รีรอจนถึงวินาทีสุดท้ายถึงลงมือทำ

รีรอจนถึงวินาทีสุดท้ายถึงลงมือทำ

สำหรับบางคน วันหยุดยาวมักอยู่คู่กับการผัดวันประกันพรุ่งในการงานที่จะต้องทำ

บางคนทำเหมือนกับว่านานๆ บ้านนี้เมืองนี้จะมีวันหยุดยาวให้ทำอะไรตามใจได้บ้างเลยเป็นข้ออ้างสำหรับเก็บการงานไว้ค่อยทำหลังวันหยุด แต่สุดท้ายก็กลายเป็นการรีรอจนใกล้ถึงวินาทีสุดท้าย แล้วค่อยลงมือทำงานนั้น ซึ่งถ้าไม่กลายเป็นผลงานคุณภาพย่ำแย่ คนทำนั่นแหละที่จะย่ำแย่เพราะต้องเร่งรัดทุ่มเททำงานในเวลาที่แสนจะจำกัด ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่างานที่รีรอจนถึงวินาทีสุดท้ายนั้นส่วนใหญ่จะเป็นงานที่สร้างความหวาดกลัวอย่างใดอย่างหนึ่งให้กับคนที่ต้องทำงานนั้น รีรอเพราะกลัวว่าฝีมือตนเองจะไม่พอที่จะทำงาน รีรอเพราะกลัวว่าวางแผนการทำงานมาดีไม่พอ หรือยังวางแผนการทำงานไม่เสร็จ กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเรารีรอเพราะเรากลัวความยากของงานนั้น

เราลดการรีรอที่จะสะสางจัดการงานใดงานหนึ่งให้เสร็จสิ้นลงไปได้ หากเรากลัวงานนั้นน้อยลง วันหยุดจะไม่เป็นข้ออ้างที่จะรีรอที่จะลงมือทำงานได้อีกต่อไป ถ้าเราไม่กลัวงานนั้น คนที่กลัวการทำฟันมักฉวยโอกาสทุกอย่างมาเป็นข้ออ้างในการเลื่อนนัดการทำฟัน ถ้าวันหนึ่งไปทำฟันแล้วรู้สึกไม่น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ เริ่มกลัวการทำฟันน้อยลงไปบ้าง นัดทำฟันครั้งต่อไปก็ไม่มีการรีรอเหมือนครั้งก่อน อย่าฝืนใจลงมือทำงานที่เรายังหวาดกลัว เพราะความกลัวที่คงอยู่นั้นจะช่วยหาสารพัดเหตุผลมาสนับสนุนการรีรอที่จะทำงานนั้น ถ้ากลัวการเขียนรายงาน เราก็จะง่วงนอนทุกครั้งที่จะเริ่มลงมือเขียนรายงานนั้น และจะยอมงีบหลับก่อนเขียนโดยอ้างว่าจะเขียนได้ดีกว่าหลังจากที่ได้นอนหลับไปบ้าง 

ดังนั้น หากต้องการลดการรีรอที่จะทำการงานเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ให้พยายามหาให้เจอให้ได้ว่าเรากลัวอะไรที่เกี่ยวข้องกับงานนั้น ถ้ากลัวความยากของงาน หรือกลัวว่าฝีมือจะไม่พอที่จะทำงานนั้น ก็ให้แยกงานนั้นออกเป็นส่วนย่อยๆ พยายามแยกย่อยจนกระทั่งเราเริ่มไม่กลัวความยากของงานย่อยนั้น กลัวว่ากล่องจะหนักเกินไปที่จะย้ายไปไหนได้ ก็อย่ายกทั้งกล่อง ให้ยกของในกล่องทีละชิ้นสองชิ้นแทน การสลายความกลัวด้วยการแยกงานออกเป็นงานย่อยจะได้ผลดีต่อเมื่อมีการกำหนดเวลาที่งานย่อยแต่ละงานนั้นจะเสร็จสิ้นแยกจากกัน โดยไม่ใช้กำหนดการเดิมของงานใหญ่มาเป็นเป้าหมายเวลาทำงานของงานย่อยทุกงานรวมกัน จากการทดลองในการวิจัยเกี่ยวกับการผัดวันประกันพรุ่งงานหนึ่งบอกไว้ว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีการกำหนดเวลาที่ต้องทำงานให้เสร็จ แยกสำหรับงานย่อยแต่ละงาน สามารถทำงานเสร็จเร็วกว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีกำหนดเวลาที่ต้องทำงานให้เสร็จรวมกันสำหรับทุกงานย่อย และมีโอกาสทำงานสำเร็จมากว่าอีกด้วย

