การป้องกันลิขสิทธิ คือหัวใจศก.ยุคใหม่

การป้องกันลิขสิทธิ คือหัวใจศก.ยุคใหม่

ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. 2558 พระราชบัญญัติพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) ปีพ.ศ. 2558

 จะมีผลบังคับใช้ โดยประเด็นสำคัญที่อาจส่งผลต่อประชาชน โดยเฉพาะในโลกของอินเทอร์เน็ต คือ หากส่งต่อหรือแชร์ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ เสียง หรือ วีดีโอ หากไม่ขออนุญาตผู้เป็นเจ้าของผลงานหรือไม่ให้เครดิตเจ้าของผลงาน มีโทษถึงจำคุก โดยเฉพาะการละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า ซึ่งนับเป็นการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในยุคโซเชียลมีเดีย

กฎหมายดังกล่าว แม้จะสร้างความกังวลต่อผู้ใช้งานในโลกอินเทอร์เน็ต แต่หากพิจารณาเนื้อหาสาระที่แท้จริงของกฎหมาย จะเห็นได้ว่าเป็นสิ่งที่สมควรมีบังคับใช้อย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการปกป้องผลงานของผู้สร้างสรรค์งานแล้ว ยังช่วยให้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งไม่นับรวมถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตามมา หากมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะย่อมเกิดการสร้างงานมหาศาล หากมีการนำผลงานต่างๆเหล่านี้ไปใช้เพื่อการค้า

ประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ถือว่าปัญหาใหญ่ของไทยมานาน โดยเฉพาะการละเมิดลิขสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา แต่ภายหลังจากมีกฎหมายบังคับใช้ ถือว่าปัญหาเบาบางลง แม้ไม่สามารถแก้ได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถทำให้สังคมโลกเกิดความสบายใจขึ้นมาว่าประเทศไทยก็มีกฎหมายบังคับใช้ลงโทษผู้กระทำผิด และแม้จะมีกฎหมายบังคับใช้ รวมถึงการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในการปราบปราม แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังมีการละเมิดกันอยู่ทั่วไป

ความเสียหายที่เกิดจากการละเมิดลิขสิทธิืนั้นมีมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี แต่การแก้ปัญหาถือว่าเป็นเรื่องยากอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแค่ประเทศไทยเท่านั้นที่ประสบกับปัญหาการปราบปราม เพราะขณะนี้ทั่วโลกก็พยายามตามแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา แต่หากพิจารณากันถึงที่สุดแล้ว การละเมิดลิขสิทธิ์ มีความหมายมากกว่าเพียงแค่การละเมิดผลงาน แต่เป็นเรื่องของโอกาสทางสังคมและระบบเศรษฐกิจโดยรวม

อย่างกรณีการดำเนินคดีผู้ต้องหาสำคัญของการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของโลกรายหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทางการสหรัฐฯได้ฟ้องร้องดำเนินคดีและระบุสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินทางปัญญาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ นำหนังสือ เพลงและภาพยนตร์ ลงบนเว็บไซต์ แล้วปล่อยให้มีการดาวน์โหลดได้ฟรี ซึ่งประเด็นการต่อสู้ของผู้ต้องหารายนี้คือทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้เป็นของมนุษยชาติโดยรวม ดังนั้นต้องไม่มีการผูกขาดหรือทำเพื่อการค้าเกินควร

ดังนั้น การโต้แย้งระหว่างผู้เป็นเจ้าของผลงานกับผู้ที่ต้องการใช้ได้อย่างอิสรเสรี คงเกิดขึ้นต่อไปและยังหาข้อยุติไม่ได้ แต่เมื่อมีกฎหมายมาบังคับใช้ เราก็เชื่อว่าปัญหานี้น่าจะคลี่คลายลง โดยเฉพาะในยุคโซเชียลมีเดีย ที่มีการคัดลอกและส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว แต่ประเด็นสำคัญของหน่วยงานรัฐผู้ดูแลกฎหมาย น่าจะทำการชี้แจงให้เกิดความเข้าใจกับประชาชนให้มากที่สุดถึงผลดีและผลเสีย เพราะประเด็นข้อกฎหมายถือเป็นเรื่องใหญ่ในสังคมไทยที่ประชาชนไม่เข้าใจมากนัก

เราเห็นว่ามีความจำเป็นในการออกกฎหมายในลักษณะเดียวกันนี้ แม้จะมีข้อโต้แย้งในเรื่องของสิทธิต่างๆเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ แต่เราเห็นว่าหากเราต้องการให้เกิดการสร้างสรรค์เกิดขึ้นในสังคม จำเป็นอย่างยิ่งเราต้องคุ้มครองผลงานเหล่านี้ ยิ่งเราใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากเท่าไร เราก็เชื่อว่าน่าจะเอื้อให้เกิดการสร้างสรรค์ของคนไทยมากขึ้นในกิจกรรมต่างๆ และจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศในระยะยาวได้