นวัตกรรมรูปแบบการทำธุรกิจ

นวัตกรรมรูปแบบการทำธุรกิจ

เมื่อพูดถึงนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ ผู้ประกอบการอาจคิดถึงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมการผลิตและนวัตกรรมการบริการ แต่ยังมีอีกนวัตกรรมที่สำคัญเช่นกัน

นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การสร้างสรรค์สินค้าที่แปลกใหม่ นวัตกรรมกระบวนการผลิต ได้แก่ การแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตสินค้า และนวัตกรรมการบริการ ซึ่งได้แก่ การนำเสนอการบริการแนวใหม่ หรือ การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ประกอบการให้บริการ

แต่ยังมีนวัตกรรมอีกรูปแบบหนึ่งที่อาจได้รับการพูดถึงบ้างเพียงเล็กน้อยแต่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า นวัตกรรม ทั้ง 3 รูปแบบ ที่กล่าวมาแล้ว

ซึ่งได้แก่ นวัตกรรมรูปแบบการทำธุรกิจ หรือ Business Model Innovation (BMI)

รูปแบบของการทำธุรกิจ หรือที่มักเรียกกันสั้นๆ ว่า โมเดลธุรกิจ เป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจที่ดูจะเป็นธรรมดาๆ สามารถเพิ่มค่าเชิงพาณิชย์ได้อย่างแตกต่างจากธุรกิจที่ใกล้เคียงกันอย่างท่วมท้น

ไม่ว่าจะเป็นบริการสืบค้นข้อมูลแบบ Google เว็ปไซต์ชุมชนแบบ Facebook หรือการบริการรถแท็กซี่แบบ Uber ฯลฯ ที่สามารถสร้างมูลค่าของธุรกิจขึ้นมาได้ในระดับ พันล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถให้บริการได้กับคนแทบทั่วโลก

ในความหมายแบบกว้าง โมเดลธุรกิจ หมายถึง วิธีการหรือวิธีดำเนินการที่ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอคุณค่าของสินค้าหรือบริการที่น่าสนใจให้กับกลุ่มผู้บริโภคและสามารถแสวงหาผลตอบแทนจากวิธีการสร้างคุณค่านี้ได้อย่างยั่งยืน

ในรายละเอียด โมเดลธุรกิจ จะอธิบายถึงขอบเขตและโครงสร้างของตัวธุรกิจ คุณค่าที่จะนำเสนอให้กับผู้บริโภค กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย วิธีการและตรรกะของการส่งต่อคุณค่าดังกล่าวไปสู่ผู้บริโภค และวิธีการที่จะเก็บเกี่ยวผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

มีผู้กำหนดองค์ประกอบที่สำคัญของ โมเดลธุรกิจ ไว้ 9 ประการ ได้แก่

1. คุณค่าที่ธุรกิจต้องการนำเสนอต่อผู้บริโภค ซึ่งอาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องตลาด เช่น มีความแปลกใหม่ ใช้งานได้ง่าย ใช้งานได้สะดวกขึ้น ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ตรงความต้องการ และตอบคำถามได้ว่า เหตุใดผู้บริโภคจึงต้องการอยากได้คุณค่าเหล่านี้ และพร้อมที่จะหาซื้อมาเป็นเจ้าของ

2. กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โมเดลธุรกิจ จะต้องระบุว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เหมาะสมควรเป็นกลุ่มใดอย่างชัดเจน และควรจะเป็นกลุ่มที่จะถูกดึงดูดได้โดยคุณค่าที่ธุรกิจจะนำเสนอ ซึ่งการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย จะนำไปสู่การเชื่อมโยงคุณค่าไปยังองค์ประกอบอื่นๆ

3. ช่องทางที่เหมาะสมในการนำคุณค่าที่จะเสนอไปสู่กลุ่มลูกค้า เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะนำคุณค่าที่นำเสนอไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งอาจเป็นช่องทางปกติของการทำธุรกิจ หรือช่องทางที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การใช้ระบบอินเตอร์เน็ต หรือการใช้หลายๆ ช่องทางรวมกัน

4. วิธีการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า เพื่อที่จะสามารถรักษาลูกค้าเก่าและดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างแบรนด์ การสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ หรือการทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเป็นกันเองและความสนิทสนม

5. สมรรถนะและความสามารถที่มีอยู่ในธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมรรถนะที่จะนำไปใช้สร้างคุณค่าที่จะนำเสนอให้กับลูกค้าเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะทางด้านความรู้ความชำนาญความเชี่ยวชาญ การเป็นเจ้าของทรัพยากรที่เป็นหัวใจหลักของธุรกิจ หรือแม้กระทั่งสมรรถนะและความแข็งแกร่งด้านการเงิน

6. รูปแบบหรือโครงสร้างของวิธีการสร้างคุณค่า ซึ่งจะตอบว่า คุณค่าที่จะนำเสนอนั้น ธุรกิจจะสร้างขึ้นได้อย่างไร จะสร้างขึ้นเองในองค์กร หรือจะหามาจากแหล่งภายนอก ผ่านที่ปรึกษาหรือการรับจ้างช่วง

7. เครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่จะเข้ามาร่วมเสริมสมรรถนะหรือมาร่วมแบ่งถ่ายความเสี่ยง

8. วิธีการสร้างและจัดเก็บรายได้ ระบุถึงวิธีการและความสามารถของธุรกิจในการสร้างรายได้ เช่น การกำหนดราคาขาย รูปแบบการจัดเก็บรายได้หรือวิธีขาย เช่น ให้เช่า บอกรับสมาชิก ขายเงินผ่อน ฯลฯ ตลอดจนวิธีทำการตลาด

9. โครงสร้างของต้นทุน ซึ่งหมายถึง ต้นทุนในการดำเนินการทั้งหมดของธุรกิจในการที่จะนำเสนอคุณค่าไปสู่กลุ่มเป้าหมาย

การสร้างนวัตกรรมรูปแบบการทำธุรกิจ อาจทำได้อย่างน้อย 2 วิธี ได้แก่

การออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่หมด โดยการพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ว่าในปัจจุบันจะสามารถเปลี่ยนแนวคิดหรือนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้แทนได้อย่างไร หรือมีโอกาสทางธุรกิจอื่นที่เปิดให้ใหม่และธุรกิจสามารถแสวงหาผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นได้จากการนำเสนอโมเดลธุรกิจใหม่ที่พลิกโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิง

การปรับเปลี่ยนรูปแบบโมเดลธุรกิจเดิมให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ทางธุรกิจได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับน้อยกว่าวิธีแรก อาจทำได้โดยการทบทวน ปรับเปลี่ยน เพิ่มความคล่องตัวหรือสร้างความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น

การสร้างนวัตกรรมรูปแบบการทำธุรกิจ หรือ BMI ยังอาจนำไปสู่การสร้างไอเดียใหม่ๆ ที่จะทำให้เกิดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือ กระบวนการผลิตให้กับธุรกิจตามมาได้อีกด้วย

เป็นการเตรียมตัวนำธุรกิจไทยเข้าสู่สังคมของเศรษฐกิจฐานความรู้ที่จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับประเทศได้เพิ่มขึ้นได้อีกด้วยโดย