สัญญาณจากเว็บบอร์ด

สัญญาณจากเว็บบอร์ด

ในยุคที่คนจำนวนมากต่างก็เฝ้าหน้าจอและสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตกันวันละหลายชั่วโมง เว็บบอร์ดยอดนิยมเกี่ยวกับหุ้นคือห้องสินธรในเว็บพันธ์ทิพ

จึงเป็นที่ที่อารมณ์ ความรู้สึก ความรู้ ความเข้าใจ และความสนใจของคนเกี่ยวกับหุ้นถูกแสดงออกผ่านกระทู้และการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หมดยุคของการพูดคุยตามงานปาร์ตี้หรือการคุยกับช่างตัดผมหรือคนขับแท็กซี่เพื่อตรวจสอบจิตวิทยาของคนเกี่ยวกับตลาดหุ้นอย่างที่ปีเตอร์ ลินช์ เคยพูดไว้ในหนังสือของเขา เดี๋ยวนี้ถ้าอยากรู้หรือติดตามสถานการณ์ของสังคมในวงกว้างต่าง ๆ เกี่ยวกับหุ้น เราก็เข้าไปดูกระทู้และสิ่งที่เขาคุยกันในเว็บไซต์เกี่ยวกับหุ้นที่มีมากมาย


เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมได้พบกระทู้หนึ่งในเว็บสินธรที่น่าสนใจจึงอยากนำมาวิเคราะห์ดูว่ามัน “ส่งสัญญาณ” อะไรเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นในช่วงนี้ แต่ก็ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้ตั้งใจที่จะดูแคลนคนที่ตั้งหรือตอบกระทู้ในทุก ๆ ด้าน ผมเพียงแต่ต้องการอธิบายข้อเท็จจริงและให้ข้อสังเกตว่าตอนนี้คนทั่ว ๆ ไป นักลงทุนมือใหม่ หรือคนที่ไม่เชี่ยวชาญคิดอย่างไรเกี่ยวกับหุ้นและนั่นเป็น “สัญญาณ” อะไรที่เราจะต้องวิเคราะห์ให้ออกและนำมาใช้ในการพิจารณาเรื่องการลงทุนของเรา หัวข้อกระทู้ก็คือ “สอบถามเรื่องการลงทุน” และต่อไปนี้คือ สิ่งที่มีการโพสต์ในกระทู้และข้อสังเกตของผม


“สวัสดีครับพี่ ๆ นี้เป็นกระทู้แรกของผมครับ ยังไงแนะนำด้วยครับ ขอเล่ารายละเอียดครับ ตัวผมอายุ 27 ครับ อาชีพเชฟ อยู่ร้านอาหารเล็ก ๆ ในกรุงเทพฯ เงินเดือนพอเลี้ยงครอบครัวได้ 22,000 ผมมีแผนการไว้ในอนาคตคือ อีก 5-7 ปีข้างหน้า จะเลิกทำอาชีพนี้และจะกลับไปอยู่กับภรรยาที่ศรีสะเกษ แต่ก็กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะตามมาในอนาคต เพราะคิดจะสร้างครอบครัวมีลูก 2-3 คน เลยสนใจอยากเล่นหุ้น ขอแค่สามารถสร้างรายได้ต่อเดือน 40,000-50,000 ต่อเดือน ผมต้องทำอย่างไรบ้าง ต้องมีเงินลงทุนเท่าไร ควรเริ่มต้นอย่างไรหรือมีที่ไหนที่สามารถสอนผมหรือแนะนำผมได้บ้าง ถ้าเป็นไปได้สอนผมแบบลงมือทำไปด้วยกัน จะดีมากเลยครับ


อาจจะเป็นคำถามของหลาย ๆ ท่านทำไมต้องเล่นหุ้นละ ทำค้าขายก็ได้นี่ คือที่ผมไปสำรวจที่ศรีสะเกษ ไม่มีแหล่งสร้างรายได้ที่จะได้ตามเป้าที่ผมต้องการ และเราจะไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวถ้าทำค้าขาย เพราะต้องวิ่งหาตลาดตลอดเวลา ร้านของชำก็ไม่มีคนซื้อของเหมือนในกรุงเทพ นี้คือเหตุผลของผมครับ (ผมเองไม่ใช่คนฉลาดมากครับ แต่อยากสร้างครอบครัวที่ไม่ต้องวิ่งหาเงินไปตลอดจนไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว) ยังไงรบกวนพี่ ๆ ด้วยนะครับ แนะนำน้องคนนี้หน่อยครับ”