บางคนเมื่อรู้สึกกลัวงานใดงานหนึ่ง ก็จะใช้เวลากับการวางแผนอย่างเต็มที่ วางแผนละเอียดแทบทุกขั้นตอน การวางแผนจึงกลายเป็นสาเหตุที่ใช้อ้างกับตนเอง หรือคนรอบตัวในการที่จะไม่เริ่มลงมือทำงาน ยังทำไม่ได้เพราะฉันยังวางแผนไม่เสร็จ ถ้าพบว่ามีการวางแผนเกินความจำเป็นเกิดขึ้น ต้องบอกให้ตนเองตระหนักว่าการชะลองานไว้ทำเมื่อมีความพร้อม คือเมื่อแผนพร้อมนั้นแตกต่างจากการรีรอที่จะทำงานโดยใช้การวางแผนเป็นข้ออ้าง ลองถามตนเองว่าเรารู้จักงานนั้นดีพอแล้วหรือยัง เรารู้ขั้นตอนการทำงานครบถ้วนแล้วหรือไม่ จะพบว่าคนที่วางแผนโดยใช้เวลาเกินเลยไปจากที่ควรจะกระทำส่วนใหญ่จะรู้จักงานที่จะทำดีไม่พอ รู้จักไม่พอจึงกลัวงานนั้น พอกลัวงานนั้นเลยก้มหน้าก้มตาวางแผนเพื่อหลอกตนเองว่าจะทำงานนั้นเมื่อมีความพร้อม 

หากไม่อยากติดกับดักของการวางแผนเกินจำเป็นให้พยายามหาความรู้เกี่ยวกับงานนั้นเพิ่มเติมขึ้นทีละเล็กทีละน้อย สักพักหนึ่งก็จะรู้จักงานนั้นดีขึ้น ซึ่งวันใดที่รู้จักงานนั้นดีขึ้นถึงระดับหนึ่งแล้ว เวลาที่ใช้ในการวางแผนการทำงานจะลดลงจนไม่เป็นการรีรอที่จะเริ่มต้นลงมือทำงานอีกต่อไป รู้จักงานดีมากเท่าใด รีรอที่จะทำงานนั้นน้อยลงเท่านั้น

การรีรอที่จะทำงานลดลงได้หากจัดสภาพแวดล้อมการทำงานไม่ให้ส่งเสริมการรีรอ ซึ่งทำได้ง่ายที่สุดโดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมใดๆ ที่ทำให้มีการรีรอที่จะเริ่มต้นทำงาน ในพื้นที่ที่จะทำงานนั้น อย่าเสียเวลาอ่านหนังสือพิมพ์ในระหว่างที่เริ่มนั่งที่โต๊ะทำงาน พยายามยกเลิกทุกกิจกรรมที่ไม่ใช่การลงมือทำงานที่โต๊ะทำงาน นั่งโต๊ะเมื่อใดลงมือทำงานเท่านั้น นั่งโต๊ะทำงานเมื่อใดให้นึกไว้ว่างานใดจะเสร็จเมื่อใด กิจกรรมใดที่เบี่ยงเบนสมาธิของเราไปจากการทำงานนั้น ต้องไม่มีการกระทำที่โต๊ะทำงาน หากทำงานไปสักพักหนึ่งแล้วควรพักสักหน่อยหนึ่ง ถ้าเลือกได้ให้เลือกพักที่อื่น แทนที่จะเป็นโต๊ะทำงาน แต่ให้เลือกวิธีการพักที่ไม่ใช่กิจกรรมที่ต่อเนื่องได้ เช่นไม่พักด้วยการดูหนัง เพราะเรามีโอกาสที่จะใช้ความเพลิดเพลินจากการดูหนังมาเป็นข้ออ้างในการรีรอทำงานนั้นในรอบต่อไป

บางคนไม่ชอบหัวหน้า ไม่ชอบผู้บริหาร แล้วใช้ความไม่ชอบนั้นมาเป็นข้ออ้างในการรีรอที่จะเริ่มทำงาน ทำงานให้กับคนที่ไม่ชอบเมื่อใด เหน็ดเหนื่อยจนต้องพักเมื่อนั้น จะชอบหรือไม่ชอบผู้บริหารก็ตาม ให้บอกตนเองว่าผู้บริหารมาแล้วก็ไป แต่ไม่ว่าใครจะเป็นผู้บริหาร หน้าที่ของเราคือทำงานให้ได้ผลดี โดยวิธีที่ถูกต้องเหมือนกันหมด