ภารกิจลับ "มนุษย์กบ"

ภารกิจลับ "มนุษย์กบ"

ภาพมวลมหาประชาชน กปปส.ยกขบวนไปให้กำลังใจ "สุภาพบุรุษนาวีไทย" ถึงฐานทัพเรือสัตหีบ ทำให้นึกถึงภาพเก่าๆ

ของ พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 ในนาม "ทหารพระราชา" ก่อนการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ในสถานการณ์การเมืองเข้มข้น พ.ศ.ปัจจุบันพล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (ผบ.นสร.) กำลังมาแทนที่ "พล.อ.สะพรั่ง"

ผบ.หน่วยซีล วัย 57 ปี ประกาศชัดถ้อยชัดคำ พิทักษ์ประชาชน พิทักษ์ราชบัลลังก์ ในฐานะทหารของพระราชาและทหารของประชาชน

"พล.ร.ต.วินัย" เป็นลูกทหารเรือชั้นประทวน ที่เติบโตมาจากชุมชนชาวมอญ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ด้วยเหตุนี้ "สมัยเด็กคิดเล่นๆ ว่า โตขึ้นจะเป็นทหาร และจะไปกู้ชาติมอญ" แต่ฝันจริงๆ ของเขาคือ อยากเป็นนักเรียนนายเรือ

"สอบเป็นทหารปีแรก ก็สอบเข้าไม่ได้ นอนร้องไห้ แต่ร้องไห้ไปก็ทำใจไป และเริ่มนับถอยหลัง 365 วัน แล้วหลังจากวันนั้น ก็ดูหนังสือทุกวันๆ ห้องสมุดคือที่กวดวิชาของผม และผมก็สอบได้ในปีที่ 2 มาถึงวันนี้ภาคภูมิใจที่สุดแล้ว"

ทำไมมนุษย์กบ ต้องยกพลขึ้นบกที่ราชดำเนิน? เป็นคำถามที่หลายคนกังขา เมื่อตำรวจนางเลิ้งตั้งด่านตรวจจับ "หน่วยซีล" หรือ "มนุษย์กบ" 3 นายที่มาโผล่ในพื้นที่การชุมนุมของ กปปส. แถมเจอ "บัตรการ์ด คปท." อีกต่างหาก

"งานของมนุษย์กบ ก็คืองานสงครามไม่ตามแบบ ซึ่งแบ่งออกเป็นการรบนอกแบบ คือ การป้องกันและปราบปรามความไม่สงบ การปฏิบัติการหน่วยพิเศษเป็นไปตามหน่วยจิตวิทยามวลชน ตามข่าวลับ อะไรทั้งหลายเหล่านี้"

ผบ.หน่วยซีลย้ำว่า หน่วยซีลที่ไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชุมนุม กปปส.คือ"งานการสงคราม"ซึ่งต้องทำกันในยามปกติ โดยเฉพาะงานข่าว

"มันยังไม่ถึงสงครามกลางเมือง แต่มันก็ใกล้เข้ามา ใกล้ถึงจุดที่มันจะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ"

หน่วยซีลเก็บข้อมูลมาตั้งแต่เหตุการณ์ความไม่สงบ ในเดือนพฤษภาคม 2553 "พล.ร.ต.วินัย" จึงกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า มีการนำเอา "ชายชุดดำ" จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรง และใน พ.ศ.นี้ ก็มีการนำเข้าชายชุดดำอีก

หากประเมินสถานการณ์การเมืองวันนี้ "มนุษย์กบตัวพ่อ" ชี้ว่า "สภาพมันเลวร้ายมากขึ้นๆ จนกระทั่งผมคิดว่า ถ้าคนใช้อำนาจรัฐ ใช้ไปในทางที่ผิด ประเทศก็จะเกิดความเดือดร้อน ประชาชนก็จะระส่ำระสาย เพราะฉะนั้น ตรงนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"

ผู้ที่ใกล้ชิด ผบ.หน่วยซีล ก็ไม่ค่อยแปลกใจกับคำให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลายสำนักในช่วงนี้ โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อเหลืองสัตหีบนั้นทราบดีว่า แนวคิดทางการเมืองของ ผบ.หน่วยซีลคนนี้เป็นอย่างไร?

แม้ว่าผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพเรือ พยายามปรามผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้แสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ ผบ.หน่วยซีล ได้แสดงจุดยืนอันมั่นคง

"ผมเป็นทหารของชาติ ทหารขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทหารของประชาชนชาวไทย ฉะนั้น ผมนิ่งนอนใจไม่ได้ครับ"

พ.ศ.นี้ ประเทศชาติกำลังจะล่มจม หน่วยซีลที่เปรียบเสมือนเป็นทหารพระเจ้าตาก จึงอยู่นิ่งเฉยไม่ได้

"การทำงานของมนุษย์กบ คือหน่วยรบพิเศษนักทำลายใต้น้ำจู่โจม เคลื่อนที่เร็วเหมือนกองโจร ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่เหมือนทหารในสมัยของพระเจ้าตากกู้ชาติในอดีต"

ด้วยเกียรติศักดิ์ทหารเรือ "พล.ร.ต.วินัย" รับไม่ได้ที่ตำรวจปฏิบัติกับลูกน้องแบบไม่ให้เกียรติ โดยเฉพาะการนำภาพ "หน่วยซีล" 6 คน ไปติดประกาศราวกับเป็นอาชญากร จึงลุกขึ้นมาดับเครื่องชน ประกาศจะฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

"ความจริงผมตั้งใจจะลาออกจากราชการตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่ผมทำงานให้หน่วยนี้เสร็จแล้ว คือการเป็น ผบ.นสร.ครบ 4 ปี แต่ผมก็อยู่ต่อ จนขณะนี้เข้าปีที่ 8 แล้ว ผมไม่หนักใจเลย"

เดือนตุลาคมที่ผ่านมา พล.ร.ต.วินัย ต้องขยับขึ้นไปรับตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่ "มนุษย์กบตัวพ่อ" ได้กลิ่นการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง จึงขอดูแลหน่วยซีลต่อ เพื่อพิทักษ์ชาติ และราชบัลลังก์