เชฟมิชลินกับแฟชั่นโชว์

เชฟมิชลินกับแฟชั่นโชว์

ชิมอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเสะ พร้อมชมแฟชั่น

 

            ก่อนจะถึงวันประกาศผลรางวัลมิชลินไกด์ ประเทศไทย (ในวันที่ 6 ธันวาคม) ยามนี้นักชิมก็ตามไปชิมเชฟติดดาวตามที่ต่าง ๆ ทั้งเชฟมิชลินรับเชิญจากต่างประเทศ และร้านอาหารติดดาวมิชลินหลายแห่งในกรุงเทพฯ

            ล่าสุด บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (ไทย) จำกัด จัดงานกาล่าดินเนอร์สุดหรู เพื่อขอบคุณสมาชิกบัตรแพลทินัม พร้อมเปิดตัวสิทธิประโยชน์ใหม่ของบัตรแพลทินัมอเมริกันเอ็กซ์เพรส ที่คัดสรรมาตอบสนองไลฟ์สไตล์สุดพรีเมียมของสมาชิกบัตร ณ ห้องคันธวาส โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะ ลักซ์ชัวรี คอลเลคชั่น โฮเทล

          ในงานนี้ แขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมดินเนอร์กับเมนูพิเศษพร้อมชมสาธิตการทำซูชิและรับประทานซูชิฝีมือ เชฟโทชิ โอนิชิ (Toshi Onishi) จากร้าน Sushi Zo ร้านอาหารสไตล์โอมากาเสะที่โดดเด่นในด้านอิทไตกัง (Ittaikan) ซึ่งหมายถึงการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอาหารทะเล (Neta) และข้าวซูชิ (Shari)  และได้รับมิชลินสตาร์ 1 ดวง จากร้านสองสาขา (1 ดวง ปี 2009 สาขาลอสแองเจลิส, 1 ดวง สาขานิวยอร์ก ปี 2016) ต่อด้วยเมนูอาหารฝรั่งเศส 5 คอร์ส จากเชฟของโรงแรม ระหว่างนี้ก็ชมแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2018 จาก Roberto Cavali and John Varvatos อย่างใกล้ชิด

          โดยไฮไลท์พิเศษจากเชฟ Toshi Onishi กับทีมงานจากร้านติดดาวมิชลินนั้นอยู่ที่เชฟมาสาธิตทำ ซูชิฮิราเมะ หรือซูชิหน้าปลาตาเดียว และเสิร์ฟถึงโต๊ะ เชฟบอกว่าเนื้อปลาส่วนพิเศษนี้แตกต่างจากร้านอื่น เพราะมีความนุ่มละมุนที่สุด พร้อมโชยุสูตรพิเศษที่ปาดเพียงบาง ๆ กับซอสจากส้มยูซุ ที่มีกลิ่นหอม และมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ในขณะที่ภายในข้าวปั้นนั้นเชฟวางวาซาบิชิ้นเล็ก ๆ เอาไว้ ส่วนวิธีรับประทานนั้น เชฟ Toshi บอกว่า สามารถใช้ตะเกียบคีบหรือรับประทานด้วยนิ้วที่ทำขนาดพอดีคำ การใช้นิ้วหยิบข้าวปั้นนั้นยังทำให้นิ้วมือได้สัมผัสกับข้าวปั้นที่ยังอุ่น ๆ อยู่ อีกทั้งเชฟมีกระดาษทิชชู่ชุบน้ำบาง ๆ วางไว้ในถ้วยใบเล็กเตรียมไว้ให้เช็ดมือ ซึ่งนับเป็นความละเอียดของอ่อนของเชฟญี่ปุ่น

ซูชิฝีมือ เชฟ Toshi Onishi re_1

          อย่างที่รู้ว่า การรับประทานอาหารแบบโอมากาเสะ (Omakase) คือต้องไปที่ร้าน นั่งหน้าเคาน์เตอร์ที่มีไม่กี่ที่นั่ง แล้วรอคอยให้เชฟทำข้าวปั้นให้รับประทานทีละคำ ๆ ทั้งชมและชิมต่อหน้าเชฟ คำว่า “โอมากาเสะ” ยังมีความหมายว่า “ฉันยกให้คุณจัดการเลย” หรือ I’ll leave it to you หรือเท่ากับคำว่า Chef’s Table ซูชิสไตล์โอมากาเสะ จึงหมายถึงการมอบให้เชฟเป็นผู้ตัดสินใจในอาหารทุกเมนู บางคนก็เรียกว่าเป็น “ซูชิตามใจเชฟ” หากลูกค้าก็พึงพอใจเพราะมั่นใจว่า เมื่อมาที่ร้านอาหารสไตล์โอมากาเสะแล้ว เชฟจะคัดสรรวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ดีที่สุด ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ข้าว การหุง การปรุงรสข้าว การควบคุมอุณหภูมิให้อุ่นกำลังดี เทคนิคการปั้นเพื่อไม่ให้ข้าวแน่นเกินไปหรือกระจายตัวมากเกินไป และส่วนที่สำคัญที่สุดคือวัตถุดิบปลาและอาหารทะเลชนิดต่าง ๆ การเลือกปลา การเอจจิ้ง (บ่มปลา) การแล่ จนถึงการจัดวางที่สวยงาม เชฟโอมากาเสะจะลำดับเมนูอาหารให้มีการไต่ระดับของรสชาติ เพื่อสัมผัสความอร่อยอย่างลึกซึ้งของข้าวปั้น ปลา และโชยุ

