สื่อสังคมออนไลน์กับ‘อีเมล์’

สื่อสังคมออนไลน์กับ‘อีเมล์’

ด้วยภาวะเศรษรฐกิจที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน บริษัทเริ่มจำกัดงบประมาณทางการตลาดสื่อโฆษณาที่ไม่มีประสิทธิภาพและใช้งบประมาณที่สูง

ก็จะถูกตัดค่าใช้จ่ายลงไปเรื่อยๆ สื่อโฆษณาออนไลน์ โดยเฉพาะสื่อโฆษณาผ่านสังคมออนไลน์น่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ให้บริษัทได้


จากรายงานของ Internet Retailer ที่สำรวจบริษัทค้าปลีกระดับต้นๆ กว่า 1,000 บริษัท เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ในปี 2558 พบว่า การตลาดด้วย “อีเมล์” ยังคงเป็นสื่อการตลาดที่ได้รับความนิยมอันดับที่หนึ่ง โดยเฉลี่ยแต่ละบริษัทจะส่งแคมเปญผ่านทางอีเมล์อย่างน้อย 4 แคมเปญต่อเดือน และสูงสุดถึง 100 แคมเปญต่อเดือน


แน่นอนว่าส่วนใหญ่ของบริษัทค้าปลีกเหล่านี้จะมีรายชื่อลูกค้าและอีเมล์ที่จะส่งเป็นล้านๆ รายเพียงแค่ร้อยละ 2 ของผู้รับอีเมล์สนใจในแคมเปญที่ส่งก็พอบริษัทเหล่านี้ก็สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในแต่ละเดือนได้ ดังนั้นเราจึงไม่แปลกใจเลยที่บริษัทค้าปลีกและร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญกับการสมัครสมาชิก เพื่อให้มาซึ่งอีเมล์ในการประชาสัมพันธ์และเปิดโอกาสการขายครั้งต่อไป


แต่สำหรับธุรกิจใหม่คุณคงจะไม่มีรายชื่อสมาชิกและอีเมล์เป็นจำนวนมากอย่างนั้น การจะใช้การตลาดด้วยอีเมล์เพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และเพิ่มยอดขายคงจะยังไม่ได้และไม่มีประสิทธิภาพที่ดี จะต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้รายชื่อสมาชิกและอีเมล์เป็นแสนเป็นล้านราย หากไม่ได้ซื้อสื่อโฆษณาให้ได้มา ซึ่งรายชื่ออีเมล์อาจใช้เวลาหลายปีด้วยซ้ำ


ดังนั้น สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเซียลมีเดีย น่าจะเป็นคำตอบเดียวให้กับธุรกิจใหม่ได้ตัวอย่างของร้านค้าออนไลน์ในสหรัฐ อย่าง Shop.com ใช้งบประมาณมากกว่าร้อยละ 60 ในงบโฆษณาออนไลน์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อย่าง Facebook เพราะว่าสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วและเห็นผลลัพธ์ของแคมเปญได้ทันที เรียกว่าภายในระดับนาทีหรือชั่วโมงกันเลยทีเดียว


ที่สำคัญ Shop.com ยังสามารถสร้างผู้ติดตามใน Instagram ได้เป็นล้านคนในระยะเวลาอันสั้น ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ Shop.com เพิ่มโอกาสในการขายมากยิ่งขึ้น เหมือนกระสุนนัดเดียวได้นก 2 ตัว


จากรายงานเดียวกันของ Internet Retailer ระบุว่า Shop.com มีอัตราการแปลงเป็นลูกค้าจากสื่อสังคมออนไลน์สูงถึงร้อยละ 14 โดยส่วนใหญ่มาจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่าลูกค้าที่มาจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะถึง 7 เท่า ท้าที่สุด Shop.com ก็ได้รายชื่อสมาชิกและอีเมล์จำนวนมากเพื่อการตลาดอีเมล์ต่อไป


ที่ผานมาเราอาจไม่มั่นใจในสื่อสังคมออนไลน์เท่ากับสื่อออนไลน์อื่นๆ และมักจะทดลองใช้สื่อสังคมออนไลน์เพียงแค่สื่อโฆษณาหรือแคมเปญสั้นๆ เท่านั้น แต่หากพิจารณาจากรายงานข้างต้นแล้ว จะพบว่าสื่อสังคมออนไลน์ไม่ใช่เพียงแค่สื่อใหม่ หรือสื่อเพื่อประชามสัมพันธ์เท่านั้นอีกต่อไป แต่มันสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของคุณได้ มันอาจจะมาทดแทนสื่อออนไลน์อื่นๆ ด้วยซ้ำ


สุดท้ายเราคงจะไม่ใช้สื่อโฆษณาผ่านสังคมออนไลน์ไปตลอด เพราะว่าค่าใช้จ่ายของสื่อสังคมออนไลน์ยังสูงอยู่มาก


การตลาดอีเมล์จึงเป็นคำตอบสุดท้ายของการตลาดแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ที่สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้แบบส่วนบุคคล(Personalization) มากขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า อย่างตัวอย่างที่บริษัทค่าปลีกต่างๆ ก็เลือกใช้สื่อการตลาดอีเมล์ให้เป็นสื่อออนไลน์อันดับหนึ่ง