แก่นแท้ สสส.

แก่นแท้ สสส.

การจะเขียนถึงองค์กรคนดีอย่าง สสส. ทำให้ผมชั่งน้ำหนักต้นทุนทางสังคมของตัวเอง

ว่ามีพอไหม เพราะการที่เราจะพูดจะเขียนถึงใครก็ให้ดูตัวเราก่อน

ต้นทุนทางสังคมผมแม้ไม่สูงส่ง แต่มีพอจะให้พูดถึง สสส. ที่นอกจากจะเป็นองค์กรคนดีแล้ว ยังเป็นเหมือนดินแดนสนธยา ที่น้อยคนนักจะรู้จักถึงแก่นแท้ สสส.

เงินจากภาษีบาป 2% คือจุดกำเนิด สสส. เมื่อปี 2545 ตัวเลขกลมๆ 1 พันกว่าล้านบาท และเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการขึ้นอัตราภาษีเหล้า บุหรี่ จนปี 2557-2558 ได้งบกลมๆ 4 พันกว่าเกือบ 5 พันล้านต่อปี ไม่น้อยเลยกับที่คนกินเหล้า คนสูบบุหรี่ ส่งเงินให้ สสส. ผ่านระบบภาษี

สสส. แบ่งหน่วยงานภายในออกเป็น 15 แผนงาน (ดูตามเว็บไซต์ สสส. www.thaihealth.or.th ) แต่ละหน่วยงานแยกตาม area issue and setting เรียกย่อ AIS ของการทำงาน

ปัญหาของ สสส. เมื่อมีเงินมาก ผู้บริหารจะตั้ง kpi ให้แต่ละสำนักต้องใช้งบประมาณให้หมด ไม่คำนึงว่าผู้รับทุน จะตอบสนองวัตถุประสงค์ สสส. หรือไม่ พูดง่ายๆ คือ ขอให้ได้จ่ายเงิน ส่วนผลลัพธ์เชิงสุขภาพแท้จริงหรือไม่ ไม่มีการติดตามตรวจสอบ

ปัญหาข้างต้น เป็นปัญหาด้านบริหารจัดการกองทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพ ใช้เงินฟุ่มเฟือย ไม่โปร่งใส ผลประโยชน์ตกอยู่แค่ภาคีรับทุนหน้าเดิม

กลุ่มภาคีเครือข่าย หรือเรียกกันว่า ผู้รับทุน คือผู้เสนอโครงการสร้างเสริมสุขภาวะทางร่างกาย ทางจิตใจ โดย สสส. ให้ทุนภาคีแต่ละภาคีไปทำงานแทน เมื่อย้อนไปดูข้อมูลเดิมพบว่า ส่วนใหญ่ภาคีรับทุน จะเป็นภาคีเก่า ที่รับทำแผนงาน โครงการขนาดใหญ่หรือโครงการต่อเนื่อง หรือเป็นพวกสมาคม มูลนิธิ สถาบัน ที่ไม่แสวงหากำไร

ตรวจสอบลึกลงไปจะพบว่าภาคีบางภาคีตั้งขึ้นมาเพื่อขอรับทุนโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัย และหน่วยงานรัฐ

ส่วนภาคีผู้รับทุนหน้าใหม่ กว่า 90% เป็นผู้รับทุนของแผนงาน open grant รับทุนรายย่อย วงเงินไม่มาก

อีกกลุ่มภาคีเครือข่ายคือ ฝ่ายการเมือง ที่ไม่ได้เข้ามาตรงๆ แต่จะจำแลงร่างผ่านเข้ามาในรูปแบบ ภาคี มูลนิธิ เมื่อรับเงินไปแล้ว ก็นำไปใช้จ่ายที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ สสส.

ปัญหา สสส. ใช้เงินไม่มีประสิทธิภาพ คือ เมื่อภาคีซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหน้าเดิมที่รับเงินไปแล้ว ดำเนินงานโครงการไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะถือว่า สสส. ไม่มีเวลาตรวจสอบโครงการอยู่แล้ว การนำเสนอผลดำเนินงานจึงมีเพียงกระดาษไม่กี่แผ่น

โครงการที่ได้รับทุนของ สสส. จะได้เงินไปทำเป็นงวดๆ เมื่อเสนอโครงการผ่านแล้วจะได้เงินงวดแรกไปดำเนินงาน ส่วนก้อนที่สองจะได้รับหลังกรรมการตรวจรับงานงวดแรก และก้อนสุดท้ายหลังจากปิดโครงการ

สสส.ระบุว่ามีกระบวนการตรวจสอบที่ดี ได้ติดตามเงินที่ให้ไปหรือไม่ อย่าบอกเพียงว่า สสส. คือน้ำมันหล่อลื่นหยอดให้กระบวนการผู้รับทุนไปขับเคลื่อนเอง เพราะเสียงสะท้อนตามมาเวลานี้คือ เงินที่จ่ายไปไม่คุ้มค่า สุดท้ายเกิดผลลัพธ์ต่อสุขภาพคนไทย จริงหรือไม่