เซี่ยงไฮ้เขย่าโลก

เซี่ยงไฮ้เขย่าโลก

“...พฤหัสสิงห์เป็นเกณฑ์กับเสาร์พิจิก ทั้งคู่กำลังเข้ามุม 90 กัน พฤหัสคือดาวแห่งการเติบโต-ขยายตัว เสาร์คือดาวแห่งการจำกัด-ขาดแคลน

เมื่อทำมุมร้ายกัน พฤหัสจะแสดงอิทธิพลได้ไม่เต็มที่ ผลลัพธ์ที่ว่าดีมากจะไม่เกิดขึ้น แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ อิทธิพลดาวที่หักล้างกันเอง เกิดเป็นแรงกระเพื่อมหนัก กลายเป็นความผันผวน (Volatility) อย่างมาก...”

นี่คือส่วนหนึ่งของคำทำนาย “อยู่กับความผันผวน” เมื่อ 17 กรกฎา(http://bit.ly/1Jjk9Vo)

วันที่ 24 สิงหา 58 โลกเป็นพยานในเหตุการณ์ Black Monday อีกครั้ง เมื่อตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ดิ่งลงถึง 8.49% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งตามอย่างหนัก ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาด -1000 จุด ก่อนดีดขึ้นมาปิดที่ -588.4 จุด วันต่อมาตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ยังดิ่งลงต่ออีก 7.63% เกิดเป็น Panic ไปทั่วโลก เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?

ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เกิดขึ้นปลายทศวรรษ 1860 หุ้นตัวแรกซื้อขายกันมิถุนา 1866 ตลาดฯผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย เช่น วิกฤติการเมืองปลายราชวงศ์ชิง การก่อตั้งสาธารณรัฐจีน สงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามจีน-ญี่ปุ่น ฯลฯ จนปิดตัวเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนขึ้นครองอำนาจ และก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อ 1 ตุลา 1949

เมื่อการปฏิวัติวัฒนธรรมสิ้นสุด และเติ้ง เสี่ยวผิง ครองอำนาจ จีนเปิดประเทศและหันมาใช้กลไกตลาดในปี 1978 เศรษฐกิจประเทศเริ่มพัฒนา วันที่ 26 พฤศจิกา 1990 ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ถูกก่อตั้งอีกครั้ง และเปิดทำการวันที่ 19 ธันวา 90 ปัจจุบันตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก มีมูลค่าตลาด 5.5 ล้านล้านดอลลาร์ (พฤษภา 2015)

ดัชนีสำคัญคือ SSE Composite Index ซึ่งคำนวณจากหุ้นทุกตัว ทั้ง A shares และ B shares โดยกำหนดค่าฐาน (Base Value) ที่ 100 ในวันเปิดทำการ ดัชนีนี้เริ่มใช้วันที่ 15 กรกฎา 1991

หลังจากดัชนีทำ All-time High ที่ 6124.04 จุด เมื่อ 16 ตุลา 2007 มันก็ไหลลงจนต่ำสุดที่ (ประมาณ) 1700 เดือนพฤศจิกา 2008 สาเหตุคือวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐ ช่วงกลาง 2011-2014ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 2000-3000 จุด โดยมีจุดต่ำสุดที่ 2193 ปลายสิงหา 2014

พฤศจิกา 14 ดัชนีเริ่มพุ่งขึ้น และขึ้นไปสูงสุด (รอบ 5 ปี) ที่ 5178 จุดในกลางมิถุนา 15 จากนั้นหุ้นลงอย่างรวดเร็ว สิ้นมิถุนาดัชนีหลุด 4000 และลงไปต่ำสุดที่ 3500 จุดเมื่อ 8 กรกฎา ดัชนีเคลื่อนไหวต่อในกรอบ 3500-4000 จุด และหุ้นลงหนักๆ อีกครั้งตั้งแต่ 18 สิงหา จนดัชนีหลุด 3000 จุด

จีนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ ธนาคารกลางจีนลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 4.6% และลดอัตรากันสำรองของธนาคารพาณิชย์จาก 18.5 % เหลือ 18% ทั้งอัดฉีดเงินอีก 1.4 แสนล้านหยวน แต่ตลาดไม่ค่อยตอบสนอง จนเมื่อผู้ว่าการเฟด-นิวยอร์คกล่าวว่า โอกาสขึ้นดอกเบี้ยเดือนกันยาลดลง ตลาดหุ้นจึงสงบและดีดกลับ

ในมุมดวงเมืองจีน เราวิเคราะห์กันแล้วใน “เทียนจิน-หยวน” (อ่านที่ http://bit.ly/1JkgmXm) เสาร์พิจิกที่เริ่มเดินหน้าที่ 4 องศา 12 ลิปดา ทับทศมลัคน์สนิทและส่งกระแสเป็นเกณฑ์ 10 ไปยังเสาร์เดิมในภพ 8 (สิงห์) ซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจ-การเงิน (ของตน) ที่สัมพันธ์กับคู่ค้า-หุ้นส่วน การลงทุน กระแสเงินทุน ค่าเงิน ฯลฯ จีนไม่เพียงลดค่าเงินหยวน 3 วันซ้อน (11-13 สิงหา) แต่ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ้นด้วย

ครั้งนี้ลองวิเคราะห์จากมุมตลาดหุ้นจีนกันบ้าง เราเลือกตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ที่เป็นตลาดหลักของจีน โดยใช้วันกำเนิดที่ 15 กรกฎา 1991 อันเป็นวันเริ่มใช้ดัชนี SSE Composite ซึ่งสะท้อนภาพรุ่งเรือง-ตกต่ำของตลาดได้ชัดเจนตรงจุดกว่า และใช้เวลาเกิด 9:30 น. อันเป็นเวลาเปิดตลาด

ลัคนาอยู่ราศีสิงห์ ที่ 11 องศา 37 ลิปดา มีจันทร์-อังคาร-ศุกร์กุมลัคน์ พลูโตตุลย์ มฤตยู-เนปจูน-ราหูอยู่ธนู เสาร์มังกร อาทิตย์เมถุน พุธ-พฤหัสกรกฎ และทศมลัคน์ (MC) ที่ 9 องศา 37 ลิปดาในราศีพฤษภ

สิงห์คือราศีแห่งการเป็นตัวเอง สิงห์คือหัวใจ-ระบบโลหิต ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ถือเป็นกล่องดวงใจ-เส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจจีน ซึ่งไม่ยอมให้ใครเข้ามาครอบงำได้ง่ายๆ จุดที่น่าสังเกตคือ ราศีสิงห์เป็นภพที่ 8 ของดวงเมือง อันหมายถึงการลงทุน-กระแสลงทุน (จากหุ้นส่วน-คู่ค้า-ต่างชาติ)

ลัคน์สิงห์ อาทิตย์คือดาวเจ้าเรือนลัคน์ อาทิตย์อยู่เมถุน เมถุนคือราศีแห่งการซื้อมาขายไป (Trading) อาทิตย์อยู่ปลายราศี เกาะวรโคตมนวางค์ เข้มแข็งให้คุณยิ่ง อาทิตย์ยังหมายถึงเกียรติยศชื่อเสียง การยกย่องจากสาธารณะ ฯลฯ คุณสมบัตินี้ทำให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้โดดเด่น และกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค

แต่อาทิตย์อยู่ในข่ายหน้า 7 หลัง 7 วันของคราส กล่าวคือ ดัชนี SSE เริ่มใช้หลังจากสุริยคราส (สรรพคราส) วันที่ 12 กรกฎา เวลา 2:06 น. ที่ 25 องศา 15 ลิปดาในราศีเมถุน ดังนั้น เส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ ต้องใช้เวลาและผ่านความยากลำบาก

