เป็นไปไม่ได้ที่ “ผู้นำที่ล้มเหลว” จะนำทีมไปสู่ความสำเร็จ!

เป็นไปไม่ได้ที่ “ผู้นำที่ล้มเหลว” จะนำทีมไปสู่ความสำเร็จ!

ในโลกและศาสตร์ของฟุตบอล ว่ากันว่า ถ้าอยู่ในสนามซ้อม แล้วทีมฝึกซ้อมกันได้ดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับ Coach หรือผู้ฝึกสอน80% และขึ้นอยู่กับทีม 20%

เหตุผลที่ความสำเร็จหรือความล้มเหลว ในระหว่างการฝึกซ้อม ขึ้นอยู่กับ Coach ถึง 80% เพราะ “มันเป็นการซ้อม /เป็นการฝึก” Coach จึงสามารถปรับแก้ทั้ง รายทีม รายบุคคล ได้ตลอดเวลา จะติวเข้มเป็นรายตัว จะปรับแต่งวิธีการฝึก ก็สามารถทำได้ทุกช่วงเวลา เพราะอยู่ในสนามซ้อม...

แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ทีมลงไปแข่งขัน แล้วแพ้หรือชนะ..ศาสตร์ของฟุตบอล ให้น้ำหนัก ความพ่ายแพ้หรือชนะ ที่ 50/50!

คืออยู่ที่ ผู้จัดการทีม / Coach 50% และอยู่ที่ทีมหรือนักฟุตบอล 50% เท่ากัน!

เหตุผลก็เพราะ ผู้จัดการทีม / Coach เป็นผู้วางแผนการเล่น เป็นผู้กำหนดแท็กติค เลือกตัวผู้เล่น ให้สอดคล้องกับแท็กติคที่วางไว้ ว่าจะเล่นแบบเน้นรุก หรือรับ หรือรับแล้วรอโต้กลับ กำหนดวางรูปแบบทีมได้หลากหลายรูปแบบ เช่น 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 เป็นต้น จึงให้น้ำหนักความล้มเหลวหรือความสำเร็จ อยู่ที่ Coach 50%

แต่อีก 50% อยู่ที่นักเตะ เพราะเมื่อถึงเวลาแข่งขันจริง ผู้จัดการ หรือ Coach นั่งอยู่ได้แค่ข้างสนาม (มีเวลาแก้เกม ปรับแผนในระหว่างพักครึ่ง 15 นาที กับเปลี่ยนตัวผู้เล่นในระหว่างเกมได้ แค่ 3 คน เท่านั้น) ที่เหลือขึ้นอยู่กับนักเตะหรือทีม 50% ที่อยู่ในสนาม ว่าเข้าใจแผนหรือไม่ มีความเข้าใจเกมหรือไม่ ฝีเท้าหรือทักษะดีพอหรือไม่ และจิตใจสู้ขนาดไหน!

แต่ในโลกของธุรกิจ การบริหารทีม การบริหารคน...ความล้มเหลวและความสำเร็จของทีม ขึ้นอยู่กับ ผู้นำทีม หรือ ผู้จัดการ (ที่ต้องสวมบทบาท Coach ให้เป็นในยุคปัจจุบัน) กี่ % และขึ้นอยู่กับทีมกี่ %...?

จะมีกี่ทฤษฎี กี่ตำราก็ตาม ที่อาจจะให้น้ำหนัก ผู้นำทีมและทีมงานมากหรือน้อย แล้วแต่มุมมองของตำรานั้นๆ...

แต่ในมุมมองของผม จากประสบการณ์ที่ Coach ให้ทั้งกับ ผู้นำ และทีมงานมากว่ายี่สิบปีจนถึงปัจจุบัน...ความสำเร็จ หรือ ความล้มเหลวของทีมงาน ในเรื่องของการบริหารทีมในโลกธุรกิจ...ผมให้น้ำหนัก ผู้นำทีม 90%ครับ!

ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยนะครับ! จะเห็นพ้องหรือเห็นต่าง ก็ไม่เป็นไร เพราะแต่ละท่านอาจมีมุมมองและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เหตุผลที่ผมให้น้ำหนัก ผู้นำทีม 90% และ ทีมงาน 10% ก็เพราะ..

1.ทีมงานที่ดูธรรมดาๆ ในตอนแรกๆ เมื่อมาอยู่ในทีมที่ผู้นำเก่ง และผ่านการ Coach การหล่อหลอม ส่วนมากมักจะกลายเป็นทีมงานที่มีศักยภาพ หรือบางคนก็โดดเด่นอย่างที่คาดไม่ถึง!

