อนาคตของ Blogger Marketing

อนาคตของ Blogger Marketing

ช่วงนี้เหมือนกระแสข่าวของอาชีพที่พวกเราเรียกกันว่า “Blogger” จะเริ่มร้อนแรงขึ้นมา

อาจจะด้วยเป็นอาชีพที่อิสระ มี ไลพ์สไตล์ แบบที่คนรุ่นใหม่ใฝ่หา ไม่มีเจ้านายจู้จี้จุกจิก ทำงานตอนไหนก็ได้  หนำซ้ำ ยังมีรายได้งามอีกด้วย  ว่ากันว่า “Beauty Blogger” ชื่อดังบางคนสามารถทำรายได้ ได้ถึงหลักแสนต่อเดือน!! เล่นเอามนุษย์เงินเดือน ถึงกับมองค้อนกันตาปริบๆ  

            "งานหนักแบบนี้ …ลาออกไปเป็น Beauty Blogger บ้างดีกว่า!"  เชื่อว่าพนักงานสาวหลายคน ในแวดวง Digital Agency  คงจะเคยสบถ ออกมากันบ้าง 

            จริงๆ เรื่อง Blogger Marketing  ไม่ใช่เรื่องใหม่ ลูกค้าแบรนด์ใหญ่ๆ ที่บริษัทผมดูแลอยู่  ก็มีการใช้ Blogger กันมานานหลายปีแล้ว  ซึ่งผมเองเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับ Blogger Marketing ในช่วงปีที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน

            อย่างแรกเลย คือ  ประสิทธิภาพของการใช้ Blogger ในการทำการตลาด  มีน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด  หากย้อนหลังไปสัก 3-4 ปีที่แล้ว  Blogger Marketing เป็นอะไรที่หวือหวาน่าทึ่งมากๆ   Blogger บางคน สามารถรีวิว พร้อมทั้งเชื้อเชิญให้คนไปซื้อสินค้าได้อย่างเหลือเชื่อ   มีบางเคส สินค้าขายดี ถึงขนาดขาดตลาด!  นักการตลาดถึงกับงง ทำอะไรกันไม่ถูก  เพราะไม่คิดว่าจะได้ผลถึงเพียงนี้  จึงไม่ได้ตระเตรียมสินค้าไว้อย่างพอเพียง          ROI เรียกว่าได้ว่า คุ้มเกินคุ้ม !             ทีนี้พอประสบความสำเร็จมากมายได้ถึงขนาดนี้   แน่นอนครับ “ความลับไม่มีในโลก”  บรรดาแบรนด์คู่แข่ง พากันดาหน้าใช้ กลยุทธ์  “Me Too Strategies” กันแบบไม่ต้องคิดมาก งานรีวิวสินค้าต่างๆ  จึงพากันหลั่งไหล ไปหา Blogger กันอย่างไม่ขาดสาย  จึงเป็นผลทำให้ ตลาด Blogger Marketing เติบโตประดุจขีปนาวุธโทมาฮอร์ก 

            แบรนด์เองก็ไม่อยากใช้ Blogger คนเดิมๆ  ถ้าจะมี Blogger หน้าใหม่หลุดเข้ามาในวงการ  ก็อยากจะลองใช้ ลองทดสอบดู   Blogger หน้าใหม่ จึงผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด             พอปริมาณของ Blogger เริ่มเยอะ  นักการตลาดที่ยินดีจะจ้าง Blogger ก็เริ่มแยะ ความนัวเนียและความมันส์ก็เริ่มปรากฎขึ้น  เริ่มตั้งแต่นักการตลาดที่ขาดความเข้าใจในการทำBlogger Marketing ซึ่งจริงๆ แล้ว นักการตลาดควรจะมั่นใจในสินค้าของตน และให้อิสระ Blogger ในการรีวิวสินค้าพอสมควร   อะไรดีหรืออะไรไม่ดี ก็ควรให้สิทธิ Blogger ที่จะพูดตรงๆ 

            แต่นักการตลาดโดยส่วนใหญ่แล้ว จะรับกับความตรงไปตรงมาอันนี้ไม่ได้!

            “นี่ฉันจ่ายเงินให้เธอรีวิวนะ เธอจะมาพูดถึงฉันในแง่ไม่ดีได้ยังไง”

            นักการตลาด จึงเข้ามาควบคุม  Blogger  บอกให้พูดนั่นพูดนี่  อันนี้พูดได้  อันนั้นพูดไม่ได้              Blogger คนไหนสายแข็ง ก็อาจจะไม่ยอมทำตาม และปฎิเสธงานไป แต่ถ้า Blogger มือใหม่ สายอ่อน ไม่รู้เท่าทัน  ก็อาจจะเผลอใจ ยอมนักการตลาดไป          พอมี Blogger  ยอมให้นักการตลาดเข้ามาควบคุม  จำนวนมากๆเข้า  มีหรือครับที่คนอ่าน หรือ Consumer จะไม่รู้              Consumer ที่อ่านรีวิว ของ Blogger  ก็พากันเริ่มกรีดร้อง             “นี่เธอรับตังค์มาใช่ไหม  ถึงได้อวยสินค้าขนาดนี้  ฉันซื้อมาใช้ ไม่เห็นจะดีอย่างที่คุยเลย”             “รีวิวแบบนี้  มันม้าชัดๆ”

            ความน่าเชื่อถือของ Blogger โดยรวมของทั้งวงการ จึงค่อยๆ น้อยลงตามลำดับ             ล่าสุดถึงกับเป็นประเด็นที่บรรดาแบรนด์ทั้งหลาย  พากันถามเอเยนซีว่า  “Blogger ยังได้ผลไหม"  และ "เราควรจะใช้ต่อไปหรือไหม" (ทั้งๆที่พวกแบรนด์นี่แหละ ที่เป็นคนทำร้าย Blogger)

            ในทัศนะของผม Blogger ยังจะคงมีอยู่ในการทำ  Digital Marketing   แต่ Role ของ Blogger จะค่อยๆเปลี่ยนไป  จากเดิม  Blogger ที่มีสถานะคล้ายๆกัน  “Influencer”  ที่สามารถกระตุ้น หรือมีอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้ในทันที  ก็จะค่อยๆเปลี่ยนเป็น  “Informer” หรือผู้ให้ข้อมูล ที่จะมีหน้าที่ในการให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าให้กับผู้บริโภคแทน             โดยผู้บริโภคจะไม่เชื่อทัศนคติ หรือ ความเห็น ของ Blogger ในทีเดียว แต่จะเปิดรับข้อมูลหลายๆทาง  อาจจะเว็บไซต์ของแบรนด์, ถามเพื่อนที่รู้จัก , ถามเพื่อนใน Online Community  ฯลฯ จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้า             ลองมาจับตาดูว่าหลังจากนี้ อีกสัก 1-2 ปี  Blogger Marketing จะเปลี่ยนสภาพไปอย่างที่ผมว่าไว้ไหม?             แต่ไม่ว่าอย่างไรช่วงนี้  ตอนนี้  Blogger ก็ฮอตเหลือหลาย  ขออนุญาตสวมวิก ทาลิปสติก ปลอมตัวเป็น Beauty Blogger สักแป๊บ แบรนด์ไหนสนใจ ติดต่อมาได้นะฮ้า ...โซวบักท้ง รับรีวิวสินค้า ทุกชนิด  ตามใจทุกอย่างเลยค่า!!