ปูตินตบหน้าโอบามากรณีซีเรีย :

ปูตินตบหน้าโอบามากรณีซีเรีย :

ความเสี่ยงสงครามยักษ์ใหญ่สูงยิ่ง

ปูตินเล่นเกมเร็ว แรงและเร่งในซีเรีย ทำเอาโอบามาตั้งรับไม่ทัน มารู้ตัวอีกทีก็เสียฟอร์มไปมากแล้ว

ฝรั่งใช้คำว่า outmanoeuvre ซึ่งแปลว่าผู้นำสหรัฐไม่ทันเกมประธานาธิบดีรัสเซียคนนี้

เพราะวันที่ 28 ก.ย. โอบามากับปูตินเจอกันที่สหประชาชาติ นัยว่าเพื่อจะปรึกษาหารือทางออกในซีเรีย เพราะวอชิงตันกับมอสโกยืนอยู่คนละข้าง ของประธานาธิบดีบาชาด อัล อัสสาด

อเมริกาบอกว่าต้องโค่นอัสสาดจึงจะปราบกลุ่ม ISIS หัวรุนแรงในซีเรียและส่วนอื่นของตะวันออกกลางได้

แต่รัสเซียยืนกรานว่าต้องปกป้องอัสสาดไว้ในอำนาจจึงจะมีทางขจัดกลุ่ม ISIS

โอบามานึกว่าจะมีเวลาแลกเปลี่ยนความเห็นกับปูตินเพื่อหาทางออกร่วมกัน

แต่ปูตินได้ขอให้รัฐสภารัสเซียมีมติอนุมัติ ให้ใช้กำลังทหารในซีเรียในวันเดียวกันนั้นแหละ

ขณะที่โอบามายังงง ๆ อยู่ว่าจะเอาอย่างไรกับปูติน เครื่องบินรัสเซียก็ถล่มเป้าหมายฝ่ายตรงข้าม ของรัฐบาลในซีเรียอย่างไม่เกรงใจวอชิงตัน

ปูตินบอกว่าที่ส่งเครื่องบินไปช่วยผู้นำซีเรีย ก็เพื่อทำลายฐานที่มั่นของกลุ่ม ISIS

แต่โอบามาโวยลั่นบอกว่าไม่ใช่ เครื่องบินรัสเซียทิ้งระเบิดใส่กลุ่มต่อต้านอัสสาดเป็นหลัก

และเมื่อกลุ่มต่อต้านอัสสาดในซีเรียได้รับการหนุนเนื่องจากอเมริกา ก็หนีไม่พ้นว่าเป้าการโจมตีทางอากาศของเครื่องบินรบรัสเซีย ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่อเมริกัน รวมถึง “ที่ปรึกษา” ที่มาจากซีไอเอด้วย

รัสเซียบอกอเมริกันล่วงหน้าหรือไม่ว่าจะส่งเครื่องบินตัวเองทิ้งระเบิดในซีเรีย?

ข่าวบอกว่าละครฉากล่าสุดนี้เริ่มด้วยนักการทูตรัสเซียคนหนึ่ง โทรไปหานักการทูตมะกันในตำแหน่งเดียวกัน ที่แบกแดดพร้อมกับบอกว่า “เรามีเรื่องน่าสนใจที่จะบอกคุณ”

จากนั้น นายทหารรัสเซียสามดาวคนหนึ่งก็เดินทางออกจากสถานทูตรัสเซียที่นั่น เคาะประตูสถานทูตสหรัฐ เพื่อขอพบผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร

นายทหารรัสเซียคนนั้นแจ้งกับนายทหารมะกันว่า “เราจะเริ่มปฏิบัติการทางอากาศในซีเรียอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า ดังนั้นขอให้ท่านสั่งให้หน่วยปฏิบัติการของฝ่ายท่านออกจากน่านฟ้าแถวนั้น และย้ายอุปกรณ์ทางทหารออกไปจากบริเวณนั้นด้วย”

60 นาทีต่อมา การถล่มทางอากาศของรัสเซียในซีเรียก็เริ่มขึ้น

รัสเซียขยับอย่างนี้เป็นเรื่องใหญ่ และแน่นอนว่าสหรัฐตั้งตัวเกือบไม่ทัน เพราะไม่เคยคาดคิดว่าปูตินจะหาญกล้าท้าทายมะกันในต่างแดนขนาดนี้

