“มนัส” ในยุทธจักรวัวชน

“ด่วนที่สุด..ขณะนี้การประสานระหว่างผมกับน้อย หนองยวน ผู้การแป้น พล.ท.มนัส คงแป้น ได้เป็นที่ตกลงกันแล้วว่าสนามเสาธง จะทำการถ่ายทอดสดตั้งแต่นัดวันที่ 7-8 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป”

คำว่า “สนามเสาธง” นั้นหมายถึงสนามชนโคบ้านเสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสนามชนโคที่ใหญ่ที่สุดในนครศรีธรรมราช โดยมีนัดสำคัญที่จะถ่ายทอดสดทางเคเบิลทีวีช่อง 222 แพล็ตฟอร์ม(จานส้ม)ไอพีเอ็ม

“เสาธง” เป็นตำบลเล็กๆ ของ อ.ร่อนพิบูลย์ เป็นถิ่นอารยธรรมเก่า มีสนามชนโค และมีการเลี้ยงโคกันเกือบทุกบ้าน สมกับคำขวัญที่ว่า “เสาธงถิ่นอารยะเก่า มะนาวเราผลใหญ่ คลองน้ำใสทรายก่อสร้าง ดุกย่างอร่อยแสน ดินแดนแหล่งโคบาล”

ที่สำคัญ ผู้บริหารสนามชนโคเสาธง มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับ “ผู้การแป้น” พล.ท.มนัส คงแป้น

0000

“วัวชน มรดกบรรพชน ตำนานคนใต้” ถ้อยวลีที่คุ้นหูของนักเลงวัวชน ซึ่งในวันนี้ ชนโคหรือวัวชน ได้กลายธุรกิจกีฬาพื้นบ้านครบวงจร เพราะมันเกี่ยวพันตั้งแต่คนเลี้ยงวัวในหมู่บ้าน จนไปถึง “นักเลงวัวชน” ทุกชนชั้นในสนามชนโคมาตรฐาน

กีฬาชนโคกับ “ผู้มากบารมี” เป็นของคู่กัน ยกตัวอย่างสนามกีฬาชนโคนานาชาติรัตภูมิ จ.สงขลา ที่บริหารโดย “นายกชาย” เดชอิชม์ ขาวทอง อดีตนายก อบจ.สงขลา

ในวันเปิดสนามชนโคเมื่อปีที่แล้ว จองชัย เที่ยงธรรม พร้อมด้วย บุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรี ยังบินตรงไปร่วมงาน และมินับคนการเมืองแดนใต้อย่าง นิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา, ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พร้อมนักการเมืองท้องถิ่นคับคั่ง

กีฬาชนโคกับ “เกมเดิมพัน” ก็เป็นของคู่กันอย่างปฏิเสธไม่ได้ แม้คนวงในจะอธิบายว่า การชนโคไม่อยากให้มองแค่เรื่องการทรมานสัตว์หรือการพนัน แต่มันเป็นกีฬาภูมิปัญญาที่สืบทอดมานานแล้ว แต่ก็ว่ากันไปตามนั้น เหมือนรู้อยู่แก่ใจด้วยกันทุกคน

จริงอยู่ วัวชนสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะมีเงินสะพัดในพื้นที่ ราคาวัวชนมีตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้าน รวมถึงร้านอาหาร สถานที่พักผ่อนในสนามชนโคมาตรฐาน แต่สิ่งที่ทำให้ยุทธจักรวัวชนเติบโตก็หนีไม่พ้นการเดิมพัน

ปัจจุบัน ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีได้เลือก “วัวชน” เป็นคอนเทนท์หลัก เป็นจุดขายของช่อง อาทิช่องฟาร์ม, ช่องปิ๊งทีวี และเคเบิลจานส้มไอพีเอ็ม

สนามชนโคแห่งใดมีการถ่ายทอดสด จึงเป็นเรื่องใหญ่ ดังกรณีสนามเสาธง ที่ได้บารมีอย่าง “ผู้การแป้น” ประสานงานกับผู้บริหารไอพีเอ็มให้ยกทีมมาถ่ายทอดในนัดดังกล่าว

สำหรับชื่อของ “ผู้การแป้น” จัดว่าเป็น “ขาใหญ่” ในยุทธจักรวัวชนภาคใต้ ด้วยภูมิลำเนาเดิมนั้นเกิดที่ ต.บางจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช จึงหลงใหลในกีฬาวัวชน

นอกเวลางาน “พล.ท.มนัส” จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับกีฬาวัวชน โดยมีฐานะเป็นผู้สนับสนุนค่ายวัวชนหลายแห่ง ซึ่งมีคนสนิทเป็นผู้ที่ดูแลกิจการให้ ทั้งที่อยู่ที่ใน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา

การซื้อวัวชนแต่ละตัวมาอยู่ในค่ายของ พล.ท.มนัส จะใช้วิธีการไปชมการแข่งขันวัวชนในแต่ละนัดและคัดเลือกวัวที่ตัวเองชื่นชอบ และพร้อมที่จะทุ่มเงินเพื่อให้มาอยู่ในความครอบครอง

ภาพที่เจนตาของนักเลงวัวชน ในวันที่มีการชนโคเดิมพันหลักล้านบาท ในกลุ่มที่นั่งของโซนวีไอพี ก็จะอัดแน่นไปด้วยนักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการระดับสูง และที่่ขาดไม่ได้คือ “ผู้การแป้น”

ยามใดที่ “ผู้การแป้น” ย่างกรายเข้าสู่สนามชนโค ก็จะรายล้อมไปด้วยทีมงานที่ดูแลความปลอดภัยและทีมให้คำปรึกษาเรื่องวัวชน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่คนทั่วไปจะเข้าถึง

ชั่วโมงนี้ “ผู้การแป้น” ต้องเผชิญบ่วงกรรมบ่วงคดี แต่ “วิถีแห่งนักเลงวัวชน” ก็ยังดำเนินต่อไป