เลือกข้างอำมาตย์

เลือกข้างอำมาตย์

องค์กรจัดตั้งมวลชนที่มาแรงในเวลานี้ ต้องยกให้ "กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ" (อพปช.) เพราะมีน้ำเลี้ยงดี

และมีการตั้งเป้าทำยอดสมาชิก ราวกับเป็นบริษัทเครือข่ายขายตรง

สุภรณ์ อัตถาวงศ์ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) มั่นอกมั่นใจว่า จะทำให้ "อพปช." ติดตลาดให้เร็วที่สุด

ประกอบกับขวัญชัย ไพรพนาประธานชมรมคนรักภาคอีสาน และประธานชมรมคนรักอุดร แสดงเจตจำนงร่วมก่อร่างสร้างองค์กรนี้ด้วย จึงทำให้ อพปช.โตวันโตคืน เหมือนได้ปุ๋ยเร่งดอกเร่งใบ

ว่ากันตามจริง "แรมโบ้อีสาน" ก็แค่เอาป้าย "อพปช." มาปิดทับ "ชมรมคนรักภาคอีสาน 20 จังหวัด" เนื่องจากแกนนำระดับจังหวัด ที่มาประชุม ณ โรงแรมตักศิลา มหาสารคาม ล้วนเป็น "เด็กขวัญชัย" ทั้งสิ้น

ฉะนั้น อพปช. จึงไม่ใช่ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ไม่ใช่กองกำลังติดอาวุธ หากแต่เป็นองค์กรการเมืองภาคประชาชน ที่ถูกออกแบบมาถ่วงดุล นปช. โดย "นักการเมืองใหญ่" ของพรรคเพื่อไทย

000

อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับ "แรมโบ้อีสาน" และ "อพปช." คือ ข่าวกองกำลังแบ่งแยกดินแดนสกลนคร โดยอ้างว่า อดีตสหายหรือแกนนำผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) 10 คน ประชุมกันที่บ้านหนองม่วง สกลนคร เตรียมจัดตั้งกองกำลังแบ่งแยกดินแดน

ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจาก "หน่วยข่าว กอ.รมน.ภาค 2" ว่า ข้อมูลคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจากพื้นที่

เรื่องจริงจากหนองม่วงมีดังนี้ เมื่อ 17 มีนาคม 2557 ผรท.สกลนคร และบางกลุ่มที่มาจากอีสานใต้ ได้จัดประชุมที่สำนักสงฆ์บ้านหนองม่วง หมู่ 10 ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมประมาณ 200 คน

ในการประชุมครั้ง มีตัวแทนหน่วยข่าวจากกรมประมวลข่าวกลาง และหน่วยข่าว กอ.รมน.ภาค 2 ส่วนหน้า(ค่ายกฤษณ์สีวะรา) เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

แกนนำที่สำคัญ ประกอบด้วย สมาน ขันตี (ส.ธานี), ชาลี ลีละครจันทร์ (ส.ไพลิน), เตรียม สาลีนันท์ (ส.ศักดิ์สิทธิ์),สุพล หมื่นศรีพรม (ส.ธวัชชัย), ทิพย์รัตน์ ทองบ่อ (ส.ฤดี), พา พลศรี (ส.เลือดไทย) และ ขันตี ไททนุ (ส.บุญมี)

ในการประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญคือ สมาน ขันตี แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มีผู้เสนอให้นำสมาชิกในเครือข่ายกลุ่ม ผรท.สกลนคร เข้าร่วมสมัครเป็น อพปช. จึงขอมติจากที่ประชุมว่าเห็นด้วยหรือไม่?

แกนนำ ผรท.ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยที่จะเข้าร่วมกับ อพปช. เพราะไม่ต้องการตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง มตินี้จึงตกไป

วาระต่อมา แกนนำ ผรท.หลายคนมีแนวความคิดจะจัดตั้งกลุ่ม ให้เป็นองค์กรถูกต้องตามกฎหมาย และไม่เลือกข้างใด ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง

ในที่สุด แกนนำ ผรท.กลุ่มนี้ มีมติตั้งชื่อว่า"กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ปกป้องประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข"

โดยให้แต่ละกลุ่มนำสมาชิกของกลุ่มในแต่ละจังหวัดมาสมัครเป็นสมาชิก โดยจะมีเครื่องหมายติดที่หัวกระดาษ และคิดค่าสมัครรายละ 20 บาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการ

เบื้องต้นมติที่ประชุมเห็นควรให้ "ส.ธานี" หรือ สมาน ขันตี ส.ธานี เป็นประธาน!

ในการประชุม ผรท.ที่บ้านหนองม่วง ไม่มีปราโมทย์ พรหมพินิจหรือส.รับรองแกนนำ ผรท.นครพนม มาร่วมประชุมตามข่าวที่มีชื่อของเขา อยู่ในฐานะแกนนำกองกำลังแบ่งแยกดินแดน

ส่วนแกนนำ ผรท.ที่เข้าไปร่วมกับ "แรมโบ้อีสาน" คือ ผรท.กลุ่มจันทร์แดง (ส.วิไล) ซึ่งได้นำมวลชนร้อยกว่าคนไปสมัครเป็นสมาชิก อพปช.

เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2557 "ส.ไพลิน" พร้อมตัวแทน ผรท.สกลนคร 15 คน ได้เข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ณ สำงานมูลนิธิรัฐบุรุษ ซึ่งในวันนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ได้ถามไถ่ถึงชีวิตความเป็นอยู่ และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาบ้านเมือง

จากวันนั้น "ส.ไพลิน" จึงมีความคิดตั้งองค์กร ผรท.ให้เป็นศูนย์ประสานงาน และเน้นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในหมู่ ผรท. ตามคำแนะนำของ พล.อ.สุรยุทธ์

"กลุ่ม ผรท.ปกป้องประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" จึงถือกำเนิดขึ้นที่บ้านหนองม่วง สกลนคร ท่ามกลางข่าวลือข่าวลวงจากสมรภูมิศึกสองขั้ว