อินโดจีนที่อาจไม่รู้จัก

อินโดจีนที่อาจไม่รู้จัก

ช่วงนี้ผมไปสำรวจโครงการบ้านจัดสรรในอินโดจีน และประเทศอื่นในอาเซียนรวมทั้งเนปาล ผมจึงขออนุญาตเล่าสิ่งที่น่าสนใจที่ท่านอาจไม่เคยรับรู้

เพราะไม่ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตะลุยสำรวจเช่นผม


เด็กเขมรพูดอังกฤษเก่ง ผมทึ่งว่าชาวกัมพูชาสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนไทย ผมไปสำรวจตามอาคารพาณิชย์ชานเมือง พบเด็กมัธยมขายน้ำแข็งไส เด็กมหาวิทยาลัยช่วยแม่ขายอาหาร พวกเขาพูดภาษาอังกฤษได้ดีพอสมควร แถมไม่ขี้อายแบบเด็กไทย ข้อนี้ทำให้ผมทึ่งว่า ระบบการศึกษาของเขาคงมีประสิทธิภาพกว่าไทยหรือไม่ แม้แต่หนุ่มจักรยานยนต์รับจ้างที่เคยอยู่เมืองไทยมา 3 ปี และมีความรู้ระดับประถม ก็ยังพอสนทนาเป็นภาษาอังกฤษได้บ้างในยามที่สื่อสารภาษาไทยกันไม่รู้เรื่อง! ข้อนี้เด็กไทยเราพึงสังวรให้มาก


พนมเปญเมืองฝุ่น อาจกล่าวได้ว่าฝุ่นที่นี่มีมากจริงๆ ไม่เฉพาะผมที่ต้องใส่หน้ากาก แม้แต่ชาวบ้านก็ยังใส่หน้ากากกันใหญ่เลย ที่เป็นเช่นนี้ส่วนหนึ่งเพราะการก่อสร้างถนนและอาคารต่าง ๆ มีมากมายเหลือเกิน ขณะนี้อสังหาริมทรัพย์ในกรุงพนมเปญกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น (ไม่ใช่ขาขึ้นก่ายหน้าผากนะครับ) จึงมีการก่อสร้างถนน และโครงการจัดสรรใหม่ๆ แทบทุกหัวระแหง


อาม่าผู้รอด ผมไปสำรวจที่กรุงพนมเปญทีไร ก็ได้มีโอกาสเจออาม่า (คุณยาย) คนจีนหลาย ๆ คน แต่ชุดแบบคนจีนเลย แต่งวดนี้แทบไม่เจอ คงจะ “ขึ้นสวรรค์” ไปแทบหมดแล้ว อาม่าของผมก็ “ขึ้นสวรรค์” ไปเกือบ 20 ปีแล้ว อาม่าตามรูปคือผู้รอดจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดงในยุค 30 ปีก่อนนั่นเอง ผมเห็นอาม่าหลายคนอยู่อย่างมีความสุขเพราะเป็นคนสุขนิยมนี่เอง นอกจากนี้ผมยังเจอ “คุณแม่” เขมรที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ผม ท่านผู้นี้เป็นคนสุขนิยมเช่นกัน อัธยาศัยไมตรีดี จึงมีชีวิตที่เป็นสุขในทุกสภาวะ


ทำโรงแรมแสนง่าย เดี๋ยวนี้ทำอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมให้ต่างชาติพักนั้นแสนง่าย ขอให้อยู่ในทำเลที่ต่างชาติชอบ มีบ้านหลังหนึ่งก็เอามาทำโรงแรมได้แล้ว โดยมีช่องทางการขายผ่านเว็บ เช่น booking, agoda ฯลฯ โดยจ่ายค่าธรรมเนียมให้เขา 15% ก็ทำได้แล้ว โรงแรมที่ผมพักในกรุงพนมเปญ สนนราคาคืนละเพียง 1,000 บาท แต่มีบริการซักรีดให้ฟรีอีกต่างหาก นอกจากนี้ทุกโรงแรมยังมี wifi ให้ใช้ฟรีไม่อั้นเสียด้วยครับ


เจ๊เกียวอายเลย ผมได้มีโอกาสนั่งรถบัสจากกรุงพนมเปญไปนครโฮจิมินห์ ใช้เวลาเดินทางรวมการผ่านด่านตรวจแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง แต่เสียเงินเพียง 10 เหรียญสหรัฐ (320 บาท) ซึ่งนับว่าคุ้มมาก หากบินไปก็คงเป็นเงินประมาณ 5,000 บาทต่อเที่ยว ที่สำคัญก็คือบนรถบัส มีบริการ wifi ฟรีอีกต่างหาก และยังมีกล้องวงจรปิดไว้จับภาพบนรถถึง 2 กล้องด้วย จะได้ถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานหากเกิดอาชญากรรมนั่นเอง รถบัสและรถตู้ท่องเที่ยวแบบนี้มีบริการไปทั่วประเทศ มีกระทั่งมาถึงกรุงเทพมหานครด้วยสนนราคาเพียง 20 เหรียญ (640 บาท)


