ยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง

ยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง

ผ่านวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2008 คนส่วนใหญ่และผู้นำทางเศรษฐกิจ-การเมืองล้วนเชื่อว่าโลกจะกลับมาสงบสุขและรุ่งเรืองเหมือนเดิม

แต่ความจริงกลับเป็นตรงข้าม โลกปั่นป่วนวุ่นวายไม่หยุดหย่อน วิกฤติเศรษฐกิจที่เชื่อกันว่าคุมอยู่ ก็ปรากฏร่องรอยของความไร้เสถียรภาพอย่างชัดเจน รวมถึงภาวะถดถอยชะลอตัวเกือบทั่วโลก


นี่คือสิ่งที่นักโหราศาสตร์คาดกันไว้ตั้งแต่หลายปีก่อน เพราะโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อันเป็นผลสืบเนื่องจากวัฏจักรมฤตยู-พลูโต (Uranus-Pluto Cycle)


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักโหราศาสตร์ตะวันตกที่ใช้จักรราศีเคลื่อนที่ (Tropical Zodiac) ยิ่งสนใจมาก เพราะตำแหน่งดาวทั้งคู่สถิตในราศีเมษ-มังกร อันเป็นจรราศี (Cardinal Sign) ที่มีกำลังแรง ขณะที่นักโหราศาสตร์ตะวันออกที่ใช้จักรราศีคงที่ (Sidereal Zodiac) เช่น อินเดีย ไทย ให้ความสำคัญน้อยกว่า เพราะดาวอยู่ในราศีมีน-ธนู อันเป็นทวิสภาวะราศี (Mutable Sign) ที่มีกำลังน้อย


มฤตยูคือการต่อต้านของเดิมพลูโตคือการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน (Transformation) วัฏจักรดาวคู่นี้จึงบอกถึงช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม เทคโนโลยี ฯลฯ


วัฏจักรมฤตยู-พลูโตรอบปัจจุบัน เริ่มต้นจากการกุมกัน (Conjunction) ในช่วงปี 2508 - 2509 เนื่องจากเป็นดาวเคลื่อนที่ช้า การกุมกันจึงแบ่งเป็น 3 จังหวะ คือ


(1) วันที่ 10 ตุลาคม 2508 เวลา 03:06 น. ที่ 23 องศา 48 ลิปดาในราศีสิงห์


(2) วันที่ 5 เมษายน 2509 เวลา 03:52 น. ที่ 23 องศา 5 ลิปดาในราศีสิงห์


(3) วันที่ 30 มิถุนายน 2509 เวลา 16:47 น. ที่ 22 องศา 43 ลิปดาในราศีสิงห์


วัฏจักรมฤตยู-พลูโตรอบนี้มีความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างมาก เพราะตำแหน่งที่กุมกันนั้น ทำมุม 120 องศาสนิทพอดีกับลัคนาดวงเมือง บอกถึงพลังการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ก้าวหน้า (Progressive Movement) อย่างต่อเนื่องและทรงพลัง


อสัญกรรมของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ในปี 2506 อาจเป็นสัญญาณการเริ่มต้นวัฏจักรนี้ (เนื่องจากดาวเคลื่อนที่ช้ามากและผลของระยะเอื้อม (Orb) อิทธิพลของมันเกิดขึ้นได้ “ก่อน” กุมสนิทหลายปี) จากนั้น การเมืองไทยค่อยๆ เปลี่ยนแปลง ทั้งกระบวนทัศน์ โครงสร้าง และตัวผู้เล่น ที่ชัดเจนคืออำนาจรวมศูนย์ของทหารลดลง ขณะที่นักธุรกิจ-ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเข้ามาแบ่งปันอำนาจทางการเมืองมากขึ้น


ในทางเศรษฐกิจยิ่งเด่นชัด เพราะแผนพัฒนาฯฉบับที่ 1 เริ่มส่งผล เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง รวมถึงผลกระทบทางสังคมที่ตามมาอย่างมาก ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ทั้งสังคมเมืองและภาคชนบท


วัฏจักรมฤตยู-พลูโตกินเวลา (เฉลี่ย) 127 ปี ในปัจจุบัน วัฏจักรดำเนินมาถึงช่วงกึ่งกลางขาขึ้น (Waxing-square Phase) ซึ่งทั้งคู่ทำมุม 90 แก่กันโดยแบ่งเป็น 7 จังหวะ คือ


(1) วันที่ 24 มิถุนายน 2555 เวลา 14:39 น. ที่ 14 องศา 22 ลิปดา (มีน - ธนู)


(2) วันที่ 19 กันยายน 2555 เวลา 14:29 น. ที่ 12 องศา 55 ลิปดา


(3) วันที่ 21 พฤษภาคม 2556 เวลา 05:01 น. ที่ 17 องศา 11 ลิปดา


(4) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา 18:36 น. ที่ 15 องศา 23 ลิปดา


(5) วันที่ 22 เมษายน 2557 เวลา 01:16 น. ที่ 19 องศา 30 ลิปดา


(6) วันที่ 15 ธันวาคม 2557 เวลา 13:45 น. ที่ 18 องศา 31 ลิปดา


(7) วันที่ 17 มีนาคม 2558 เวลา 8:13 น. ที่ 21 องศา 14 ลิปดา


ช่วงกึ่งกลางขาขึ้นถือเป็นจุดสำคัญในการพิจารณาว่า พัฒนาการระยะต่อไปจะเป็นเช่นไร ? ช่วงนี้กินเวลาตั้งแต่ 2555 - 2558 (+/- 2 ปี) เราลองตรวจสอบสถานการณ์ตั้งแต่ปี 2553 กันก่อน