ความคิดเห็นที่ 1 “สามารถสร้างรายได้ต่อเดือน 40,000-50,000 ต่อเดือน” “เอ่อ ต้องใช้ทุนกี่ล้านอ่ะคะ”


จขกท. “ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไรอ่ะครับ อยากรู้เช่นกัน ก่อนจะได้ขนาดนั้นต้องเริ่มยังไง ผมเองคงไม่มีทุนขนาดนั้น เริ่มจากเล็ก ๆ ไปหาใหญ่ ตามเป้าในอนาคต 40,000-50,000 ต่อเดือน ต้องทำยังไง เริ่มลงจากอะไรก่อนดี เพราะเท่าที่เคยได้ยินข้อมูลมา บางท่านเริ่มลงทุนจากแค่ 50,000 บาท ไปจนปัจจุบันมีรายได้มากกว่าปีละ 10,000,000 บาท ผมเองไม่มีโอกาสได้เจอคนที่เขาทำแบบนี้ได้ เลยมาถามจากพี่ ๆ นะครับ”


ความคิดเห็นที่ 2 “ต้องดูว่ามีเงินทุนอยู่ในมือเท่าไร ถ้ามีซัก 9-10 ล้าน ซื้อกองทุนหุ้นปันผลทิ้งไว้ไม่ต้องเฝ้าพอร์ตมาก ไม่เครียด เฉลี่ยปันผลปีละ 7-8% ก็พอได้ปีละ 6-7 แสนอยู่ (แต่บางปีไม่ปันผลก็มี) ทุน 5-6 ล้าน ลงทุนในหุ้นรายตัวที่พื้นฐานดี ๆ ซื้อมาขายไประหว่างปีบ้าง กำไรตามตลาดซัก 10% ก็น่าจะพอหวังได้อยู่แต่ต้องศึกษาดี ๆ ทุนต่ำกว่า 5 ล้าน อาจจะต้องมาเล่นหุ้นสายเทคนิค เข้าเร็ว ออกเร็วอาจจะมีโอกาสได้ แต่ก็มีโอกาสเสียมากเหมือนกัน.. แบบนี้อาจจะเครียดหน่อย”


ความคิดเห็นที่ 3 “มันยากอยู่นะครับ 40,000-50,000 ต่อเดือน ทุนต้องหนาหน่อย ที่สำคัญสามารถต้องถึงด้วย ถ้าทุนพี่ 100,000 ทำกำไรได้เดือนละ 40,000-50,000 ก็เท่ากับกำไรประมาณ 50% (มันยากอยู่นะครับ) ทำกำไรได้ 15-20% ต่อเดือนทุกเดือนก็เก่งแล้วครับ พี่ลองซื้อหนังสือหุ้นสายเทคนิคมาศึกษาดูครับ มีความรู้ให้เราเยอะเลย”


ความคิดเห็นที่ 4 “ถ้าต้องการ 50,000 บาทต่อเดือน = 600,000 บาท/ปี ถ้าลงทุนแบบไม่ต้อง active มาก หวังจากเงินปันผลเป็นหลัก คิดเฉลี่ยคร่าว ๆ = 5% ต่อปี ก็ควรมีเงินต้น 12 ล้านบาทครับ ทั้งนี้คุณต้องมีความรู้ในการลงทุนระดับหนึ่งครับที่จะสามารถบริหารเงินต้นนี้ให้ได้ผลตามเป้าและไม่เสี่ยงเกินไป โดยสรุป คุณเริ่มต้นคิดมาถูกทางแล้ว ต่อจากนี้ก็อยู่ที่การใฝ่หาความรู้เร่งเก็บเงินเพื่อ “การลงทุนเพื่อชีวิต” ครับ โชคดีครับผม”


