Uber สะท้อนธุรกิจในยุคดิจิทัล

Uber สะท้อนธุรกิจในยุคดิจิทัล

สถานการณ์ใหม่ มักทำให้เราได้มุมมองใหม่ ที่สามารถต่อยอดเป็นข้อคิดใหม่

สถานการณ์ใหม่ มักทำให้เราได้มุมมองใหม่ ที่สามารถต่อยอดเป็นข้อคิดใหม่ แม้ในบางครั้ง จะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด แต่ความพยายามของมนุษย์ ในการแก้ไขสถานการณ์ เป็นพลังสร้างสรรค์อันทรงอานุภาพ

"ลืมไอโฟนบนแท็กซี่"

แม้ข้อมูลบนไอโฟน จะเป็นข้อมูลดิจิทัล ที่ถูกเก็บสำรองไว้ในไอคลาวด์ อยู่บนดาต้าเซ็นเตอร์ ที่มีการกระจายความเสี่ยงอยู่ทั่วโลกและทำให้สามารถโหลดลงมาในไอโฟนเครื่องใหม่ จนใช้งานได้เสมือนกับเป็นเครื่องเดิม โดยเสียเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

แต่สิ่งที่ต้องทำให้ฉุกคิด คือไอโฟนเครื่องเดิมนั้น ไม่มีวันที่จะได้กลับคืนมาอีก เนื่องจากไม่ได้จดจำป้ายทะเบียนรถแท็กซี่และคนขับแท็กซี่ผู้นั้น ได้ปิดไอโฟนเครื่องที่ลืมเอาไว้ ได้อย่างรวดเร็วเสมือนกับมีเจตนา

เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ทำให้ต้องลองของใหม่ นั่นคือการทดลองใช้ Uber บริการรถโดยสารด้วยแอพบนไอโฟนและแอนดรอยด์

Uber เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ ในสหรัฐที่สร้างมูลค่าได้ถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ โดยใช้เวลาเพียง 7 ปี และจะมีรายได้ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ Uber มีให้บริการอยู่ใน 58 ประเทศทั่วโลกและมีทุนเริ่มต้นเพียง 200,000 ดอลล่าร์

แนวคิดของ Uber คือ ใครก็ได้ สามารถสมัครเป็นผู้ให้บริการรถโดยสารพร้อมคนขับ (คนขับ Uber) และลูกค้าสามารถใช้แอพของ Uber ในการค้นพบและทำธุรกรรมกับคนขับ Uber โดยพฤตินัย คนขับ Uber จึงให้บริการที่คล้ายคนขับแท็กซี่ เพียงแต่อาจไม่สามารถเรียกว่าแท็กซี่ได้ เพราะไม่ได้รับใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากประเทศไทยจะมีบริการแท็กซี่ในยุคดิจิทัลอีโคโนมี ก็คงมีรูปแบบที่ประยุกต์มาจาก Uber

ความโดดเด่นของ Uber โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เคยลืมของบนรถแท็กซี่ คือการบันทึกประวัติการเดินทางทั้งหมด รวมทั้งวิธีติดต่อคนขับ Uber ชนิดที่ว่าผู้โดยสารไม่ต้องจดจำเอง  การบันทึกข้อมูลย้อนหลังอย่างอัตโนมัติ เพื่อประโยชน์แห่งการตรวจสอบ เป็นคุณลักษณะหนึ่งของธุรกิจในยุคดิจิทัล

แต่สิ่งที่โดดเด่นยิ่งกว่า คือการโหวตให้คะแนนคนขับ ซึ่งผู้โดยสารสามารถหลีกเลี่ยงคนขับ Uber ที่มีคะแนนต่ำ แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการให้คะแนนผู้โดยสาร ซึ่งคนขับ Uber สามารถหลีกเลี่ยงผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม การให้คะแนนซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์แห่งการกำกับดูแลกันเอง เป็นอีกคุณลักษณะของธุรกิจในยุคดิจิทัล

ปัจจุบันมีคนขับ Uber กว่า 2 แสนคนทั่วโลก และกว่าครึ่งหนึ่งไม่เคยประกอบอาชีพเป็นคนขับรถโดยสารมากก่อน ความนิยมของ Uber ย่อมมาพร้อมกับการต่อต้าน โดยคนขับแท็กซี่และรัฐบาลของประเทศต่างๆ ที่เป็นห่วงความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร โดยอ้างเหตุว่า คนขับ Uber ไม่ได้ผ่านการรับใบอนุญาตจากภาครัฐเช่นเดียวกับคนขับแท็กซี่

เป็นบทพิสูจน์ ที่ต้องติดตามต่อไปของการตรวจสอบได้และการกำกับดูแลกันเอง ที่เป็นคุณลักษณะที่สำคัญในยุคดิจิทัลว่าจะสร้างความปลอดภัยและคุณภาพของบริการให้กับผู้โดยสาร ได้ยิ่งกว่าการกำกับดูแลโดยภาครัฐหรือไม่

กรณีพิพาทของ Uber ได้สะท้อนถึงบทบาทของการกำกับดูแลในยุคดิจิทัลว่าอะไร คือวัตถุประสงค์หลักที่จะต้องมากำกับดูแล รูปแบบเดิมที่เคยปฏิบัติกันมานมนานอย่างเช่นแท็กซี่ ต้องมีการปฏิรูปให้สอดคลองกับยุคดิจิทัลหรือไม่ หรือจะเอาผิดทางกฎหมายแต่อย่างเดียว กับผู้ที่มีแนวคิดที่ดีกว่า ทันสมัยกว่า และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า

แม้วันนี้จะมี Uber ที่เป็นข่าวหน้าหนึ่ง แต่ที่ผ่านมาทุกๆ ไม่กี่ปี ด้วยวิวัฒนาการของธุรกิจในยุคดิจิทัลมีแนวคิดใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และพร้อมจะท้าทายการกำกับดูแลของภาครัฐอยู่เสมอ

นอกจากนี้ ยังมีการเอาผิดทางกฎหมายแรงงาน ที่ Uber อาจต้องยอมรับคนขับ Uber กว่า 2 แสนคนทั่วโลก เป็นพนักงานและต้องมีสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ข้อพิพาทนี้อาจถูกกำหนดเป็นบรรทัดฐานของธุรกิจในยุคดิจิทัลต่อไป โดยอาจเป็นเหตุให้ต้องรับผู้ที่ให้บริการผ่านระบบเป็นพนักงานบริษัททั้งหมด

ความสำเร็จในระยะยาวของ Uber ยังเป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์​ แต่ก็กรณีของ Uber เป็นหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนถึงมุมมองของธุรกิจในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะคุณลักษณะของธุรกิจในยุคดิจิทัลหรือการที่ต้องท้าทายการกำกับดูแล รวมถึงการที่ต้องกระทบกระทั่งกับอุตสาหกรรมเก่าและห่วงโซ่อุปทานที่เคยมีมา

การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน แม้กระทั่งผู้เขียน ก็ต้องลืมไอโฟนบนแท็กซี่ ถึงจะได้ทดลองใช้ Uber

------------------------

อธิป อัศวานันท์

[email protected]

http://drjoke.com