ร่วมคิด ร่วมทำ แบ่งปันซึ่งกันและกัน

ร่วมคิด ร่วมทำ แบ่งปันซึ่งกันและกัน

ทัศนคติคือจุดตั้งต้นของสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาถ้าเราคิดดีคิดเป็นบวกพฤติกรรมหรือการแสดงออกของคนคนนั้นก็จะออกมาในทางที่ดี

ในขณะที่ประเทศต่างๆทั่วโลกต่างเผชิญปัญหาและอุปสรรคนานัปการแตกต่างกันบ้างเหมือนกันบ้างไม้เว้นแม้แต่ประเทศไทยแต่ทุกคนทุกองค์กรและทุกประเทศต่างก็พยายามแสวงหาหนทางที่ดีที่สุดเหมาะสมที่สุดกับบริบทและเงื่อนไขแวดล้อมที่ตนเองเผชิญอยู่ให้ได้ดีที่สุดผมเชื่อว่าการได้มีโอกาสเรียนรู้ประสบการณ์ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวตลอดจนวิธีการที่คนหรือองค์กรอื่นได้ทำผ่านพ้นมาแล้วจะช่วยให้เราไม่ต้องไปเดินซ้ำย่ำรอยนั้นอีกแต่ถึงอย่างไรถ้าโชคไม่ดีเราเกิดต้องไปพบกับปัญหาที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับบทเรียนที่มีผู้อื่นได้ผ่านมาแล้วสิ่งที่เราได้เรียนรู้และศึกษามาก่อนหน้านี้ก็จะช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคขวากหนามนั้นมาได้โดยง่ายความวิตกกังวลหรือตื่นเต้นต่อความยุ่งยากต่างๆก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่เราสามารถจะรับมือกับมันได้

 

การที่เราจะก้าวพ้นผ่านอุปสรรคขวากหนามหรือเลือกเดินทางไปในทิศที่มุ่งหวังได้อย่างสะดวกนั้นการศึกษาหาความรู้เพื่อให้เท่าทันกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับเราได้ในอนาคตรวมถึงการคาดการณ์ปัญหาขึ้นมาล่วงหน้าก่อนเพื่อที่จะหามาตรการป้องกันน่าจะเป็นวิถีที่ทุกคนควรจะเลือกใช้มากกว่าการมุ่งหน้าเดินไปโดยขาดการวางแผนและคิดว่าถ้าเจอปัญหาข้างหน้าก็แก้ไขกันไปตามสถานการณ์มีอยู่2 แนวคิดในการจัดการกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของเราเองหรือแม้แต่จะเป็นเรื่องงานก็ตามแนวคิดแรกเป็นการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากวิกฤต(Crisis) เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับแรงกดดันจากภายนอกหรือถูกเร่งเร้าว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงแล้วในเวลาอันสั้นนี้ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่สามารถดำรงตนหรือองค์กรให้อยู่รอดได้เมื่อเกิดขึ้นทุกครั้งจะนำมาซึ่งความโกลาหลวุ่นวายตามมาด้วยความเครียดและความไม่สบายใจของทุกคนที่เกี่ยวข้องแต่ที่น่าแปลกก็คือเราก็ยังคงเห็นสภาพเช่นนี้อยู่ทั่วไปในสังคมไทยประหนึ่งว่าไม่ได้พยายามนำบทเรียนเก่าๆมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์

 

ในขณะที่แนวคิดที่สองเป็นการจัดการกับความเปลี่ยนแปลงด้วยการมองออกไปข้างนอกหรือมองไปข้างหน้าไกลๆเพื่อสังเกตและเฝ้าติดตามดูว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้างในอนาคตหรือแนวโน้มโลกตอนนี้เป็นไปในทิศทางใดการมองอนาคตและนำมากำหนดวิถีทางก้าวเดินนี้เราเรียกว่าเป็นการบริหารการเปลี่ยนแปลงโดยวิสัยทัศน์(Vision) แน่นอนวิธีการแบบหลังนี้เกิดจากเราเป็นคนกำหนดเองและมีเวลาที่จะก้าวเดินไปอย่างมีเหตุมีผลไร้แรงกดดันจากสิ่งรอบข้างเชื่อว่าถ้าเราปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆด้วยตนเองย่อมดีกว่าเปลี่ยนโดยรับแรงกดดันจากภายนอกเป็นแน่

