การผลิตอุตสาหกรรม 'จีน' ดีเกินคาด สวนทางค้าปลีกดิ่งลงแรง ฉุดหุ้นเอเชียซึม

การผลิตอุตสาหกรรม 'จีน' ดีเกินคาด สวนทางค้าปลีกดิ่งลงแรง ฉุดหุ้นเอเชียซึม

จีนเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมแกร่งเกินคาด แต่ค้าปลีก-ลงทุน แย่เกินกว่าที่คิด สะท้อนตลาดในประเทศจีนยังไม่ฟื้นเท่าที่ควร ฉุดบรรยากาศตลาดหุ้นเอเชียแผ่ว

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของจีนหลายรายการในวันนี้ (17 พ.ค.) ซึ่งมีทั้งสัญญาณบวกและลบไปพร้อมกัน นำโดยตัวเลข "การผลิตภาคอุตสาหกรรม" เดือน เม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 5.5% และแข็งแกร่งกว่าในเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 4.5% สะท้อนถึงด้านที่สดใสในภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกของจีน
 

อย่างไรก็ตาม "ยอดค้าปลีก" เดือน เม.ย.ปรับตัวขึ้นเพียง 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 3.8% และชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 3.1% สะท้อนถึงการบริโภคภายในประเทศงของจีนที่ยังคงอ่อนแรง

ส่วน "การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร" ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวขึ้น 4.2% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คดาการณ์ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 4.6%

รายงานของ NBS ยังระบุด้วยว่า "การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์" ของจีนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 9.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนด้านการผลิตในช่วงเวลาดังกล่าวปรับตัวลงเล็กน้อย

ในขณะที่ "อัตราว่างงานในพื้นที่เขตเมือง" ของจีนอยู่ที่ระดับ 5% ในเดือนเม.ย. โดย NBS เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า NBS จะเผยแพร่อัตราว่างงานโดยแยกเป็นช่วงอายุของประชาชน หลังจากมีการเปิดเผยอัตราว่างงานโดยรวม

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า NBS ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนเม.ย.ได้รับผลกระทบจากวันหยุดเนื่องในวันแรงงานเมื่อวันที่ 1 พ.ค. และผลกระทบจากฐานที่อยู่ในระดับสูงเมื่อปีที่แล้ว

"ข้อมูลบ่งชี้สำคัญในภาคอุตสาหกรรม การส่งออก การจ้างงาน และราคานั้น ฟื้นตัวขึ้นเมื่อพิจารณาในภาพรวม โดยภาคส่วนเหล่านี้เป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ที่ทำให้เศรษฐกิจยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็ว" NBS ระบุในแถลงการณ์


ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ เจอแรงฉุดตัวเลขเศรษฐกิจจีน 

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (17 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนเพื่อจับทิศทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก

ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดฮ่องกง ปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,433.14 จุด เพิ่มขึ้น 56.61 จุด หรือ +0.29% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดเช้าที่ 3,119.27 จุด ลดลง 3.13 จุด หรือ -0.10% 

ส่วนดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,782.08 จุด ลดลง 138.18 จุด หรือ -0.36%

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 3.8% และชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 3.1%