Bill Cosby ไม่ได้ “เสียคนเมื่อแก่”

Bill Cosby ไม่ได้ “เสียคนเมื่อแก่”

สามคดีของการเสียชีวิตในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นคดีเจ้าพ่อถูกสังหาร และยังจับคนลงมือไม่ได้

เพราะดูจะมีเจ้าภาพที่มีความเป็นไปได้หลายรายมาก คดีอุบัติเหตุรถยนต์ที่น่าสงสัย เพราะโยงสู่การโอนหุ้นให้พริตตี้-แคดดี้ท้อง ตลอดจนการฆ่าตัวตายของผู้ใหญ่มียศศักดิ์สูงอายุ ทำให้คิดว่าโลกเรามีอะไรที่ข้างหน้าข้างหลังไม่ตรงกันอยู่มากพอควร และเมื่อได้อ่านข่าวดาราตลกอเมริกันBill Cosby ข่มขืนหลายครั้ง โดยใช้ยานอนหลับช่วย แล้วยิ่งเห็นประเด็นนี้มากขึ้น

ชื่อ Bill Cosby ทำให้นึกถึงนักร้องเก่าแก่ชื่อคล้ายกันคือ Bing Crosby (ผู้ร้องเพลง White Christmas อันแสนคลาสสิก) เชื่อว่าพ่อแม่ Bill Cosby น่าจะจงใจตั้งชื่อลูกคนนี้เลียนแบบนักร้องชื่อดัง

ผู้ใหญ่หลายคนคงจำ Bill Cosby ได้ เขาเป็น Afro-American หน้าตาดี มีภาพพจน์ของความเป็นผู้ใหญ่ ที่เต็มไปด้วยศีลธรรม ปัญญา รักเด็ก ตลก ขบขัน เขาดังมากจากภาพยนตร์โทรทัศน์ในยุคทศวรรษ 60 เรื่อง I Spy และในยุคทศวรรษ 70-80-90 ก็มีภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ เช่น The Electric Company / Fat Albert and the Cosby Kids / The Cosby Show ฯลฯ

Cosby ดังมากจนเป็นผู้โฆษณาสินค้า Jell-o / Coca-Cola / Kodak / Texas Instruments ฯลฯ เขาเป็นฮีโร่ของเด็กจำนวนมากจากรายการโทรทัศน์เด็ก ผู้ใหญ่พ่อแม่ชอบเขาในความสุภาพ อารมณ์ขัน ความมีเหตุมีผล ความมีจริยธรรม ฯลฯ อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มีข่าวเกี่ยวกับเขาไปในทางลบมากมาย หญิงจำนวนมากออกมากล่าวหาว่า ถูกเขาข่มขืนโดยใช้ยานอนหลับเป็นเครื่องมือ

Cosby ปัจจุบันอายุ 78 ปี ถือได้ว่าเป็นนักแสดงที่มีการศึกษาดีที่สุดคนหนึ่ง เขาเรียนจบปริญญาเอกด้านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง University of Massachusetts, Amherst ในปี 1976 ผู้คนสงสัยว่า มันเป็นไปได้อย่างไรที่คนมีชื่อเสียงดี ภาพพจน์ดี การศึกษาดี อย่างเขา จะกระทำสิ่งเหล่านี้กับผู้หญิงถึงกว่า 40 คน ระหว่างปี 1965-2008

จุดเริ่มต้นของเขาคือการเป็นนักแสดงด้วยการเป็น “โชว์เดี่ยว” ยืนพูดเรื่องขำขันในคลับต่างๆ ทั่วประเทศ จนเริ่มดังเมื่อได้รับเชิญให้ออกรายการ The Tonight Show ของ Johnny Carson ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากยาวนานหลายทศวรรษในปี 1963 จากนั้นก็เล่นภาพยนตร์หลายเรื่อง เป็นตัวเอกในรายการและภาพยนตร์โทรทัศน์จำนวนมาก

จุดพลิกผันของการเปิดเผยสิ่งชั่วร้ายที่เขาได้ทำไว้เกิดขึ้นในปี 2014 นักแสดงตลกชื่อ Hannibal Buress วิจารณ์ Cosby บนเวทีในเรื่องการชอบสั่งสอนเด็กผิวดำว่า ควรแต่งตัวและชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร และแถมอีกว่า “โธ่เอ๋ย ไอ้พวกชอบข่มขืนผู้หญิง”

ปรากฏว่าคำพูดนี้กระจายไปทั่วอเมริกาด้วย social media ผลที่เกิดขึ้นก็คือสื่อต่างๆ พากันติดตามข้อกล่าวหานี้ ซึ่งได้ยินกันมานานแล้ว ยิ่งสาวไปลึกก็ยิ่งมัดตัวเขายิ่งขึ้น สื่อไปพบหลักฐานคำให้การในคดีกล่าวหาว่า Cosby ข่มขืนของ Andrea Constand’s ในปี 2005 คดีนี้ได้ยอมความชดใช้เงินทองกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่พบก็คือคำให้การของ Cosby ในคดีนี้ ซึ่งยอมรับกับศาลว่า เขาใช้ยานอนหลับ Quaaludes (ซึ่งตอนนั้นหาซื้อกันได้ตามร้านขายยาอย่างถูกกฎหมาย) กับผู้หญิงที่เขาอยากมีเพศสัมพันธ์ด้วย และยอมรับว่าใช้กับหญิงหลายคน ในตอนแรกศาลสั่งให้เก็บคำให้การนี้เป็นความลับ แต่ต่อมายอมปล่อยคำให้การนี้ออกมา

