บริหารแบบ “ทาส/บริวาร-ลูกน้อง-ทีมงาน”!

บริหารแบบ “ทาส/บริวาร-ลูกน้อง-ทีมงาน”!

ไม่ต้องแปลกใจกับ “ความทุ่มเท” และ “ผลงาน” ของพนักงานในหลายๆ ที่ ที่เจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารหน่วยงาน เห็นผลงานแล้ว “ปวดตับ”!

จะว่าไปในเรื่อง ความทุ่มเทในการทำงานและผลงานของพนักงานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย บ้างก็เกิดจากตัวพนักงานเอง

บ้างก็เกิดจากการที่ไม่ได้มีการบ่มเพาะ หล่อหลอม ฝึกสอน หรือปราศจากแรงจูงใจที่ชัดเจน ฯลฯ แต่จุดเริ่มต้นที่ถือว่าเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดอยู่ที่..

“เรามองคนของเรายังไง?” และ “เราบริหารคนของเราแบบไหน?”

หลายๆ ที่ มองและบริหารพนักงานแบบ “ทาส/บริวาร” ก็คือ จ่ายผลตอบแทนให้น้อยที่สุด และจ่ายให้ช้าที่สุด(ถ้าผ่อนจ่าย เงินเดือนพนักงานได้คงผ่อนจ่ายไปแล้ว!)

จ่ายน้อย จ่ายช้า ยังไม่สาแก่ใจ..จิกหัวใช้หามรุ่ง หามค่ำ แทบไม่มีวันหยุด หรือหยุดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เจ็บป่วยยังไงก็ต้องฝืนทำงาน เพราะงานเร่ง งานด่วนมีทุกวัน (เวลาจะเอางานเร่งจัง เวลาจะจ่ายผลตอบแทน ยืดแล้วยืดอีก)

ทุกอย่างต้องทำตามคำสั่ง ห้ามหือ ห้ามเถียง สั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ หมดสิทธิคิด ปราศจากสิทธิในการใช้สมอง...

เมื่อเราคิดและปฏิบัติกับคนของเราแบบ “ทาส/บริวาร” แบบนี้..แล้วยังจะคาดหวังถึง ความทุ่มเทและผลงานอีกหรือ? แค่มีพนักงาน “ทน” เป็น ทาส/บริวาร ให้เหลือจิกหัวใช้ก็ดีนักหนาแล้ว!

พนักงานที่ “หมดเคราะห์กรรม” ก็จะทยอยลาออกไปตายเอาดาบหน้า..พวกที่เหลือก็เล็งและรอที่ใหม่..ใครเล่าจะอยากเป็น ทาส/บริวาร ให้โขกสับ นี่มัน ค.ศ.2015 ไม่ใช่ยุคทาสแบบในอดีตแล้วนะครับ!

ในขณะที่ ยังมีองค์กรจำนวนไม่น้อย ที่ มองและบริหารพนักงานแบบ “ลูกน้อง”...

หลายๆ ท่านอาจสงสัย แล้วมันผิดตรงไหน?

อันที่จริงก็ไม่ผิดหรอกครับ ที่เรามองและบริหารคนแบบ “ลูกน้อง” ถ้า..เรารักและปรารถนาดีกับพนักงานแบบ “ลูก” และ “น้อง”..ดูแลเอาใจใส่ ให้ทั้งความรู้ ความก้าวหน้าอย่างเต็มที่

แต่ “ลูกน้อง” ในความหมายในทางปฏิบัติที่องค์กรส่วนมากบริหารทำ มักจะหมายถึง..

ก็แค่ลูกน้อง ที่กินเงินเดือนเท่านั้น ลูกน้องที่มักจะถูก องค์กร “ให้ความสำคัญแค่ลมปากหรูๆ” ลูกน้องที่มักจะถูกหัวหน้า ถูกผู้จัดการหรือผู้บริหาร ทำตัวเป็น “เจ้านาย” ปฏิบัติกับพนักงานแบบ “ไม่ค่อยแคร์ความรู้สึก” ถ้าไม่พอใจก็ออกไป

พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นคนอีกชนชั้น ที่ถูกบีบ ถูกจี้ให้สร้างผลงาน แต่ไม่ค่อยได้รับการดูแลเอาใจใส่ หรือไม่ได้ให้การสนับสนุนที่เพียงพอ เพราะ “ลูกน้องก็คือลูกน้องวันยังค่ำ” ถ้าเจ้านายไม่พอใจก็มีสิทธิ์ใส่อารมณ์ ข่มขู่ได้ตลอดเวลา!
ไม่ต้องแปลกใจ ในเมื่อเรามองและปฏิบัติแบบนี้ เราๆ ท่านๆ ก็เลยมักจะมีแต่ลูกน้องที่ไม่ได้ดังใจ..ลูกน้องที่ทำไปวันๆ ลูกน้องที่มีปัญหา ลูกน้องที่ไม่ค่อยมีผลงาน..เพราะท่านไม่ได้เป็นลูกพี่ แต่ทำตัวเป็นเจ้านายตลอดเวลาใครมันจะไปทุ่มเทให้?

ในขณะที่ มีบางหน่วยงาน บางองค์กร มีผู้นำที่เก่งในเรื่องคน จะมองและปฏิบัติกับพนักงานแบบ “ทีมงาน” ไม่ใช่ปฏิบัติแบบเจ้านายกับ “ลูกน้อง” และไม่เคยคิดว่ามี “ทาส/บริวาร” ให้คอยก้มหน้า ก้มตาทำตามคำสั่ง!
พนักงานที่ได้รับการปฏิบัติแบบ “ทีมงาน”..“ทุกคนทุกตำแหน่งจะได้รับการให้เกียรติจากผู้บริหาร/ผู้นำทีม” ไม่ได้มีการแบ่งชั้นวรรณะว่าใครตำแหน่งสูงกว่าใคร..เพราะถ้ามีตำแหน่งมาขวางกั้นก็จะไม่มีวันหลอมให้เป็นทีมเดียวกันได้ ทุกคนรับรู้ว่ามีผู้นำทีม แต่รับรู้ด้วยความนับถือในตัวผู้นำไม่ใช่ที่ตำแหน่ง!

พนักงานที่ได้รับการปฏิบัติแบบ “ทีมงาน”..“ทุกคนจะได้รับการฝึกฝน หล่อหลอมและสร้างคุณค่าร่วมในเป้าหมายเดียวกัน” มีค่านิยมที่ไม่ใช่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แต่ทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมและเน้นเรื่อง ความเข้าใจซึ่งกันและกัน การให้เกียรติกันในทีม

พนักงานที่ได้รับการปฏิบัติแบบ “ทีมงาน”..“ทุกคนจะได้รับผลตอบแทน”ตามผลงานของทีม“ ทั้งในรูปแบบตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน” แต่เป้าหมายหลัก ไม่ได้ทำเพื่อเงิน เพราะทุกคนทุ่มเททำเพราะได้รับการปฏิบัติ การดูแลเอาใจใส่ที่ดีจากผู้นำทีม/ผู้บริหาร...

ทีนี้...ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหาร/ผู้จัดการ/ผู้นำทีมทุกระดับ ที่ท่านต้องเลือกแล้วล่ะครับว่า...ที่ผ่านมาและในวันพรุ่งนี้ ท่านมองและปฏิบัติกับคนของท่านแบบ..ทาส/บริวาร หรือแบบลูกน้องธรรมดาๆ หรือแบบ
ทีมงาน!

ท่านมองและปฏิบัติกับคนของท่านแบบใด ท่านก็จะได้คนและผลงานแบบนั้น!