มองเฟด..จากข้อมูลลับรั่ว

มองเฟด..จากข้อมูลลับรั่ว

สัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางสหรัฐได้กล่าวยอมรับโดยดุษฎีว่า ได้เผลอไปเปิดเผยข้อมูลการคาดการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจ

ของเจ้าหน้าที่วิจัยที่ทำงานให้กับคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ซึ่งโดยปกติแล้ว ข้อมูลเหล่านี้จะปกปิดเป็นความลับจนกระทั่งห้าปีผ่านไป

ความโชคร้ายของเฟดอยู่ตรงที่ช่วงเวลาที่รั่วออกมา ดันมาเกิดขึ้นในช่วงจังหวะเวลาที่เฟดบอกจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ แถมยังเพิ่งโดนสภาคองเกรสอัดมาว่า เฟดน่าจะรู้ข้อมูลต่างๆ ก่อนสาธารณชนอีกด้วย

ผมขอตีความจากข้อมูลรั่วของเฟด ดังนี้

หนึ่ง ข้อมูลที่ได้ออกมาเพิ่มเติมจากการที่เฟดทำข้อมูลรั่ว ทำให้เราทราบว่า เจ้าหน้าที่วิจัยของธนาคารกลางสหรัฐ มีมุมมองที่ออกจะกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่าคณะกรรมการเฟด ซึ่งความกังวลของเจ้าหน้าที่วิจัยเฟดมีมากในช่วงระยะเวลา 5-10 ปีข้างหน้า รูปที่ 1 แสดงการคาดการณ์ของอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร ที่เจ้าหน้าที่วิจัยเฟดยังเชื่อว่า จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าของคณะกรรมการเฟดคาดไว้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1-2 ปีนี้

สอง ด้วยความที่เจ้าหน้าที่วิจัยเฟดยังเชื่อว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐน่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำในช่วงนี้ จึงเป็นไปได้ว่า หากคณะกรรมการเฟดต้องการจะสอบถามความเห็นถึงการวิเคราะห์ผลกระทบจากวิกฤติในอนาคต ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ คำตอบที่น่าจะตอบกลับมาสู่คณะกรรมการเฟดคือ น่าจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปเป็นปีหน้า

สาม ความเสี่ยงจากความวุ่นวายในตลาดพันธบัตร ที่หลายท่านกังวลว่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยนั้น น่าจะเกิดขึ้นจริง ทว่า ไม่ทราบว่าจะรุนแรงมากเพียงใด เหตุผลคือความแตกต่างในความคิดเห็นระหว่างของตลาดและคณะกรรมการเฟดมีอยู่สูงมาก โดย ณ สิ้นปี 2017 ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐมองว่า อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารน่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.1 ตลาดพันธบัตรยังมองไว้ที่ร้อยละ 1.6 เท่านั้น หากตลาดเริ่มคล้อยตามมุมมองเฟดเมื่อไร ตลาดพันธบัตรสหรัฐ คงจะต้องมีแรงขายอย่างแรงในตอนนั้น ซึ่งจะส่งผลต่อสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ เป็นทอดๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ดี จากข่าวรั่วของเฟดข้างต้น ชี้ชัดว่าเจ้าหน้าที่วิจัยเฟดยังคล้อยตามมุมมองของตลาดมากกว่าของคณะกรรมการเฟดเอง จึงอาจจะพอโล่งใจได้ว่า ความเสี่ยงดังกล่าวมีอยู่ในระดับที่ไม่มากกว่าที่เราคิด ก่อนข่าวรั่วดังกล่าวจะปรากฎขึ้น และในหลายครั้งจากอดีตที่ผ่านมา ความเห็นของคณะกรรมการเฟด มักจะลู่เข้าหาของเจ้าหน้าที่เฟดในเวลาต่อมา เมื่อข้อมูลเศรษฐกิจจริงปรากฎขึ้น

สี่ หากพิจารณาจากสาเหตุที่ทำให้ความแตกต่างระหว่างคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่วิจัยของเฟด นักวิเคราะห์หลายท่านรวมถึงผู้เขียนมองว่า มาจากความเชื่อของทั้งสองฝ่ายต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจมหภาคที่แตกต่างกัน รูปที่ แสดงการคาดการณ์อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อที่เจ้าหน้าที่วิจัยมองในแง่ร้ายกว่าของคณะกรรมการเฟด โดยมองอัตราว่างงานไว้สูง และอัตราเงินเฟ้อไว้ต่ำกว่าของคณะกรรมการเฟด หากใช้กฎเกณฑ์ทางอัตราดอกเบี้ยแบบง่ายๆ จะพบว่า ความแตกต่างดังกล่าว สามารถอธิบายถึงความแตกต่างของการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ของทั้งคู่ได้ดีพอสมควร

ท้ายสุด หากพิจารณาว่าความแตกต่างของไส้ในของอัตราดอกเบี้ย ระหว่างธนาคารจากคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่วิจัยเฟด สามารถมองแยกได้เป็น 2 ส่วน โดยในปี 2017 ความแตกต่างของทั้งคู่ มาจากความเห็นที่ไม่ตรงกันของความเห็นทางเศรษฐกิจมากกว่า ส่วนในปีนี้ และ 2 ปีข้างหน้า มาจากความเห็นไม่ตรงกันของอัตราดอกเบี้ยในดุลยภาพมากกว่า ดังรูปที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นข่าวที่ไม่สู้ดีต่อความเป็นเอกภาพของมุมมองจากภายในธนาคารกลางสหรัฐเอง

โดยสรุป ข่าวรั่วของเฟดถือเป็นสัญญาณข่าวดี ที่ความเสี่ยงจากความวุ่นวายในตลาดพันธบัตร ซึ่งหลายท่านยังกังวลนั้น มีอยู่ในระดับที่ไม่มากกว่าที่เราคิด ก่อนข่าวรั่วดังกล่าวจะปรากฏขึ้น ทว่า เป็นข่าวร้ายในแง่ของความเห็นที่ไม่ตรงกันของอัตราดอกเบี้ย มาจากทั้งความเห็นทางเศรษฐกิจในปีนี้ และความเห็นไม่ตรงกันของอัตราดอกเบี้ยในดุลยภาพในอีก 2 ปีข้างหน้าครับ

หมายเหตุ หนังสือเล่มล่าสุดด้านการลงทุนด้วยข้อมูลเชิงมหภาคของผู้เขียน “เล่นหุ้นในไทย รวยไกลรอบโลก” วางจำหน่ายทั่วประเทศ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ที่ www.facebook.com/MacroViewและ LINE ID: MacroView ครับ