เมื่อ‘พญามังกร’ Alibaba เจอ‘ภารตะหัวใจไทย’ที่สัปดาห์หนังสือฯ

เมื่อ‘พญามังกร’ Alibaba เจอ‘ภารตะหัวใจไทย’ที่สัปดาห์หนังสือฯ

ช่วงนี้ต้องเชิญชวนผู้ท่านไปงาน “สัปดาห์หนังสือครั้งที่ 43 + สัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 13”

 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจะมีไปถึงวันที่ 6 เมษายน เพราะมีหนังสือดี ๆ ให้เลือกมากมาย

ผมเห็นว่าการอ่านเป็นหัวใจของการสร้างชาติ และหนังสือเป็นกุญแจแห่งการสร้างคนที่สำคัญที่สุด ยิ่งผมเห็นคุณพ่อคุณแม่พาลูกหลานไปเดินหาหนังสือดี ๆ ในสัปดาห์หนังสือ ผมยิ่งมีความหวัง เพราะหนังสือนอกจากจะทำให้คนฉลาด ใฝ่รู้แล้ว ก็ยังสร้างความกลมเกลียวกันในครอบครัวอย่างดียิ่งด้วย

ผมเห็นด้วยกับ คุณจรัล หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยที่บอกว่า รัฐบาลต้องเห็นความสำคัญของหนังสือ จะต้องบุกเป็นกองทัพอย่างที่มาเลเซียและอินโดนีเซียทุ่มไปงาน Frankfurt Book Fair เพื่อปักธงของตนในยุโรป

แต่ของไทยเราดิ้นรนไปเอง ทำไปตามมีตามเกิด ไม่อาจจะสร้างให้หนังสือเป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรม ที่สร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศเราเหมือนเพื่อนบ้านหลายชาติทำ

งานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้ระดมสำนักพิมพ์กว่า 420 แห่งมาเปิดบูธกว่า 950 บูธ รวมถึงของเครือเนชั่น ที่ลดราคากันอย่างครึกโครมเพื่อให้ผู้อ่านทุกวัยทุกรสนิยมสามารถหาซื้อได้อย่างสะดวกกระเป๋า

หนังสือสองเล่มที่ผมนำเอาปกมาให้ชม เพราะเห็นว่าเป็นจุดเด่นของนักอ่านหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ของคนที่น่าสนใจ

  “แจ็ค หม่า พญามังกรแห่งอาณาจักร Alibaba” ที่สร้างตัวเองจากครูจน ๆ คนหนึ่งมาเป็นอภิมหาเศรษฐีของโลกด้วยการสร้างเว็บไซต์ซื้อขายของสำหรับคนจีนด้วยวิสัยทัศน์ที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง

ในวัยเด็ก แจ็ค หม่ามีชีวิตลำบาก ความล้มเหลวถือเป็นเรื่องปกติ การเรียนรู้จากประสบการณ์ล้มลุกคลุกคลาน มีสีสันที่ทุกคนควรจะได้สัมผัสและเรียนรู้

ผมเป็นคนชอบอ่านชีวประวัติบุคคลสำคัญมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งเป็นชีวิตของคนที่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับอุปสรรคจนประสบความสำเร็จ ยิ่งทำให้ผมอยากจะอ่านเพื่อให้เข้าใจความคิด ความฝัน อุดมการณ์ ปณิธานและความในใจอย่างลึกซึ้ง

หนังสือเล่มนี้ตอบทุกคำถามของคนอยากรู้ว่า แจ็ค หม่า ต้องฟันฝ่าความยากลำบากอะไรก่อนที่จะมายืนตระหง่านระดับโลก เทียบเท่ากับ สตีฟ จ๊อปส์และบิล เก็ตส์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

หนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ผมภูมิใจเสนอคือ ภารตะหัวใจไทย...สาธิต เซกัล" ซึ่งเป็นเรื่องราวของชีวิตของคุณสาธิต ที่คนไทยจำนวนไม่น้อยรู้จักเขาในฐานะผู้เคยขึ้นเวที กปปส. เพื่อยืนยันความรักในหลวงสุดหัวใจ

แต่น้อยคนนักจะรู้ถึงเส้นทางชีวิตของชาวภารตะสัญชาติอินเดียหัวใจไทย ที่อยู่เมืองไทยตั้งแต่ 5 ขวบถึงวันนี้อายุ 71 ที่วันหนึ่งกลับตกเป็นผู้ต้องหาที่ต้องถูกเนรเทศออกจากแผ่นดินไทย

หลังจากที่เขาขึ้นเวทีที่สามเสนเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2556 หลายคนเรียกเขาว่า ลุงแขกรักชาติ จากที่เขาประกาศจุดยืนสองเรื่องที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเขา นั่นคือการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และการทำให้คนไทยภูมิใจในความเป็นไทย

แต่ชีวิตของเขาเริ่มต้นอย่างไร เขาผ่านอะไรมาบ้าง ทำไมเขาจึงตัดสินใจขึ้นเวทีปราศรัยทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีความเสี่ยงสูงยิ่ง?

อีกทั้งคนอินเดียที่อพยพมาเมืองไทยมีความเป็นไปมาอย่างไร นี่อาจเป็นครั้งแรกที่คุณสาธิตเล่าย้อนประวัติของชุมชนคนอินเดียในไทย ได้อย่างมีสาระ สนุกสนาน และได้แง่มุมที่ไม่เคยรับรู้ที่ไหนมาก่อน

ทั้งหมดนี้กลั่นมาเป็นหนังสือที่น่าอ่านที่สุดแห่งปีเล่มหนึ่ง

  นอกจากนี้ยังมีหนังสืออีกมากมายสำหรับทุกคนในครอบครัว พบกันที่สัปดาห์หนังสือ และเชิญชวนให้แวะไปที่บูธเนชั่น ที่ M51 โซน C1 ครับ