เรียกเขาว่า 'อ๊อดบอมบ์'

เรียกเขาว่า 'อ๊อดบอมบ์'

เหมือนชื่อ “อ๊อด พยุงวงศ์” จะถูกส่งมาเป็นตัวละครปริศนา เพื่อเชื่อมโยง”เหตุระเบิดราชประสงค์”

 กับขบวนการฮาร์ดคอร์ ปี 2553

เนื่องจาก “อ๊อด” เคยเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 และถูกออกหมายจับคดีระเบิดไปป์บอมบ์ที่มีนบุรี ปี 2557 ซึ่งมีผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้คือ นวลอนงค์ อาณารัตน์,ธัญธิตา จิรอติชัย,กษิ ดิฐธนรัชต์, อัมพร ใจก้อน, สุชาติ ปากะวงศ์ ณอยุธยา และ อ๊อด พยุงวงศ์

กล่าวสำหรับ “อ๊อด” กับคดีระเบิดราชประสงค์นั้น ชื่อของอ๊อด มาโผล่นาทีสุดท้าย เมื่อตำรวจได้นำภาพถ่ายของอ๊อด ไปให้พยานในละแวกห้องพักย่านมีนบุรีดู และพบเห็นอ๊อดพูดคุยอยู่กับวรรณา สวนสัน และไมไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาในคดีระเบิดแยกราชประสงค์บ่อยครั้ง ที่หอพักไมมูน่า การ์เด้นโฮม

ข้อมูลจากกลุ่มผู้เข้าร่วมชุมนุมปี 2535 เล่าให้ฟังว่า “อ๊อด” มารู้จักกับ “กลุ่ม 3 จังหวัดชายแดนใต้” ที่ราชประสงค์ โดยกลุ่มดังกล่าวมีแกนนำ กษิ

“กษิ” เปิดตัวกับคนเสื้อแดงในระหว่างการชุมนุม ว่าเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่จากเมืองนราธิวาส และปลูกปาล์มน้ำมันและผลิตไบโอดีเซล นอกจากนี้ กษิยังคุยอวดว่า ค้าขายปุ๋ยยูเรีย และขยายกิจการไปทำธุรกิจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน

ว่ากันว่า เบื้องลึกธุรกิจของกษิ เกี่ยวข้องกับ “ธุรกิจสีเทา” ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะธุรกิจค้ามนุษย์ และกษี มีภรรยาเป็นมุสลิมใต้ถึง 2 คน

เมื่อ “กษิ” อวดความร่ำรวยถึงขั้นอ้างมีความสัมพันธ์กับผู้นำประเทศลิเบีย ถึงขนาดส่งจดหมายไปขอเงินมากถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้ “คนจรจัด” เร่เข้ามาสังกัดกลุ่มกษิ ด้วยหวังที่จะพึ่งใบบุญเงินทองของเขา

ย้อนไปดูการชุมนุมใหญ่ที่ราชประสงค์ พ.ศ.โน้น มีการจัดซุ้มอยู่เป็นกลุ่มๆ คล้ายเทศกาลงานดนตรี ที่มีการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน ซุ้มใครซุ้มมัน และไม่จำเป็นต้องขึ้นต่อแกนนำ นปช.ส่วนกลาง

กลุ่ม 3 จังหวัดภาคใต้ นำโดย กษิกลายเป็นแหล่งรวมคนไร้สังกัด อย่างเช่นอ๊อด พยุงศักดิ์ และสมัย วงศ์สุวรรณ์

ที่สำคัญ “ก๊วนกษิ” ยังเชื่อมกับ “ก๊วนดอนตูม” ของนายตำรวจใหญ่ และ “ก๊วนหนองแขม" ของกวีกบฏ โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า ฮาร์ดคอร์เหล่านี้ เดินแนวทางจัดตั้ง กองกำลัง และดำเนินกลยุทธ์ ใต้ดิน เป็นงานหลัก

หลังการสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ “ก๊วนฮาร์ดคอร์” ได้เคลื่อนไหวทางลับ ด้วยหวังจะล้างแค้นแทนเพื่อนผู้สูญเสียในสมรภูมิราชประสงค์

ต่อมา จึงเกิดเหตุระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น ปี 2553 อันเป็นผลมาจากความผิดพลาดในการต่อชนวนระเบิดของสมัย วงศ์สุวรรณ์ ที่เสียชีวิตไปพร้อมกับลูกระเบิดที่ตัวเองเป็นผู้จัดทำ

จากการสืบสวนของตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทำให้พบว่า “กษิ” คือผู้อยู่หลังม่านควันระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น

กลุ่มก๊วนระเบิดสมานเมตตาแมนชั่นและมีนบุรี กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อมีตัวละครอย่าง “อ๊อด” ที่มีหลักฐานพัวพันกับแก๊งระเบิดราชประสงค์

แน่นอน แกนนำ นปช. ย่อมดาหน้ากันออกปฏิเสธเรื่องของ “อ๊อด” ว่าไม่รู้ไม่เห็น และตัวอ๊อดเองก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับ นปช.

ไม่แปลกที่แกนนำแดงจะพูดทำนองนี้ เพราะพวกเขาไม่เคยยอมรับว่า มีกลุ่มฮาร์ดคอร์อยู่ในขบวนการเสื้อแดง จริงๆแล้ว แกนนำบนเวทีก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของทุกกลุ่ม แถมอาจระแวงบางกลุ่มเสียด้วยซ้ำไป

การรวมตัวเป็นเซลล์ย่อยๆ ในลักษณะนักรบโรนิน มีอยู่จริงในการชุมนุมปี 2553 โดยบางกลุ่มนั้นได้รวมตัวกันมาตั้งแต่การชุมนุมต้าน คมช.ปี 2550 ที่ท้องสนามหลวง

“ก๊วนสนามหลวง” รวมตัวฝึกอาวุธกันมานาน โดยไม่ยอมขึ้นต่อแกนนำหน้าจอหรือบนเวที เพราะคนพวกนี้มองว่า แกนนำพวกนั้นไม่ใช่นักสู้ตัวจริง หากแต่เป็นพวก “สู้ไป กราบไป”

หลังรัฐประหาร 2557 ก๊วนสนามหลวงหลายคนถูกจับกุมคุมขัง และบางส่วนเตลิดหนีไปอยู่ที่ฝั่งลาว

ขณะที่ “ก๊วนสามจังหวัด” ที่ถูกออกหมายจับในคดีสมานเมตตาแมนชั่น และมีนบุรี ยังไม่ถูกจับอีกหลายคน รวมถึงตัวกษิ ที่มีรายงานข่าวว่ายังทำธุรกิจกับเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ และอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน

จะว่าไปแล้ว อ๊อดก็แค่ปลายแถว แต่รอบนี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงยังสาวไม่ถึงตัวกษิ จึงฉวยจังหวะเปิดประเด็นการเมือง ทิ้งไว้เป็น ระเบิดที่รอการจุดชนวนครั้งใหม่