เพราะหากสหรัฐไม่ฟังรัสเซีย ก็อาจจะส่งเครื่องบินขึ้นบนท้องฟ้า เพื่อประกบเครื่องบินรบรัสเซียกลางน่านฟ้าซีเรีย

จะเกิดอะไรขึ้น? วอชิงตันกับมอสโกย่อมไม่มีฝ่ายไหนยอมถอยให้ใคร ในสมรภูมิที่ต่างคนต่างมีเดิมพันสูงเช่นนี้

เป็นไปได้หรือที่ทั้งสองประเทศมหาอำนาจจะ “ประสาน” ปฏิบัติการเพื่อจะถล่มเป้าหมายของ ISIS ตามที่รัสเซียกล่าวอ้าง

แม้สหรัฐจะแกล้งเชื่อตามรัสเซีย จะให้เครื่องบินรบมะกันกับรัสเซียสลับไปปฏิบัติการเหนือน่านฟ้าซีเรีย ในฐานเป็นเพื่อนร่วมรบกระนั้นหรือ?

ถามต่อว่ารัสเซียส่งทหารและเครื่องบินเข้าซีเรียเพื่อกวาดล้าง ISIS อย่างที่ปูตินบอกโอบามา หรือเพื่อจะปกปักรักษาบัลลังก์ของประธานาธิบดีอัสสาดแห่งซีเรีย?

นักสังเกตการณ์ที่เกาะติดการทิ้งระเบิดของเครื่องบินรบรัสเซียสามวันแรก ยืนยันว่าเป้าหมายการถล่มส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นจุดที่กลุ่ม ISIS มีความเคลื่อนไหวอยู่แต่อย่างใด

พูดง่าย ๆ ก็คือเป้าของการกวาดล้างโดยเครื่องบินรบรัสเซีย ในสองสามวันแรกคือกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากรัสเซียถล่มกลุ่มต่อต้าน ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งการเงินและอาวุธจากสหรัฐ?

ก็แปลว่ารัสเซียกับอเมริกาเปิดศึกสงครามกันในซีเรียอย่างเปิดเผยแล้ว

และถ้าหากมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐ อยู่ในภาคพื้นดินเคียงคู่กับทหารต่อต้านอัสสาด ที่ถูกเครื่องบินรัสเซียทิ้งระเบิดล่ะ?

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯแอชตัน คาร์เตอร์บอกว่าการที่รัสเซียทำอย่างนี้เท่ากับ “ราดน้ำมันลงบนกองไฟ”

รัสเซียชักชวนจีนและอิหร่านมาร่วมเป็นพันธมิตรในซีเรีย ขณะที่สหรัฐมีเพียงซาอุดีอาระเบีย เป็นเพื่อนร่วมรบจากตะวันออกในกรณีนี้เท่านั้น

โอบามาทำท่ายึกยักในกรณีซีเรียมาระยะหนึ่ง แต่ปูตินไม่เคยปฏิเสธว่าอย่างไรเสียเขาต้องปกป้องอัสสาด สาเหตุสำคัญเป็นเรื่องผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ความมั่นคงของรัสเซียเอง

เพราะไม่ว่าจะต้องทุ่มทุนและเสี่ยงอย่างไร ปูตินก็จะต้องปกปักรักษาท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวของรัสเซีย ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างสุดชีวิต... และการปกป้องอัสสาดคือการช่วยให้มอสโกรักษาจุดยุทธศาสตร์อันสำคัญนั้น

คำถามใหญ่สำหรับโอบามาก็คือต้องเลือกระหว่างการเผชิญหน้ากับรัสเซีย หรือการยอมรับว่าอัสสาดอาจจะต้องอยู่ในอำนาจอีกนาน (แม้ว่าในช่วง 4 ปีของสงครามกลางเมืองในซีเรีย จะมีคนถูกฆ่าตายไปแล้วกว่า 240,000 คน)?

เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากอย่างยิ่งสำหรับโอบามา

และสำหรับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกความเสี่ยงของการเกิดสงครามระดับโลก กำลังเพิ่มดีกรีขึ้นมาอย่างน่ากลัว