ยากก้าวพ้น “ทักษิณ”

 อยากให้ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ง่าย

ความจริง พล.อ.ประยุทธ์ ขอร้องทุกครั้ง ที่มีกระแสข่าวร้อนเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ให้คนไทยก้าวให้พ้น

กรณีมีเพจ “หยุดดัดจริตประเทศไทย” ก็เช่นเดียวกัน หลังจากมีผู้เผยแพร่คลิป พ.ต.ท.ทักษิณ พูดถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ความยาว 1.32 นาที โดยมีการพาดพิงถึงองคมนตรีสั่งทหารปฏิวัติ เหมือนกันตั้งแต่สมัยตัวเอง มาจนกระทั่งสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เรื่ององคมนตรี สั่งให้ปฏิวัติ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาปฏิเสธว่า ทำเอง ไม่มีใครสั่ง “ผมทำเองเพราะเห็นว่าประเทศชาติและประชาชนมีอันตรายอย่างร้ายแรงจึงตัดสินใจทำ... ผมยอมรับว่าผมทำผิด แต่ถามว่าถ้าหากผมปล่อยวันนั้นไป มันจะมีวันนี้ไหม บ้านเมืองอาจจะล่มสลายไปแล้วก็ได้ บ้านเมืองจะไปกันอย่างไร”

แต่สิ่งที่น่าวิเคราะห์ ก็คือ ทำไมจึงยากก้าวพ้น “ทักษิณ”?

ปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อย่างที่คนไทยรับรู้กัน ว่าเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากนโยบาย “ประชานิยม” จนสามารถยึดกุมหัวใจ “คนรากหญ้า” เอาไว้ได้เกือบทั้งประเทศ ที่เหลืออาจเป็นภาคใต้และกรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ทักษิณ ก็มีปัญหาส่วนตัวที่ส่อว่า จะมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการบริหารประเทศ หลายเรื่อง ซึ่่งต้องย้อนกลับไปดูกรณี คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ทำสำนวนเอาไว้ ทั้งที่ส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว และที่อยู่ในขั้นตอนเตรียมส่งฟ้อง รวมทั้งคดีที่ดินรัชดาฯ ที่ถูกศาลฯตัดสินจำคุก 2 ปี

ด้วยเหตุนี้ จึงนำมาสู่การเคลื่อนไหวของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการขับไล่ลงจากอำนาจ กระทั่งถูกรัฐประหาร และหลบหนีอยู่ต่างประเทศจนวันนี้

มาถึงรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ปัญหาที่สำคัญก็คือ ความพยายามที่จะใช้อำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งรัฐบาลมี ส.ส.ข้างมาก ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แบบเหมาเข่ง หรือ สุดซอย ที่ถ้าทำสำเร็จ จะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ หลุดพ้นจากคดีทั้งหลายไปด้วย จนถูกต่อต้านจาก กปปส. หรือ “มวลมหาประชาชน” นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หรือ “พระสุเทพ” จนกลายเป็นเหตุการณ์รุนแรง และถูกยึดอำนาจ โดยพล.อ.ประยุทธ์ และคณะนายทหารระดับสูงของเหล่าทัพ

ประเด็นอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างมาตลอดว่า “ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง” รวมทั้งฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึง “ยิ่งลักษณ์” ก็เชื่อเช่นนั้น ดังนั้น “ปม” ที่ไม่สะเด็ดน้ำก็คือ คดีและโทษของพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกขยายความว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งยังถูกนำไปขยายผลได้ในต่างประเทศด้วย ยิ่งกว่านั้น ตราบใดที่ไม่สามารถนำพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเข้ากระบวนการยุติธรรมได้ ตราบนั้นก็ยากจะ “ปิดปาก” พ.ต.ท.ทักษิณ และยุติขบวนการปั่นกระแส “โลกล้อมประเทศไทย” ได้

ที่สำคัญ สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังรวบรัดอธิบายว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็เหมือนกับรัฐบาลสมัยตัวเอง คือ มีคนไม่ต้องการให้มีอำนาจ ที่สามารถทำงานช่วยเหลือประชาชนได้เป็นอย่างดี โดยไม่มีการพูดถึงความผิดพลาดในการทำงานการเมือง ความผิดพลาดในการบริหารประเทศ จนถูกดำเนินคดีทั้งในทางการเมือง และอาญา อย่างคดีอันเนื่องมาจาก โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งในที่สุุด ก็จะอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง และผูกปมขยายผลกันต่อไป โดยเฉพาะกับฝ่ายที่สนับสนุนตัวเอง

ทั้งหลายทั้งปวงจึงยากก้าวข้าม “ทักษิณ” ต่อให้อยากก้าวข้ามแค่ไหนก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ อาจห้ามสื่อกระแสหลักในการเผยแพร่เรื่อง “ทักษิณ” ได้ แต่จะห้ามคนในฝ่าย “ทักษิณ” และสื่อในโลกออนไลน์ได้อย่างไร???

ส่วนการจะใช้อำนาจเด็ดขาด ในการจัดการกับปัญหาให้ “สะเด็ดน้ำ” ก็ไม่ได้อีก เพราะยิ่งใช้อำนาจมากก็ยิ่งเข้าทางฝ่ายที่จ้องกล่าวหาเป็น “เผด็จการ” อยู่แล้ว

ที่เห็นและเป็นอยู่ อย่าว่าแต่ “ยากก้าวข้าม” เลย แค่ห้ามไม่ให้มีข่าวความเคลื่อนไหวก็ยากแล้ว!!!