(สมปอง ทหารหนุ่มที่เพิ่งผ่านการรับใช้ชาติครบกำหนด มาสมัครเป็น Sales มาวันแรกๆ พูดก็ไม่เป็น ไม่เคยรู้เรื่องการขาย แต่มีความตั้งใจ ในเวลาไม่กี่เดือน สมปองคนนี้ก็กลายเป็น Top Sales ของบริษัท! นี่คือตัวอย่างจริงของอดีตลูกน้องผมเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว)

2. ทีมงานที่มีความสามารถ หรือดูโดดเด่นในช่วงแรกๆ แต่ก็ล้มเหลวในเวลาไม่นาน เมื่ออยู่ในทีมที่ผู้นำทีม ไร้ความสามารถ และปราศจากการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์!

3.ผู้นำทีม จะมีทีมงานที่มีศักยภาพได้ดียิ่งขึ้น ถ้ามีโอกาสคัดสรร คนที่จะมาเป็นทีมงานตั้งแต่ต้น

แต่ถึงแม้จะไม่มีโอกาสคัดสรรทีมงาน โดยต้องมาคุมทีมงานที่มีอยู่แล้วก็ตาม..ผู้นำทีมที่เก่ง จะรู้ว่า ใครบ้างที่เหมาะกับทีม..ใครบ้างควรได้รับโอกาส และใครบ้างที่เอาแต่สร้างปัญหาและไม่ควรให้อยู่ในทีมอีกต่อไป!

ลองสังเกตดูสิครับ พวกผู้นำทีม (ทุกระดับ ตั้งแต่หัวหน้างาน/ผู้จัดการ/ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงผู้นำองค์กร) ที่ล้มเหลว จะมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันโดยบังเอิญก็คือ...พอจะรู้ว่า ต้องการคนแบบใดมาอยู่ในทีม แต่หาไม่ได้และสร้างไม่เป็น!

ที่หนักไปกว่านั้นก็คือ รู้ทั้งรู้ว่า ใครเป็นตัวปัญหา ที่จะทำให้ทีมล้มเหลว งานล้มเหลว แต่ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไร โดยมีข้ออ้างว่า ให้โอกาส หรือไม่ก็เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ต้องปล่อยคนแบบนี้ให้สร้างปัญหาไปเรื่อยๆ คงจะเจริญหรอกนะครับ!

4.ไม่ว่าทีมงาน ก่อนที่จะมาอยู่กับผู้นำทีม จะไม่เก่งหรือเก่งมาตั้งแต่ต้น แต่คนที่จะเป็นผู้กำหนดทิศทาง จัดโครงสร้างทีม ปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้อง เสริมสร้างทักษะให้สอดคล้องกับบทบาท หน้าที่ของแต่ละคนและเป้าหมายของทีม..จะอยู่ที่ใคร ถ้าไม่ใช่ผู้นำทีมจริงมั้ยครับ?

ในส่วน 10% ที่ขึ้นอยู่กับทีมงาน ก็หมายถึง ในโลกแห่งความเป็นจริง ศักยภาพของทีมงานจะแตกต่างกัน นอกจากนั้น สภาวะจิตใจของทีมงานแต่ละคน ในแต่ละช่วงก็ยังแตกต่างกันอีก เช่น บางคนเคยมุ่งมั่น มีฝีมือแต่จู่ๆ ก็ช็อตไปดื้อๆ เพราะเจอปัญหาส่วนตัว ปัญหาครอบครัวจนทำให้จิตตก ถึงแม้ผู้นำทีมจะเก่ง จะพยายามCoach แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ผลทุกครั้ง

สรุปแล้ว..ในโลกของฟุตบอล ผู้นำทีมหรือ Coach หรือผู้จัดการทีม มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ทีมล้มเหลวซ้ำซาก(อย่างเช่น ทีมลิเวอร์พูล หรือ เป๋เสียรูปทรง ไร้แชมป์ อย่างเช่น แมนยูใน 2 ฤดูกาล ที่ผ่านมาที่ถึงแม้ฤดูกาลนี้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่เคยเป็น)

ส่วนในโลกของธุรกิจ และการบริหารทีมงาน....คนสำคัญที่สุด ที่เป็นทั้งสาเหตุ เป็นทั้งปัญหา และเป็นทั้งทางออก ไปสู่ความล้มเหลวแบบเดิมซ้ำๆ ซากๆ หรือออกไปสู่แนวทางใหม่ๆ ให้ประสบความสำเร็จ ก็คือ..

ผู้จัดการหรือผู้นำทีมนั่นแหละครับ ตัวดีเลยล่ะ!