อยู่ถูกที่ถูกใจ ไปได้ไกลแน่นอน

อยู่ถูกที่ถูกใจ ไปได้ไกลแน่นอน

บทบาทของผู้นำในการหลอมรวมคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกันถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับสังคมการทำงานยุคปัจจุบันที่มีความแตกต่างระหว่างวัยมากขึ้น

และอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันและมีบริบทที่ต่างไปจากที่เราคุ้นเคยนั่นคือการเลือกคนให้เหมาะกับงาน หรือที่เราพูดกันติดปากว่า Put the right man on the right job ที่แต่ไหนแต่ไรก็เน้นเพียงการจัดวางคนในตำแหน่งที่เหมาะสมกับความรู้ความเชี่ยวชาญของเขาก็ถือเป็นอันจบเรื่อง


แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถหลายด้าน การจับเขาให้ทำงานในแผนกที่ตรงกับคุณวุฒิที่จบมาอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะการดูเพียงสาขาวิชาที่เขาเคยเรียน หรือประสบการณ์ว่าเคยทำงานอะไรมาก่อนอาจไม่ได้บ่งบอกถึงความรู้ความเชี่ยวชาญที่อยู่ในตัวเขาเลยก็เป็นได้


เพราะคนรุ่นใหม่เหล่านี้แม้จะมีความรู้ในด้านใดด้านหนึ่งแต่หากเป้าหมายในชีวิตเขาเป็นอีกด้านหนึ่ง และเขาสามารถเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้ตัวเองได้เพราะใจรัก เราก็จะพบว่าเขาอาจเติบโตได้ดีในสายงานนี้แถมมีความสุขมากกว่าเดิมเพราะเป็นงานที่เขาชอบจริงๆ


ผู้บริหารหลายๆ คนที่อาจรำคาญพนักงานของตัวเองที่ชอบเสนอแนะงานข้ามแผนก เช่นเป็นพนักงานฝ่ายช่างแต่ชอบพูดเรื่องทรัพยากรมนุษย์ในเวลาประชุมบ่อยๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เกี่ยว ถ้าตัดความรำคาญนี้ออกไปแล้วค่อยๆ คิดก็อาจจะพบว่าเขาพูดเรื่องนี้มาอย่างสม่ำเสมอ และแนวคิดของเขาหลายๆ ครั้งก็เอาไปใช้ได้จริงๆ


การปล่อยให้เขาอยู่ฝ่ายช่างต่อไปเขาก็คงทำได้ดีตามประสบการณ์และความรู้ที่ร่ำเรียนมา แต่หากเปลี่ยนให้เขาได้ทำงานในแผนกที่เขาสนใจจริงๆ ก็ย่อมทำให้เขาเติบโตและใช้ศักยภาพในตัวเองได้เต็มที่มากกว่า


ส่วนตัวผมเองก็มีผู้บริหารมากมายที่ข้ามแผนกมาแล้วเติบโตก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ เขาอาจมีแบ็คกราวด์ทั้งประวัติการเรียนและประสบการณ์ทำงานที่ไม่ตรงกับตำแหน่งเลย แต่มีใจและมีไฟที่พร้อมอยากลองทำสิ่งใหม่ที่เขาเคยฝันเอาไว้


ผู้นำจึงต้องกล้าลองและต้องกล้าให้โอกาสให้เขาได้ทำสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ อาจมีถูกบ้างผิดบ้างแต่การบริหารงานของเขานั้นจะเป็นการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ให้ได้ก้าวไปตามทางที่เขาตั้งใจ และผมเชื่อว่านี่คือการให้เขาได้ใช้พลังของตัวเองอย่างเต็มประสิทธิภาพ


แต่เมื่อให้โอกาสนี้กับเขาไปแล้วผู้นำก็ต้องใจแข็งพอที่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายกับการตัดสินใจของเขา เพราะหากเราเข้าไปคิดและตัดสินใจแทนเขามากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วเขาก็จะไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง และทำงานด้วยการรอคำสั่งจนไม่กล้าก้าวเดินไปทางไหนเพราะเคยชิน


บทบาทของผู้นำในทุกวันนี้จึงมีมิติที่ทั้งกว้างขึ้นและลึกขึ้นมากในเวลาเดียวกัน นอกจากต้องเปิดโอกาสและแสวงหาหน้าที่ที่เหมาะสมให้คนของตัวเองแล้ว สิ่งที่ต้องทำขนานกันไปก็คือการค้นหามือรองที่มีศักยภาพและฝึกฝนให้เขามารับช่วงต่อจากคนอื่นได้หากเกิดปัญหาขึ้นโดยไม่คาดฝัน


แต่ขณะเดียวกันผู้นำก็ต้องเด็ดขาดเพียงพอที่จะเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบหากมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น เพราะเราให้โอกาสเขาทำผิดซ้ำซากไม่ได้ ความกล้าที่จะยกบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบให้ใครคนใดคนหนึ่งที่เขียนไว้ข้างต้น จึงต้องมาพร้อมกับความกล้าที่จะเปลี่ยนเขาออกเมื่อเล็งเห็นว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นจนเกินเยียวยา


เช่นเดียวกับโค้ชกีฬาหลายๆ ประเภทที่ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและรวดเร็วในการเปลี่ยนผู้เล่นที่อาจมีปัญหา หรือผิดพลาดในการเล่น จึงต้องเปลี่ยนตัวอย่างทันเกม เพื่อให้ทีมมีโอกาสทำคะแนนเพื่อคว้าชัยชนะได้โดยไม่สะดุด


ทั้งหลายทั้งปวงนี้ไม่ได้ส่งผลดีแค่ในแง่การดึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่มาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นกลไกในการสร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในองค์กรอีกด้วย เพราะเราให้โอกาสเขาในการได้รับผิดชอบสิ่งใหม่ที่ตรงกับเป้าหมายในชีวิตของเขา และเรายังกล้าให้เขาทดลองทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน


ผลที่ได้จากห้องทดลองในองค์กรนี้จึงมีโอกาสที่จะกลายเป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ ป้อนสู่ตลาดได้ในอนาคต ขอเพียงองค์กรมีผู้นำที่เข้าใจบทบาทและปรับตัวให้ทันกับความคิดของคนรุ่นใหม่ๆ ตลอดเวลาเท่านั้น