เหยื่อสงครามที่ไม่รู้จักจบ

เหยื่อสงครามที่ไม่รู้จักจบ

ตุรกีเป็นประเทศหนึ่งในสหภาพยุโรป (อียู) ที่เป็นเป้าหมายของผู้อพยพลี้ภัยสงคราม

จากซีเรียมากที่สุดกว่า 1.18 ล้านคน ได้ตัดสินใจเผยแพร่คลิปเด็กชายชาวซีเรียวัย 3 ขวบ ที่นอนเสียชีวิตคว่ำหน้า ซึ่งถูกน้ำทะเลพัดมาเกยชายหาด และหน่วยกู้ชีพได้อุ้มเด็กชาย ที่มีน้ำหยดเป็นทางมาไว้หลังโขดหิน ออกเผยแพร่กับชาวโลก ได้รับรู้ความโหดร้ายของสงคราม ที่เป็นโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น โดยหวังว่า จะมีใครที่จะหยุดยั้งสงครามในซีเรีย แต่คำถามยังคงเกิดขึ้น และไม่มีคำตอบใดๆ ว่า สงครามซีเรียจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ท้ายที่สุดผู้ก่อเกิดสงครามส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ ได้ให้เหตุผลในการใช้ฝูงบินติดขีปนาวุธ เข้าโจมตีในซีเรียช่วงก่อนหน้านี้ว่า ต้องการยุติสงครามนั้น แต่ความจริงแล้วสงครามในซีเรีย ไม่เคยมีทีท่าว่าจะสงบลง ทั้งที่สงครามในซีเรียนั้นเกิดขึ้นมานานถึง 4 ปีแล้วนับตั้งแต่ปี 2011 โดยที่นับวันสันติภาพในซีเรียก็ดูจะห่างเหินออกไปทุกที คนในซีเรียอีก 7.6 ล้านคนยังคงติดกับดักสงคราม และในจำนวนนี้ ก็เป็นเด็กราวครึ่งหนึ่ง ซึ่งทางองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ประกาศล่าสุดว่า ผู้อพยพลี้ภัยสงครามทุกวันนี้ที่ต้องเสียชีวิต และสูญหายไปในปีหนึ่งมีถึง 2,700 คน

ท่ามกลางบรรยากาศคนทั่วโลก ที่ยังคงสะเทือนใจกับภาพของ “ไอลัน เคอร์ดี้” เด็กน้อยชายชาวซีเรียวัย 3 ขวบ ที่ต้องจบชีวิตลงพร้อมกับ “เรฮัน” ผู้เป็นแม่ และ “กาหลิบ” พี่ชายวัย 5 ขวบ เนื่องจากเรืออับปางในระหว่างการอพยพข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อไปแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าในยุโรป ส่วน“อับดุลลาห์” พ่อของเขาที่รอดชีวิตเพียงคนเดียว เล่าว่าคลื่นสูงมาก และกัปตันก็ตื่นตระหนกกระโดดน้ำหนี ทำให้เขาต้องควบคุมเรือลำเล็กๆ เพียงลำพัง ในที่สุดเรือก็พลิกคว่ำ ซึ่งเขาเล่าว่า ได้คว้าลูกๆ และภรรยาเอาไว้ แต่ก็พบว่า ทุกคนเสียชีวิตหมดแล้ว โดยที่ครอบครัวของ “อับดุลลาห์” นั้นเดินทางมาจากเมืองโคบานี ที่กลุ่มไอเอส พยายามจะยึดมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวของเขาต้องระหกระเหิน เพื่อเดินทางข้ามทวีป ซึ่งได้ใช้เงินที่ได้รับจากน้องชายในแคนาดา จ่ายให้กับนายหน้าราว 4,000 ดอลลาร์สำหรับพาเดินทางข้ามไปยังยุโรป แต่เงินไม่เพียงพอที่จะซื้อเสื้อชูชีพ ถึงแม้จะเป็นการเดินทางที่เสี่ยงสูง แต่ผู้อพยพจากซีเรีย ยังคงมุ่งหน้าสู่ประเทศยุโรปอื่นๆ ทั้งกรีซ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย และฮังการี รวมถึงพื้นที่ปลอดภัยกลุ่มประเทศทางเหนือของยุโรป

เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ หรือ UNHCR ได้ยืนยันว่า นี่คือ ตัวเลขของผู้ลี้ภัยซีเรียที่เกิดจากเหตุการณ์ความขัดแย้งมากที่สุดถึง 4,013,000 คน ซึ่งได้ลี้ภัยไปในตุรกี 1.8 ล้านคน เลบานอน 1.17 ล้านคน จอร์แดน 6.29 แสนคน อียิปต์ 1.32 แสนคน อิรัก 2.49 แสนคน และอีก 24,055 คนกระจายอยู่ในแอฟริกาเหนือ โดยนายอันโตนิโอ กุเตอร์เรส ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาควรเป็นประชากรที่สมควรได้รับความช่วยเหลือจากชาวโลก ตรงกันข้ามกลับต้องมีสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก และยากจนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการอพยพจากซีเรีย จึงถือเป็นการอพยพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงกว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยสงครามที่ดูเหมือนจะไม่มีจุดจบของซีเรียยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 5 ยังคงรุนแรงมากขึ้น รวมถึงจำนวนผู้ลี้ภัยที่มากขึ้นตามลำดับ คาดว่าผู้ลี้ภัยจนถึงปลายปีนี้จะมีราว 4.27 ล้านคน ในขณะที่งบประมาณเพื่อช่วยเหลือชาวซีเรียยังคงขาดแคลนและเป็นปัญหาที่กดดัน เนื่องจากในปีนี้ UNHCR มีความต้องการระดมเงินทุนจำนวน 5,500 ล้านดอลลาร์ แต่จนถึงครึ่งปีแรกกลับระดมทุนได้เพียงแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น

ผู้อพยพลี้ภัยซีเรียที่กำลังหลั่งไหลเข้าสู่ยุโรป อยู่ในช่วงการพิสูจน์สัจธรรมถึงหลักความมีมนุษยธรรมของยุโรป โดยเฉพาะโดยในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ที่จะมีการประชุม 28 ประเทศอียูจะแบ่งปันแบกรับภาระผู้อพยพได้ขนาดไหน ในเมื่อฮังการี ก็กำลังเริ่มสร้างกำแพงที่ถูกออกแบบมา เพื่อกีดกันผู้อพยพลี้ภัยที่พยายามจะหนีไปยังพื้นที่ปลอดภัย ท่ามกลางการเฝ้ามองของชาวโลกอย่างกังวลกับภาพที่สถานีรถไฟของฮังการีที่เกิดความวุ่นวาย โดยที่ผู้อพยพราว 200-300 คน ได้ขึ้นรถไฟ เพื่อข้ามพรมแดนไปยังออสเตรีย แต่ถูกตำรวจสกัดหยุดเดินรถไฟ โดยนำกลุ่มผู้อพยพชาวซีเรียไปยังค่ายผู้อพยพ แต่กลับมีเสียงตะโกนอันดังว่า พวกเขาต้องการไปยังเยอรมนีเป็นจุดหมาย ไม่ต้องการไปค่ายผู้อพยพ บางคนถึงกับทุบกระจกรถ ถือป้าย SOS พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ว่ามนุษยธรรมจะมีมากหรือน้อยแค่ไหนจากยุโรป ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งการอพยพลี้ภัยสงครามได้ หากว่าสันติภาพในซีเรียไม่เกิดขึ้นเป็นจริง เหยื่อของสงครามก็จะเกิดขึ้นต่อไปอย่างไม่รู้จักจบ