โฮจิมินห์กำลังสร้างรถไฟฟ้าขนานใหญ่ ท่านที่ไปเที่ยวนครนี้จะพบรูปปั้นโฮจิมินห์ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง แต่ทุกวันนี้เอาผ้าใบคลุมไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ ที่นครแห่งนี้จะมีรถไฟฟ้าใต้ดิน 6 สาย แต่สายที่กำลังก่อสร้างเป็นสายแรกมีระยะทาง 19.7 กิโลเมตร มีทั้งหมด 14 สถานี จะสังเกตได้ว่าโรงแรม 5 ดาว ที่อยู่ใกล้ๆ ล้วนได้รับผลกระทบเชิงลบชั่วคราว แต่ทุกคนก็ต้องอดทนเพื่ออนาคต ต่างจากกรณีประเทศไทย ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT ของเราต้องออกมาบนพื้นหัวถนนสีลม เนื่องจากผู้ครองที่ดินแถวนั้น “เส้นแข็ง”


รื้อบ้านริมแม่น้ำ สร้างถนนเลียบคลอง ในนครโฮจิมินห์ซิตี้ในปีนี้ คลองที่แต่เดิมมีน้ำเน่าเสีย และมีบ้านเรือนอยู่ริมคลองมากมาย บัดนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว มีการสร้างถนนเลียบคลอง และเว้นพื้นที่สีเขียวไว้ด้วย ชาวบ้านที่ถูกเวนคืน ก็ได้ที่อยู่อาศัยใหม่ที่จัดโดยรัฐอยู่ใกล้ ๆ ที่เดิม โดยเป็นที่อยู่อาศัยแบบ “แฟลตดินแดง” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน การเวนคืนจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ


ลอตเตอรี่ลาวก้าวล้ำ เดี๋ยวนี้ลาวมีระบบหวยออนไลน์ที่เรายังไม่มีกัน หวยหรือลอตเตอรี่จะออกทุกวันอังคารและพฤหัสบดี จะมีการตั้งโต๊ะขายหวยกันขนานใหญ่ ที่แน่ๆ ก็คือการขายหวยเกินราคานั้นหามีไม่ ระบบการขายหวยเป็นสิ่งที่ คสช. ควรไปดูงานเป็นอย่างยิ่ง หรือเชิญผู้รู้ของเขามาคุยด้วยก็ยังดี เพราะนี่ คสช.เข้ามาเกือบปีแล้ว ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาหวยแพงได้ (แซวครับ)


อาหารลาวแพง เขาอยู่กันได้อย่างไร อย่างก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่ง 60 บาท ข้าวมันไก่ ข้าวผัดก็ราว 80-100 บาท ผมก็เลยสงสัยว่าค่าแรงชาวลาวค่อนข้างถูก เขาเอาเงินที่ไหนมาทาน ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เฉพาะในลาว ในกัมพูชาและเวียดนามก็คล้าย ๆ กัน ที่อาหารแพงเพราะสั่งซื้อมาปรุงจากประเทศไทย บางท่านบอกว่าก๋วยเตี๋ยวเขาชามใหญ่กว่า ทานอิ่ม ของไทยต้อง 2 ชามบ้าง พวกเขามีงานพิเศษทำบ้าง แต่ในอีกทางหนึ่ง คนหลายส่วนก็ไม่สามารถทานก๋วยเตี๋ยวหรือเฝอเวียดนามได้ พวกเขาเอาอาหารง่าย ๆ จากบ้านมาทานกลางวันก็มีเช่นกัน


ทุกประเทศกำลังก้าวกระโดด ที่ผมเห็นโดนเด่นที่สุดขณะนี้ก็คือกรุงพนมเปญ ซึ่งราคาบ้านและห้องชุดเติบโตสูงมากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ส่วนนครโฮจิมินห์นั้นเพิ่งกำลังฟื้นตัว เนื่องจากการตกต่ำของเศรษฐกิจในปี 2551-2552 ค่อนข้างรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง ส่วนในกรุงเวียงจันทน์ ก็ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก ราคาที่ดินในกรุงเวียงจันทน์ ต่างจากอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคายเป็นอย่างมาก


อนึ่งผมก็นึกอนาถใจตนเองเหมือนกันที่ในวัย 57 ปี ยังต้องออกคลุกฝุ่นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์สำรวจภาคสนามเพื่อความรวดเร็ว โดยให้ “ลูกน้อง” (เพื่อนร่วมงาน) นั่งรถเก๋งพร้อม นี่ถ้าทำราชการอาจได้เป็นอธิบโด ปลัดขิก ผอ. (ผัวอ้อย) หรือเป็นผู้บริหารในรัฐวิสาหกิจสักแห่ง ได้เสพสุขด้วยสวัสดิการเพียบไปแล้วครับ


แต่ในอีกแง่หนึ่งผมก็ดีใจครับที่ผมยัง “ติดดิน” เช่นสมัยหนุ่ม ๆ ยังพอสู้งานหนักได้ ยังเข้าใจชีวิตการทำงานหนักของคนหนุ่มสาว และที่สำคัญยังไม่กลายพันธุ์เป็นเหล่าชนชั้นนำที่เหยียบหัวเหยียบบ่าประชาชนอยู่ครับผม