ดาวสำคัญคือศุกร์ ศุกร์หมายถึงการเงิน-ความสำเร็จทางโลกียะ ศุกร์เป็น “ศุกร์เพ็ญ” เพราะห่างอาทิตย์ถึง 40 องศา ศุกร์ยังเป็นดาวเจ้าเรือนทศมลัคน์อีก ศุกร์เมื่อกุมลัคน์สนิท จึงเข้มแข็งให้คุณมาก ถือเป็นดวงชะตาที่รุ่งเรืองเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ

ศุกร์ยังกุมอังคารสนิท อังคารคือดาวเจ้าเรือนภพ 9 (ศุภะ) จึงเป็นดาวที่ให้คุณ การกุมกันของดาวคู่นี้ ยังเกิดเป็น “ราชาโยค” ที่ให้คุณสูงมากขึ้นไปอีก

ดวงนี้มีจุดอ่อนไหม ? มีหลายข้อ เช่น อาทิตย์อยู่ในข่ายคราส อาทิตย์เล็งราหูสนิท จันทร์-ดาวเจ้าเรือนภพ 12 (วินาศ) กุมลัคน์สนิท ฯลฯ แต่ที่ควรเพ่งเล็งเป็นพิเศษคือ (1) เสาร์มังกร (พักร์) ทำมุม 150 กับลัคน์-จันทร์สนิท (2) พุธที่กุมพฤหัสสนิทในภพ 12 จุดอ่อนทั้งหลายเกี่ยวข้องกับปัญหาอุปสรรคจากศัตรูลับที่จ้องทำลาย

ตั้งแต่กลางมิถุนา อาทิตย์ยกเข้าเมถุน เป็น Grand Cross กับอังคาร-ราหู-พลูโต-มฤตยู อาทิตย์คือดาวเจ้าเรือนลัคน์ อาทิตย์เมื่อไม่เข้มแข็ง ดัชนีก็อ่อนตัวลง ศุกร์-ดาวเจ้าเรือนทศมลัคน์จรในกรกฎ เป็นวินาศร่วมกับพฤหัสจร-ดาวเจ้าเรือนมรณะ สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย

จุดเปลี่ยนอยู่ที่อมาวสี (จันทร์ดับ) วันที่ 16 กรกฎา เวลา 8:25 น. ที่ 29 องศา 10 ลิปดาราศีเมถุน จุดอมาวสีทับอาทิตย์เดิมสนิทพอดี นี่คือสัญญาณอันตราย จากนั้นอาทิตย์ยกเข้ากรกฎ-เป็นวินาศ พฤหัสยกเข้าสิงห์-ทับลัคน์ จุดเปลี่ยนที่ 2 คือ ศุกร์วิกลคติพักร์ (หยุดนิ่งเพื่อถอยหลัง) ในวันที่ 25 กรกฎา จุดเปลี่ยนที่ 3 คือ เสาร์วิกลคติเสริด (หยุดนิ่งเพื่อเดินหน้า) วันที่ 2 สิงหา

กลางสิงหา อาทิตย์ยกเข้าสิงห์ เข้ากุมพฤหัสที่ทำมุม 90 กับเสาร์อยู่ วันที่ 27 สิงหา (+/- 3 วัน) อาทิตย์กุมพฤหัสสนิท เกิดเป็น “พฤหัสดับ” ทับศุกร์เดิม นี่คือจุดอันตรายที่สุด ตลาดฯผันผวนมาก ดัชนีแกว่งตัวขึ้นลงอย่างรุนแรง

ดาวศุกร์วิกลคติเสริด 6 กันยา เวลา 15:27 น. ที่ 20 องศา 19 ลิปดาในราศีกรกฎ ต้องรอถึงวันนั้นก่อน ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ถึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ  

 ------------------------


ชูศักดิ์ จงธนะพิพัฒน์

[email protected]