ร่มชูชีพที่เริ่มกาง

ร่มชูชีพที่เริ่มกาง

ตลาดรถยนต์ปีนี้หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง มาจากปีก่อนๆหน้า และเริ่มออกอาการย่ำแย่

ตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว ทั้งที่หลายคนคาดการณ์ว่าจะเริ่มฟื้นตัวจากไข้ที่จับมาหลายปี ถึงกับกล้าที่จะคาดการณ์ยอดขายปีนี้เอาไว้ประมาณ 1 ล้านคัน หรืออย่างน้อยๆ ก็ประมาณ 9.5 แสนคัน

แต่เมื่อดูตัวเลขยอดขายรายเดือนแต่ละเดือนที่ผ่านไปๆ หลายคนเริ่มเมินหน้าหนี กับการหดตัวของตลาดด้วยตัวเลขในระดับ 2 หลักทั้งสิ้น โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับประมาณ 15% แต่มีบางเดือนที่ทะลุระดับ 20% ทำให้ค่ายรถค่อยๆ ทยอยปรับลดเป้าหมายการขายปีนี้ลงมาหลายครั้งด้วยกัน ซึ่งล่าสุดน่าจะมีจุดร่วมกันในระดับ 7.5-7.7 แสนคัน

แต่ว่าล่าสุดข้อมูลของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่าเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา มียอดขายรถยนต์โดยรวม 6.79 หมื่นคัน ลดงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 4.2%

และหากนับรวมตั้งแต่ต้นปี คือ ม.ค.-ต.ค มียอดรวมทั้งสิ้น 6.21 แสนคัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 13.6%

ซึ่งหากดูถึงตัวเลขการติดลบก็ต้องถือว่ามีสัญญาณที่ดีขึ้น การติดลบรายเดือนด้วยตัวเลขหลักเดียวนั้นน่าจะเป็นที่น่าพอใจ และเมื่อรวม 10 เดือน ตัวเลขหดตัวก็ต่ำกว่า 15% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยืนระยะมาพักใหญ่

นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ร่มชูชีพเริ่มกางออกในปีนี้ ทำให้อัตราเร่งในการร่วงนั้นลดลง อย่างน้อยก็พอทำให้หลายคนหายใจหายคอได้คล่องมากขึ้น

สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่ผู้บริหารค่ายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์หลายค่ายที่ผมมีโอกาสพูดคุยด้วย ก็พูดในทิศทางเดียวกันว่า มีสัญญาณที่ดีขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารเอ.พี.ฮอนด้า ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบอกว่า การลงไปกระตุ้นระดับล่างได้ผลที่ดี พร้อมให้เครดิตกับรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

แต่ทั้งนี้เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นต่างๆ เหล่านี้ยังไม่เห็นชัดเจนเต็มที่นัก ต้องรอถึงช่วงม.ค.ปีหน้า และเมื่อรวมกับผลจากโครงการลงทุนภาครัฐต่างๆ แล้ว ก็น่าจะทำให้ตลาดปีหน้ามีแนวโน้มที่ไม่เลว

ส่วนปัจจััยบวกอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาและวันนี้ ก็คือ มีสินค้าใหม่ที่เข้ามาดึงดูดลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นการเปิดตัวรถใหม่ รถรุ่นปรับปรุง หรือ รุ่นพิเศษ ไม่ขาดสาย ในทุกๆ ตลาด ไม่ว่าจะเป็นปิกอัพ อย่างเช่น ฟอร์ด มาสด้า หรือ อีซูซุ ที่ส่งรุ่นเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1.9 ลิตร เข้ามาลุยตลาด

รถพีพีวีที่เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ก็ทยอยเปิดตัวกันครบทุกยี่ห้อ (เฉพาะค่ายที่มีแผนทำตลาด) ซึ่งก็ช่วยผลักดันตลาดได้

ขณะที่กลุ่มรถยนต์นั่ง รถครอสโอเวอร์ ก็เห็นรถหลายตัว และเร็วๆนี้ก็ยังจะมีเข้ามาเสริมตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น ฮอนด้า ที่เตรียมเปิดตัว บีอาร์-วี ในงานมหกรรมยานยนต์ที่จะมีขึ้นระหวาืง 2-13 ธ.ค.นี้

ด้านตลาดพรีเมียม ช่วงที่ผ่านมา ก็เล่นกันสนุกทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู ทั้งการเปิดตัวรถใหม่ หรือว่าการเพิ่มรุ่นประกอบในประเทศ หรือ ซีเคดี ซึ่งช่วยให้กดราคาลงมาจากรุ่นนำเข้า หรือคงราคาเดิม แต่เติมออพชั่น เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ควักกระเป๋าเข้าโชว์รูม

ขณะที่บางคนก็บอกว่าแม้ที่ผ่านมาถึงขณะนี้ ภาวะเศรษฐกิจก็ยังไม่ดีนัก สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยยังอยู่ในระดับสูง ราคาและการผลิตสินค้าเกษตรยังย่ำแย่ แต่อาการไข้ที่ดีขึ้น เพราะนอกจากปัจจัยบวกเช่นรถใหม่ๆ แล้ว ยังเป็นเพราะเชื้อโรคร้ายบางตัวเริ่มอ่อนแอลง เช่น รถคันแรก

แต่แม้ว่าภาพรวมจะดูดีขั้น แต่ประธานบีเอ็มดับเบิลยู บอกว่า ไม่ได้หมายความว่าตลาดรถยนต์จะฟื้น ยังคงมีทิศทางที่ติดลบ เพียงแต่ช้าลง หมายความว่า ณ ปัจจุบัน ตลาดยังไม่ถึงจุดต่ำสุด ยังจะร่วงได้อีก แต่เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะถึงจุดนั้น จุดที่ต่ำสุด แล้วค่อยลุ้นกันอีกทีว่า การฟื้นตัวจะเริ่มทันทีเลยหรือไม่ หรือว่าต้องตกตะกอนนอนก้นรอให้มีอะไรมาคนมากวนเสียก่อน

อย่างไรก็ตามแม้ตลาดยังไม่ฟื้น แต่สถานการณ์ปัจจุบัน เชื่อว่าหลายคนก็คงจะพึงพอใจ เพราะแม้ยังอยู่ในสถานการณ์ร่วงจากที่สูง แต่ก็อุ่นใจได้ว่า ชูชีพ ที่ติดหลังอยู่ยังใช้งานได้

เพียงแต่ว่าอย่ามีใครอุตริไปตัดสายมันทิ้งอีกครั้งหนึ่ง เพียงเพราะแค่คิดง่ายๆ จะไปถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุดเท่านั้นเป็นพอ