครม.ฯลฯ

พฤหัสสิงห์ทำมุม 90 กับเสาร์พิจิกรวม 3 ครั้ง ครั้งแรก 3 ส.ค.2558 ที่ 4 องศา 13 ลิปดา ครั้งสอง 23 มี.ค.2559 ที่ 22 องศา 19 ลิปดา และครั้งสาม 26 พ.ค.2559 ที่ 19 องศา 36 ลิปดา ในครั้งแรก มีการล้มร่างรัฐธรรมนูญและสภาปฏิรูปแห่งชาติ รวมถึงปรับ ครม. นี่เป็นไปตามจังหวะดาว เราจึงต้องจับตาการเมืองช่วงที่ 2 และ 3 ให้ดีว่า จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีก

เสาร์พิจิกคือปรากฏการณ์ดวงดาวสำคัญช่วง 2–3 ปีนี้ “...ต้นพฤศจิกายน 2557 เสาร์ยกเข้าพิจิก ...พิจิกคือภพที่ 8 (มรณะ) ของดวงเมืองไทยและโลก อันเกี่ยวข้องกับภัยอันตราย ทุกข์โศก ความสูญเสีย ความวิบัติ ฯลฯ เสาร์เป็นบาปเคราะห์ใหญ่ เมื่อจรในภพร้าย ย่อมแสดงโทษทุกข์อย่างชัดเจน...”

อ่านบทความ “อยู่กับความผันผวน” (www.bangkokbiznews.com/blog/detail/635066)

เสาร์คือความจริง (Reality) ในอีกมุมหนึ่ง ภพที่ 8 คือภพแห่งการสิ้นสุดกายสังขาร หรือการตายเพื่อเกิดใหม่ (อย่างชาญฉลาดกว่าเก่า) เสาร์พิจิกจึงเปรียบเสมือนครูผู้เข้มงวด ผู้สอนให้เราได้เรียนรู้ความจริงของชีวิตและโลกหล้า ผ่านความเจ็บปวด การสูญเสีย และทุกข์ทรมาน

เสาร์พิจิกทำมุม 90 (Orb 5 องศา) กับเนปจูนกุมภ์ 2 ช่วง ช่วงแรก 15 ต.ค.2558–20 ม.ค.2559 โดยทำมุมกันสนิท 26 พ.ย.2558 ที่ 12 องศา 58 ลิปดา ช่วงหลัง 14 เม.ย.–31 ต.ค.2559 โดยทำมุมสนิท 18 มิ.ย.ที่ 17 องศา 57 ลิปดา และทำมุมสนิทอีกครั้ง 10 ก.ย. ที่ 16 องศา 19 ลิปดา

เนปจูนคือมายา เสาร์คือความจริง ตราบใดที่ทั้งคู่ทำมุม 90 กัน ความขัดแย้งทางการเมืองและความวุ่นวายในไทยและตะวันออกกลาง ก็ไม่มีทางสิ้นสุดยุติลงได้ มันคือช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจเลือกระหว่างความฝันกับความจริง

T-square ของพฤหัส-เสาร์-เนปจูนในสถิรราศี คือแรงขับเคลื่อนสำคัญของสถานการณ์โลกปี 2559 ครับ