        ซูชิ โซ ก่อตั้งโดย เชฟเคโซ เซกิ (Keizo Seki) จากโอซาก้า ที่ได้ไปใช้ชีวิตในโตเกียวเพื่อเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำซูชิจนชำนาญ จากนั้นในปี 1991 เขาได้ไปเรียนต่อในด้านอุตสาหกรรมและธุรกิจร้านอาหารที่ลอสแองเจลิส พร้อมความฝันของเขาที่จะเปิดร้านซูชิสไตล์เอโดะ ในที่สุดเขาได้เปิดร้าน Sushi Zo ในปี 2006 ตั้งอยู่ที่ลอสแองเจลิสฝั่งตะวันตก และใช้เวลาเพียง 3 ปี ก็ได้รับมิชลินสตาร์ 1 ดวง และในปี 2016 ได้เปิด Sushi Zo Downtown เป็นสาขาที่ 2 ในย่านดาวน์ทาวน์ในลอสแองเจลิส และขยายสู่สาขาที่ 3 Sushi Zo New York ที่แมนฮัตตัน และคว้ามิชลินสตาร์ 1 ดวง มาครอง สำหรับสาขาที่ 4 ภายใต้ชื่อ Sushi Zo Bangkok นับเป็นสาขาแรกในเอเชีย ตั้งอยู่ ณ พลาซ่า แอทธินี ทาวเวอร์ ถนนวิทยุ ดูแลโดยศิษย์เอกมือหนึ่งของเชฟเซกิ คือ เชฟโทชิ โอนิชิ  ที่ฝึกปรือฝีมือจนชำนาญ นำเสนอซูชิที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยสร้างความสมดุลของความเป็นตะวันออกสไตล์ญี่ปุ่นแท้จากขั้นตอนอันพิถีพิถันผสมผสานกับความครีเอทีฟตามแบบฉบับตะวันตกในสไตล์ลอสแองเจลิส อย่างไรก็ตาม เชฟโทชิ ยังคำนึงถึงความสมบูรณ์แบบตามวิถีญี่ปุ่นดั้งเดิม คือให้ความสำคัญกับข้าวซูชิโดยใช้ข้าวจากฮอกไกโด และหุงข้าวด้วยน้ำแร่บริสุทธิ์ที่มาจากฮอกไกโด และปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู 2 ชนิด ทั้งน้ำส้มสายชูแดงและขาวเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม รวมถึงการปั้นให้ได้สัดส่วนของข้าวและปลาพอดีคำ และมีความแน่นที่พอเหมาะ เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่สมดุลระหว่างปลากับข้าว รวมไปถึงการใส่ใจในการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมตามฤดูกาลจากหลากหลายแหล่งทั่วโลก โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นในแต่ละภูมิภาค และปลาแปลก ๆ ที่หาทานยากแวะเวียนมาให้ชิม มีอาทิ ปลา Yagara, ท้องปลา Hagatsuo, ตับปลา Ankimo เป็นต้น

SHUSI ZO2

  แฟชั่นโชว์จาก Roberto Cavali and John Varvatos1re           

แฟชั่นโชว์จาก Roberto Cavali and John Varvatos2re

4-1re

DSC_2206re

DSC_2328re

แฟชั่นโชว์จาก Roberto Cavali and John Varvatos3re

DSC_2242re

     ระหว่างชมและชิมซูชิติดดาวและอาหารฝรั่งเศส 5 คอร์ส ก็เพลิดเพลินไปกับแฟชั่นโชว์รอบโต๊ะอาหาร คอลเลคชั่นล่าสุด เรดี้ ทู แวร์ ของ Roberto Cavalli and John Varvatos ที่ยังคงเอกลักษณ์โบฮีเมียนสไตล์ เช่น แม็กซี่และคาฟตันเดรสผ้าไหมลายพิมพ์ดอกดวงทับซ้อนสีสดชัด กางเกงผ้าไหมทรงข้าม้าลายพรรณไม้ กลีบดอกกับปะการัง เจอร์ซี่เดรสปักเลื่อม เดนิมที่ปักลายดอกไม้ ลูกเล่นของงานจับจีบระบาย สูทเทเลอร์คัตติ้งเฉียบคมในผ้าลายดอกสีสดใส และชุดสุภาพบุรุษที่มากับผ้าพันคอพิมพ์ลายเนื้อบางเบา

          เป็นซูชิสไตล์โอมากาเสะที่มาพร้อมเสื้อผ้าแสนสวย...