ทำไมต้องใหญ่?

ทำไมต้องใหญ่?

การลงทุนพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ประเภท “ศูนย์การค้า” หรือ “ชอปปิงมอลล์” ในประเทศไทย

 นับวันยิ่งมีขนาดใหญ่เรียกว่าเป็นอภิมหาโปรเจก ระดับ “หมื่นล้าน” ขึ้นไป มีพื้นที่ขายหลักแสนตารางเมตร หรือตั้งแต่ 100,000-500,000 ตารางเมตร ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองเศรษฐกิจ ซึ่งในระยะ 10 ปีจากนี้ภาพจะปรากฎชัด!! คิดง่ายๆ ประเทศไทยจะมีศูนย์การค้าอย่างสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการอยู่ทุกมุมเมือง หรือย่านการค้าสำคัญในต่างจังหวัด

วงการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาฯ ประเทศไทย จัดอยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ทั้งรายเก่าและทุนใหม่ ประกาศการลงทุนโครงการใหม่ 5 ปีข้างหน้ามูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาท รองรับการเติบโตของตลาดค้าปลีกที่มองกันว่าดีมานด์ มากกว่า ซัพพลาย กล่าวคือ มีความต้องการพื้นที่จำนวนมากเพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจ ทั้งไทยแบรนด์และอินเตอร์แบรนด์ ซึ่งประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน คือเป้าหมายการลงทุนขยายธุรกิจทดแทนภูมิภาคยุโรปและสหรัฐที่ประสบวิกฤติเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง

ถนนทุกสายจึงมุ่งหน้าสู่ไทยและอาเซียน ท่ามกลางพลเมืองอาเซียนกว่า 600 ล้านคน ประเทศไทย มีประชากรมากกว่า 60 ล้านคน มีภูมิศาสตร์ศูนย์กลางแห่งอาเซียนท่ามกลางเพื่อนบ้านที่กำลังเปิดประเทศ แต่ไทยจะจุดกระแสดึงดูด นักลงทุน ดึงดูด สายตา ของผู้คนทั่วโลกหันมามองประเทศไทยได้อย่างไรคือโจทย์สำคัญ เป็นที่มาของความพร้อมใจปลุกปั้นโครงการ เมกะมอลล์ ต่างๆ

โครงการขนาดใหญ่เปรียบเสมือนการแจ้งเกิด แลนด์มาร์ก สร้างการรับรู้ต่อศักยภาพของพื้นที่การค้านำสู่การลงทุนในประเทศไทย เช่นเดียวกับมหานครทั่วโลกที่มีแลนด์มาร์กเป็นแม่เหล็กดึงดูดทั้งการลงทุน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ

แน่นอนว่าโครงการขนาดใหญ่ สามารถบรรจุสินค้าและบริการหลากหลายครบถ้วนในที่เดียว ผนวกกับไอเดีย คอนเซปต์ ที่ถูกรังสรรค์ให้เป็น หนึ่งเดียว ของประเทศ ของภูมิภาค หรืออาจถึงขั้น ของโลก ย่อมดึงดูดผู้คนได้มากกว่า ศูนย์การค้าขนาดเล็กที่มีอยู่ทั่วไปไม่มีความแตกต่าง ไม่มีพลังพอที่จะสร้างแรงกระเพื่อมทางธุรกิจและเศรษฐกิจได้

ในกรุงเทพฯ เวลานี้ มีย่านการค้าเป็นที่รับรู้และแข่งขันระดับภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นย่านสยาม ที่มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ตั้งเรียงราย ตั้งแต่สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน ครอบครองพื้นที่กว่า 700,000 ตารางเมตร ย่านราชประสงค์ ที่มี เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นแลนด์มาร์ก ด้วยพื้นที่ขนาด 500,000 ตารางเมตร ต่อเนื่องมาย่านเพลินจิต ที่มีเซ็นทรัล ชิดลม และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยาวถึงย่านพร้อมพงษ์ที่ถูกพัฒนาเป็นการย่านการค้า “ดิ เอ็มดิสทริค” ที่มี ดิ เอ็มโพเรี่ยม และดิ เอ็มควอเทียร์ อนาคตจะมีดิ เอ็มสเฟียร์ ย้ำความเป็นฮับชอปปิงของกรุงเทพฯ

อนาคตยังจะมีแลนด์มาร์กที่เป็น ชอปปิงและทัวริสต์ เดสทิเนชั่น เกิดขึ้นในหลายทำเลยุทธศาสตร์ ทั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเมืองท่องเที่ยว “ภูเก็ต” ที่ยักษ์ใหญ่ เซ็นทรัล และเดอะมอลล์ พร้อมใจลงทุนชอปปิงมอลล์ขนาดใหญ่ระดับไฮเอนด์ รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

โลกการค้าทุกวันนี้เปิดเสรีทั่วโลก การแข่งขันไม่จำกัดอยู่ในเฉพาะในประเทศ แต่เป็นการแข่งขันบน เวทีโลก ที่เราไม่สามารถอยู่อย่างเล็กๆ ได้อีกต่อไป

ประการสำคัญ ภาครัฐและเอกชนจะต่อยอด ความยิ่งใหญ่ เหล่านี้ สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับประเทศไทยอย่างไร คือ โจทย์ที่ยังต้องขบคิดกันต่อไป