 

สำหรับองค์กรที่ยังดำเนินการภายใต้สภาวะวิกฤตรายวันอยู่นั้นก็ยากที่จะก้าวให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงโลกในช่วงที่ผมได้ทำงานที่สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เคยรวบรวมความคิดเห็นต่อการแก้ปัญหาในองค์กรทั่วไปด้วยการให้ทุกคนนั่งล้อมวงและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อประเด็นที่ว่า“ทำไมปัญหาต่างๆภายในองค์กรจึงไม่ได้รับการแก้ไขเสียที” จากเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดังกล่าวได้ข้อสรุปออกมา14 ข้อถึงสาเหตุที่ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขดังนี้

1.ไม่รู้ว่าตนมีปัญหา 2.รู้ว่ามีปัญหาแต่ไม่ยอมรับรู้ 3.รับว่ามีปัญหาและรับรู้แต่ไม่ยอมแก้ 4.รับว่ามีปัญหาแต่เกี่ยงกัน (ไม่) แก้ 5.เจตนากลบปัญหา (เพราะตัวเองกลัวปัญหา)6.เจตนากลบปัญหา (เพราะนายไม่ชอบปัญหา) 7.ปัญหาเรื้อรังแก้แล้วไม่หายก็เลยไม่แก้ (แก้ปลายเหตุ) 8.รู้ว่ามีปัญหาแต่ไม่กล้าแก้ (เข้าเนื้อเปล่าๆ) 9.มีปัญหาต้องแก้เป็นทีม (ทีมแตกเรื่อย)10.ความรู้ด้านเทคนิคไม่พอในการแก้ปัญหา11.วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาไม่เป็น 12.รู้ว่ามีปัญหาแต่กำหนดไม่ถูกว่าอะไรคือปัญหา 13.คิดว่าปัญหานิดเดียวผลกระทบน้อยเลยไม่ใส่ใจ 14.ปัญหานี้เป็นของหน่วยงานนั้นๆเราไม่เกี่ยว

 

เมื่อได้ข้อสรุปดังกล่าวมาแล้วทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่าสาเหตุจริงๆนั้น มาจากทัศนคติของคนต่อการมองปัญหาต่างหากทัศนคติหรือความคิดของคนนั้นสามารถมองสิ่งเดียวกันให้เป็นบวกก็ได้หรือเป็นลบก็ได้เช่นการมอบหมายงานจากผู้บังคับบัญชาถ้าคนหนึ่งมองเป็นลบก็อาจคิดว่างานนั้นเป็นภาระทำไมฉันต้องมาทำงานพิเศษนี้ด้วยในเมื่อคนอื่นทำแค่งานในหน้าที่เท่านั้นฉันกำลังถูกลงโทษหรือถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ในขณะที่อีกคนหนึ่งซึ่งมองเป็นบวกก็จะรู้สึกดีเมื่อผู้บังคับบัญชาคิดถึงตนแสดงว่าเชื่อมือและเชื่อมั่นว่าเราจะทำงานพิเศษนั้นได้เป็นอย่างดีมองว่างานนั้นเป็นความท้าทายเป็นโอกาสที่จะให้ตนได้แสดงความรู้ความสามารถให้ประจักษ์ได้

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาตนเองท่านหนึ่งกล่าวว่าทัศนคติคือจุดตั้งต้นของสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาถ้าเราคิดดีคิดเป็นบวกพฤติกรรมหรือการแสดงออกของคนคนนั้นก็จะออกมาในทางที่ดีทั้งสีหน้าวาจาและกิริยาสะท้อนให้เห็นถึงความเต็มใจตั้งใจซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้หรือผลสืบเนื่องออกมาในทางที่ดีในทางกลับกันใครที่คิดเป็นลบการแสดงออกก็จะไม่ดีผลลัพธ์ก็เดาได้ว่าไม่น่าจะดีนักขอให้ทุกคนคิดดีเพื่อที่จะร่วมกันทำความดีและน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติอย่างจริงจังและขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในโลกจงดลบันดาลให้ทุกคนในชาติพบแต่ความสุขความสงบและความเจริญอย่างยั่งยืน