คลี่ปมระเบิด

คลี่ปมระเบิด

การจับกุมชายชาวต่างชาติ ถือพาสปอร์ตตุรกี ชื่อ “อาเด็ม คาราดัก” ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านหนองจอก

 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2558 คลี่ “ปม” สงสัยเหตุวางระเบิดศาลองค์ท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสะพานสาทร เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ไปเปลาะหนึ่ง

เจ้าหน้าที่นำชายคนนี้ ไปคุมตัวไว้ที่ มทบ.11 ต่อมาทราบชื่อจริง บิลา มูฮัมหมัด เขายอมเปิดปากสารภาพ ว่า หลบหนีเข้าประเทศไทย เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ทางด่านอรัญประเทศ ด้วยการจ่ายเงิน 18,000 บาท ให้ตม.สระแก้ว แลกไม่ตรวจพาสปอร์ต

“บิลา มูฮัมหมัด” ให้การเป็นประโยชน์ว่า ระเบิดที่พบในห้องพักเป็นของตัวเอง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับระเบิดศาลองค์เจ้ามหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสะพานสาทร แต่คำให้การนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อ ต้องวิเคราะห์สารประกอบระเบิด และลูกปราย ที่พบในห้องพักกับจุดเกิดระเบิดทั้ง 2 แห่ง ใกล้เคียงกัน

ขณะที่เขียนคอลัมน์ 11.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2558 เจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพา จับกุมตัวชายต้องสงสัย 1 ราย ที่ชายแดนบ้านไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กำลังจะหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อค้นตัวพบพาสปอร์ต ชื่อ “ยูซูฟู เมียไรลี” อายุ 26 ปี

“ปม” ระเบิดที่ราชประสงค์ และสาทร เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย บอกว่า ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง สร้างสถานการณ์ แต่ย้ำโดยตลอดว่า ไม่ใช่เรื่อง “ก่อการร้ายสากล”

จุดเชื่อมที่ขยาย “ปม” ระเบิด ได้อีกจุดคือพาสปอร์ตตุรกี 250 เล่ม ที่ค้นพบในห้องเช่าของ “บิลา มูฮัมหมัด” เป็นขบวนการ “นำพา” ชาวต่างชาติไปประเทศที่ 3

ชาวต่างชาติที่เป็นข่าวหลบหนีเข้าเมืองทั้งชายแดนสระแก้ว ระนอง เป็นชาวอุยกูร์ จากมณฑลซินเจียง ประเทศจีน

13 สิงหาคม 2557 สื่อต่างประเทศ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวตำรวจไทย เปิดเผยว่า พบผู้แสวงหาที่พักพิงหลายสิบครอบครัว ในระหว่างการบุกทลายค่ายขบวนการค้ามนุษย์ในจังหวัดสงขลา

ผู้อพยพกลุ่มนี้ต้องการใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่ 3 พวกเขาอ้างว่า เป็นชาวตุรกี ไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม อุยกูร์ ที่พูดภาษาเตอร์กิซ ที่อาศัยในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน

โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ มารี ฮาร์ฟ เรียกร้องรัฐบาลไทยผ่านสื่อมวลชน ขอให้ปกป้องเหยื่อ ให้รอดพ้นจากขบวนการค้ามนุษย์เหล่านี้ เพื่อให้พวกเขาได้รับความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอย่างเพียงพอ

รายงานประจำปี ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนฉบับล่าสุดของสหรัฐ ระบุว่า ชาวอุยกูร์ในซินเจียง ต้องการหลบหนีความเข้มงวด จำกัดสิทธิแสดงความคิดเห็น และเสรีภาพในการนับถือศาสนา

“ปม” ความเชื่อมโยงระเบิดกับพาสปอร์ตปลอม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยอมรับว่า เป็นเพียงการก่อเหตุที่มีชนวนเหตุมาจาก “ความโกรธแค้นส่วนตัว โกรธแค้นแทนพวกพ้องพี่น้อง”

นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่าบุคคลที่จับได้ มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบนำชาวอุยกูร์เข้าประเทศหรือไม่ ว่า “มีส่วน ซึ่งหมายความว่ามีส่วนเชื่อมโยงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภายในประเทศ หรือ เรื่องการลักลอบขนคนเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย”

แม้จะยังไม่ฟันธง ปมระเบิดแต่แนวสอบสวนนั้น มุ่งสู่ประเด็นเดียว คือ การล้างแค้นแทนพี่น้อง