15 Shades ของบรรยากาศการลงทุน (2)

ของบรรยากาศการลงทุน มีดังนี้


เจ็ด ผมคิดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจจะมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจผ่าน QQE หรือ Quantitative and Qualitative Easing อีกรอบในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากเม็ดเงิน QE ของธนาคารกลางยุโรปที่จะออกมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ น่าจะมีส่วนทำให้ค่าเงินเยนเริ่มแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ซึ่ง ณ นาทีนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังต้องการให้ค่าเงินเยนอ่อนอยู่เพื่อรักษาโมเมนตัมของการที่อัตราเงินเฟ้อเป็นบวกมาระยะหนึ่งแล้วและยังประคองให้ตัวเลขการส่งออกให้ยังสวยเหมือนในช่วงนี้ได้ ที่สำคัญที่สุด ผลทางจิตวิทยาจากการที่ตลาดหุ้นในญี่ปุ่นยังคึกคักอยู่นั้น ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ต่างชาติและประชาชนในญี่ปุ่นยังคงมีความหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าการที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นค่อยๆ ฟื้นตัวในตอนนี้ ถือเป็นการฟื้นตัวที่ยั่งยืน


แปด ปีนี้ต้องถือเป็นปีที่มีความสำคัญมากๆ ของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ว่าจะออกหัวหรือออกก้อยในท้ายที่สุด ดังนั้น จึงขอแบ่งอีก Shade ให้กับญี่ปุ่นไป ผมคิดว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น จะคงนโยบายการคลังหรือลูกศรลูกที่สองของอาเบะโนมิกส์ไว้ตรงประมาณนี้ แล้วไปเร่งให้การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจเดินหน้าให้เห็นผลมากกว่า โดยล่าสุด ที่เห็นเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง ได้แก่ การที่บริษัท Japan Post ซึ่งถือเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่ทำหน้าที่จัดส่งไปรษณีย์ระดับประเทศของญี่ปุ่นใช้เงินราว 5.1 พันล้านดอลลาร์เข้าซื้อบริษัท Toll Holdings ซึ่งเป็นบริษัท Logistics ที่ถือว่ามีชื่อเสียงของออสเตรเลีย ดีลนี้นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดไฟเขียวซื้อกิจการของต่างชาติด้วยเงินที่ไม่ใช่น้อยแบบที่หวังจะเป็นการสร้างเครือข่ายให้กับบริษัทไปรษณีย์ของญี่ปุ่นเพื่อรุกเข้าไปในธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต ต้องบอกได้ว่าการซื้อกิจการในครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของหน่วยงานภาครัฐของญี่ปุ่นที่โดยปกติมักจะดำเนินงานแบบอนุรักษนิยม ซึ่งตรงนี้สามารถมองได้ว่าลูกศรที่สามของนายอาเบะว่าการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ มาแบบเน้นบางโครงการอีกเป็นระลอกในปีนี้


เก้า กระแสของนายนาเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดีย น่าจะลดความนิยมลงทั้งในหมู่ชาวอินเดียและนักลงทุน โดยจะเห็นได้จากการพ่ายแพ้การเลือกตั้งของตัวแทนพรรครัฐบาลเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทว่าเศรษฐกิจของอินเดียยังน่าจะทรงๆ ให้ดีอยู่ด้วยการคุมเชิงของผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียนามว่า นายรากูราม ราจัน ซึ่งพยายามรักษาให้เศรษฐกิจกลับเข้าสู่สมดุลและมีเสถียรภาพได้อีกครั้งตามสไตล์ที่นายราจานถนัดเป็นอย่างดี


สิบ ปี 2015 คงยังไม่ใช่ปีทองของประเทศในตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพอย่างบราซิล อินโดนีเซียและตุรกี โดยถึงแม้ว่าทั้งสามประเทศนี้จะมีขนาดของเศรษฐกิจที่ถือว่าใหญ่และพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ถือได้ว่าแน่นเพียงพอที่จะขึ้นชั้นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในอนาคต ทว่าเนื่องจากตำแหน่งในทางการเมืองของผู้นำทั้งสามประเทศที่ถือว่ายังไม่อยู่ในจุดที่จะพาให้เศรษฐกิจของประเทศตนเองไปได้ไกลกว่านี้มากนัก จึงส่งผลให้ยังต้องรออีกอย่างน้อยอีกหนึ่งปีกว่าจะสามารถสู่ยุคขาขึ้นได้


สิบเอ็ด การเลือกตั้งของอังกฤษที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ผมคาดว่าพรรครัฐบาลของนายเดวิด คาเมรอน น่าจะสามารถกำชัยชนะเหนือนายเอ็ด มิลลิแบน ผู้นำของพรรคแรงงานทว่าต้องลุ้นกันแบบหืดขึ้นคอ และ อังกฤษเองก็คงจะยังคงอยู่ไม่ตัดขาดจากยูโรแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือ No Brexit นั่นเอง


สิบสอง ผมคิดว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเร็วที่สุดในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ เนื่องจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังไม่ดีแบบทุกมิติ และที่สำคัญค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงแข็งอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เฟดถึงจะขึ้นดอกเบี้ยก็คงขึ้นเพียงแค่ราวร้อยละ 0.1 เท่านั้น


สิบสาม ปีนี้เราน่าจะได้เห็นความผันผวนของเศรษฐกิจรัสเซียกันเป็นระลอกๆ จากทั้งราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับที่ต่ำและจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความไม่เข้มแข็งของธนาคารกลางรัสเซียในการจัดการกับวิกฤติครั้งนี้


สิบสี่ ราคาน้ำมันน่าจะเชื่อได้ว่ายังคงอยู่ในช่วงราคาประมาณ 45-75 ดอลลาร์ โดยส่วนตัว ผมคาดว่าจุดต่ำของราคาน้ำมันในปีนี้ยังน่าจะเป็นราคาต่ำสุดเมื่อตอนต้นปี ส่วนครึ่งปีหลังน่าจะมีราคาโดยเฉลี่ยสูงกว่าครึ่งปีแรก จากเศรษฐกิจยุโรปที่น่าจะดีกว่าตอนนี้


ท้ายสุด ผมคิดว่าด้วยวิกฤติกรีซที่น่าจะรุนแรงกว่านี้มากในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ และ การใช้อำนาจทางทหารของรัสเซียของนายวลาดิเมียร์ ปูตินที่คงยังน่าจะมาเป็นพักๆ ผมคิดว่าปีนี้ เราน่าจะได้เห็นนางแองเจลา แมร์เคิล แสดงฝีมือกันอีกรอบ และอาจจะได้เห็นนางแมร์เคิลกลายเป็นบุคคลแห่งปี 2015 ก็เป็นได้ครับ
---------------------
หมายเหตุ : หนังสือเล่มล่าสุดด้านการลงทุนด้วยข้อมูลเชิงมหภาคของผู้เขียน “เล่นหุ้นในไทย รวยไกลรอบโลก” เริ่มวางจำหน่ายทั่วประเทศแล้ว และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้ที่ www.facebook.com/MacroView และ LINE ID: MacroView ครับ