กลางเดือนกรกฎาคม 2015 หนังสือพิมพ์ New York Times ได้นำคำให้การทั้งหมดมาตีพิมพ์เพราะถือว่าเป็นข้อมูลสาธารณะ ผู้คนทั่วโลกอ่านกันแล้วแทบช็อก เพราะมันให้ภาพที่ตรงข้ามกับภาพลักษณ์ของ Cosby ที่มีมาเกือบตลอดชีวิต เขาใช้ยานอนหลับชนิดนี้กับสาวจำนวนมาก ต่างกรรมต่างวาระกันตลอดเวลากว่า 20 ปีจนเป็นนิสัย (นิสัยที่มีอยู่ลึกๆ เขาเรียกว่าสันดาน)

อย่างไรก็ดี หญิงสาวเกือบทั้งหมดไม่สามารถฟ้องร้องได้ เพราะคดีหมดอายุความไปแล้ว มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ฟ้องร้องเอาเรื่อง กระนั้นก็ดี มีหญิงสาวหลายคนออกมากล่าวหา ด่าว่าเขาอย่างเสียหาย โดยกล่าวตรงกันเรื่องวิธีการของเขาในการใช้ยานอนหลับ

Bill Cosby ในวัย 78 ปี โดนสังคมเล่นงานหนักตั้งแต่ประธานาธิบดีโอบามา ที่ตอบคำถามว่าจะมีการถอดถอนรางวัล Medal of Freedom ซึ่ง Cosby ได้รับเมื่อตอนปี 2002 หรือไม่ เขาตอบว่าไม่มีกลไกที่จะถอดและไม่เคยถอดมาก่อน ไม่อยากแสดงความเห็นเฉพาะราย แต่ว่าถ้าคนๆ หนึ่งใช้ยากับหญิงโดยเขาไม่รู้ตัว และมีเพศสัมพันธ์ด้วย อย่างนี้เรียกว่าข่มขืน สังคมอารยะไม่ควรทนกับการกระทำเช่นนี้

Cosby สูญเสียงานโดยถูกตัดหมด ไม่ว่าจะเป็นสัญญาในเรื่องใด พูดสั้นๆ ได้ว่า ถูกสังคมรังเกียจในหลากหลายรูปแบบ มีหลายคำถามที่เกิดขึ้น เช่น ภรรยาของเขาคนเดียวที่แต่งงานกันมากว่า 50 ปีกับลูก 5 คนรู้สึกอย่างไร? และที่สำคัญเขากระทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?

คนไทยมีคำพูดว่า “ผู้ใหญ่หลายคนมักเสียคนเมื่อแก่” ซึ่งจากการสังเกตดู ก็พอมีหลักฐานยืนยัน แต่คนที่ “เสียคน” ตั้งแต่หนุ่มจนแก่นั้นน่าแปลกใจ คนเราตอนหนุ่มอาจทำอะไรที่ไม่ดีไปบ้าง หากปรับใจปรับตัวเปลี่ยนชีวิตก็พอรับได้ แต่คนที่ไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองเลย โดยเฉพาะในเรื่องที่เลวทรามนั้น เป็นเรื่องของการกระทำที่คงเส้นคงวาอย่างน่ารังเกียจยิ่ง

“เสียคนเมื่อแก่” ในบางกรณีนั้นความจริงก็คือมัน “เสีย” มานานแล้ว แต่แอบซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ แต่หางเพิ่งมาโผล่ให้คนเห็นตอนแก่ดังเช่นกรณีของ Cosby

คนจำนวนมากในโลกผิดหวัง และเสียใจที่หลงใหลภาพลักษณ์ “คนดี” ของ Bill Cosby มานานนับสิบๆ ปี บ้างก็ดีใจที่เห็นตัวจริงของเขาก่อนที่เขาจะตาย บ้างก็อยากฟังคำอธิบายของเขา เพราะเชื่อว่าทุกสิ่งมีคำอธิบาย (ไม่ได้แก้ตัว แต่มีคำอธิบาย) และบ้างก็ดีใจที่เรื่องนี้เตือนใจให้ระวังการรับภาพลักษณ์ สิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป หากเป็นสิ่งที่เขาต้องการให้เราเห็น

สิ่งที่ต้องระวังที่สุดก็คือ เรื่องการเห็นของมนุษย์ มนุษย์เชื่อตาตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด แต่ทว่าคนส่วนใหญ่เห็นอย่างที่ตนเองอยากเห็น หรือเห็นอย่างที่ตัวเองเชื่อว่าควรจะเห็น โดยมิได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงนั้นจริงๆ