ในภาพใหญ่ระดับโลก สิ่งแรกที่ชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง Arab Spring ที่เริ่มต้นในตูนิเซียกลางธันวาคม 2553 ได้แพร่กระจายไปทั่วตะวันออกกลาง-แอฟริกา และทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 2556-2557 ค่อยผ่อนคลายลง แต่แล้วก็เกิดกลุ่ม ISISขึ้นอีก


ปลายปี 2556 (จังหวะที่ 4) การเมืองในยูเครนเริ่มวุ่นวาย เกิดขบวนการต่อต้านรัฐบาลเลือกตั้ง (ที่โปรรัสเซีย) กลายเป็นจลาจล มีรัฐบาลใหม่และสงครามกลางเมือง ไครเมียแยกและรวมกับรัสเซีย สถานการณ์บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-นาโตกับรัสเซีย ที่อาจกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้


ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซคือเรื่องใหญ่ทางเศรษฐกิจ กลางปี 2553 แม้ ECB -IMF ปล่อยกู้ถึง110,000 ล้านยูโรแต่สถานการณ์เลวร้ายต่อเนื่อง คนตกงานเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจตกต่ำเนื่องจากคุมเข้มการคลัง กลางปี 2554 - 2556 ปัญหารุนแรงมาก จนดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวสูงกว่า 20% แม้มีเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่ (จังหวะที่ 6) ปัญหาจะจบหรือไม่? เหตุการณ์ Occupy Wall Street ที่เริ่มกลางกันยายน 2554ก็เป็นอีกสัญญาณสำคัญทางเศรษฐกิจการเมือง


เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงในมิติอื่นๆ เช่น วันที่ 6 มิถุนายน 2556 (จังหวะที่ 3) เอ็ดเวิร์ดสโนว์เดนเปิดโปงขบวนการสอดแนมทั่วโลกของอเมริกาและการระบาดของเชื้ออีโบลาในแอฟริกาตะวันตกช่วงกุมภาพันธ์ 2557 (จังหวะที่ 5) ฯลฯ


ในประเทศไทย เกิดเหตุการณ์สำคัญหลายประการ ที่โดดเด่นที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง


นายกฯอภิสิทธิ์ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่กรกฎา 2554 เดือนสิงหาคมได้นายกฯหญิงคนแรกและรัฐบาลใหม่ ปี 2555 (จังหวะที่ 1) เมื่อเลิกเสียขวัญจากมหาอุทกภัย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็รวมศูนย์อำนาจเบ็ดเสร็จ ปีนี้เองมีการผลักดันนโยบายประชานิยมอย่างเต็มที่ เช่น จำนำข้าว ฯลฯ


จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อรัฐสภาผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม เกิด “มวลมหาประชาชน” ขึ้นต่อต้าน จนต้องยุบสภาในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ทั้งหมดคือจังหวะที่ 4 แต่สถานการณ์กลับวุ่นวายหนัก จนนำไปสู่ปฏิวัติโดยคสช.เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 (จังหวะที่ 5)


มิติทางสังคมก็เกิดปรากฏการณ์แปลกใหม่ เช่น การเปิดโปงทุจริตในวงการตำรวจช่วงพฤศจิกา - ธันวา 2557 (จังหวะที่ 6) ความขัดแย้งในวงการสาธารณสุขตั้งแต่ตุลาคม 2557 (จังหวะที่ 6) จนปลดปลัดกระทรวงในเดือนมีนาคม 2558 (จังหวะที่ 7) และที่สำคัญคือ การเปิดโปงความผิดปกติของวัดธรรมกาย โดยเฉพาะการเกี่ยวพันกับทุจริตในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ในช่วงมีนาคม 2558 (จังหวะที่ 7) ฯลฯ


วัฏจักรมฤตยู-พลูโตเป็นวัฏจักรใหญ่ที่กินเวลายาวนาน ถ้าไม่มองในภาพใหญ่จริงๆ ย่อมเห็นอิทธิพลไม่ชัดเจน แต่ถ้ามันสัมพันธ์กับดาวอื่นๆ ที่โคจรเร็วกว่า จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน


ตัวอย่างเช่น (1) การเปิดโปงทุจริตในวงการตำรวจ เกิดขึ้นเมื่ออังคาร (ธนู) และราหู (กันย์) สัมพันธ์ถึง (2) จลาจลเผาเมืองกรุงเทพฯเมื่อพฤษภาคม 2553 ก็เพราะพฤหัส (มีน) -เสาร์ (กันย์) เข้าร่วมด้วย และ (3) ความวุ่นวายทางการเมืองและปฏิวัติของคสช. เป็นเพราะอิทธิพลGrand Cross ของอังคารพักร์ (กันย์) -พฤหัส (เมถุน) -มฤตยู (มีน) -พลูโต (ธนู) นั่นเอง


ครึ่งทางขาขึ้นมาถึงจังหวะสุดท้าย การเปลี่ยนแปลงบางอย่างสงบและผ่อนคลาย แต่อีกหลายอย่างกลับมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในระยะต่อไป


สถานการณ์ในรัสเซียและการเมืองไทย คือจุดโฟกัสที่ไม่ควรละสายตา


.......................................................................
ดร.เจษฎา โลหอุ่นจิตร แห่งคอลัมน์ “ถอดรหัสลับดวงดาว” เปิดอบรมโหราศาสตร์สากลขั้นต้น ผู้สนใจติดต่อได้ที่คุณวราภรณ์ โทร. 081-615-1585 หรือ E-mail: [email protected]