ความคิดเห็นที่ 5 “ถ้าตั้งคำถามแบบนี้ ยังไม่ต้องรีบครับ ทำงานเก็บเงินไปก่อน ผมคำนวณให้คร่าว ๆ ก่อน ห้าหมื่นบาทต่อเดือนก็ปีละ 6 แสน ถ้าเล่นแบบซื้อหุ้นปันผล หาหุ้นที่ปันผลปีละ 5% (หักภาษีแล้ว) คุณต้องมีต้นทุนเท่ากับ 600,000/.05 = 12 ล้านบาทครับ ส่วนที่บอกว่าบางท่านเริ่มลงทุนจากแค่ 50,000 บาท ไปจนปัจจุบันมีรายได้มากกว่าปีละ 10,000,000 บาท อาจจะมีจริงแต่เป็นแค่ 1 ในล้านหรือหลายล้าน แต่คนที่มีเงินเป็นล้านเหลือแค่หลักแสนหรือหลักหมื่นนั้นมีเยอะกว่ามากมายเพียงแต่ไม่ได้มาเล่าให้ใครฟังครับ การตั้งคำถามแบบนี้เหมือนถามว่าล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ขายอยู่แผงไหนครับ ผมจะไปซื้อ ประมาณนั้นครับ”


จขกท. “555 จากคำตอบพวกพี่ผม ผมนี้น้ำตาไหลเลย แต่ชีวิตมันต้องมีทางออก เท่าที่พูดมา ถ้าผมต้นทุนน้อย ควรเริ่มต้นจากการเล่นหุ้นด้านเทคนิคก่อน ค่อยไปด้านการลงทุนที่ให้ผลตอบแทน 5% (หักภาษีแล้ว) แบบไม่ต้องเฝ้า ขอบคุณครับ อย่างน้อยทำให้ผมเห็นทางที่จะวิ่งต่อ ตอนแรกมืดสนิท งั้นผมควรซื้อหนังสืออันไหนมาศึกษาดีครับ”


ความคิดเห็นที่ 6 “ทำงานแบ่งเงินมาลงทุนในหุ้นปันผลไปเรื่อย ๆ จนมีเงินลงทุน 15 ล้านบาท แค่นี้เอง ไม่ยาก ๆ”


ข้อสังเกตของผมจากกระทู้นี้ก็คือ หนึ่ง ช่วงนี้หุ้นคงเป็น “ฟองสบู่” อยู่บ้าง เพราะคนที่มีอาชีพเป็นเชฟและไม่ได้มีเงินมากสนใจลงทุนในหุ้นและมองว่าหุ้นเป็นอะไรที่มหัศจรรย์ที่อาจจะสามารถทำให้เราร่ำรวยได้โดยไม่ต้องทำอะไรเหนื่อยยากโดยที่เราอาจจะไม่ต้องมีเงินลงทุนมาก สอง อาจจะมีคนไม่น้อยที่คิดว่าเราสามารถทำผลตอบแทนจากหุ้นได้เดือนละ 15-20% ถ้าเราเก่งพอสมควรในด้านการซื้อขายหุ้นแบบเทคนิคแต่ถ้าเก่งมากก็อาจจะได้เดือนละ 50% นี่ก็เป็นสัญญาณฟองสบู่เหมือนกัน สาม น่าจะมีความเชื่ออย่างแพร่หลายว่า ช่วงที่มีเงินน้อย ๆ และต้องเร่งสร้างพอร์ตนั้น จะต้องเล่นแบบเทคนิค หลังจากมีเงินมากแล้วค่อยลงทุนแบบกินปันผลแบบสบาย ๆ ไม่เครียด และสุดท้ายก็คือ “นิยาย” ของเซียนหุ้นที่ร่ำรวย “จากหมื่นเป็นร้อยล้าน” จากหุ้นภายในไม่กี่ปีนั้น สามารถสร้างฝันให้กับนักลงทุนเสมอ และก็เช่นเดียวกัน นิยายแบบนี้มักแพร่หลายในช่วงฟองสบู่หุ้น